โยนาห์ 2:4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

⁴ ข้าพระองค์กล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ถูกเนรเทศ พ้นจากสายพระเนตรของพระองค์แล้ว ถึงกระนั้นข้าพระองค์จะมุ่งมอง ไปยังพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อีก’

その他のバージョン

ฉบับมาตรฐาน

⁴ ข้าพระองค์จึงทูลว่า ‘ข้าพระองค์ถูกไล่ให้พ้นจากพระเนตรของพระองค์ ข้าพระองค์จะเงยหน้าดู พระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์อีกได้อย่างไร?’

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

⁴ ข้าพระองค์จึงทูลว่า ‘ข้าพระองค์​ถู​กเหวี่ยงให้พ้นจากสายพระเนตรของพระองค์ แต่​ข้าพระองค์จะเงยหน้าดูพระวิหารบริ​สุทธิ​์ของพระองค์​ได้​อีก​’

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

⁴ แล้ว​ข้าพเจ้า​ก็​พูดว่า ข้าพเจ้า​ถูก​ขับไล่​ออกไป​ให้​พ้น​หน้าพระองค์ แต่​ข้าพเจ้า​จะ​ได้เห็น​วิหาร​อันศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์​อีก

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

⁴ ข้าพ​เจ้า​จึง​ว่า, ข้าพ​เจ้า​ถูก​ทอดทิ้ง​ไป​จาก​พระเนตร​ของ​พระองค์. ถึงกระนั้น​ข้าพ​เจ้า​ยัง​จะ​มอง​เพ่ง​ไป​ทาง​พระ​วิหาร​อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์​อีก.

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

⁴ ข้าพเจ้า​จึง​พูด​ว่า ‘ข้าพเจ้า​ถูก​ขับ​ไป จาก​สายตา​ของ​พระ​องค์ กระนั้น ข้าพเจ้า​ก็​ยัง​จะ​มอง​ดู​พระ​วิหาร อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระ​องค์​อีก’

โยนาห์ 2:4 相互参照

เพลงสดุดี 31:22

ในยามตกใจ ข้าพระองค์กล่าวว่า “ข้าพระองค์ถูกตัดออกจากสายพระเนตรของพระองค์!” แต่พระองค์ทรงสดับฟังคำทูลขอพระเมตตาของข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย

เพลงสดุดี 5:7

แต่ข้าพระองค์จะเข้ามายังพระนิเวศของพระองค์ โดยความรักเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าพระองค์จะกราบนมัสการพระองค์ด้วยความยำเกรง ตรงต่อพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

อิสยาห์ 38:17

แน่นอน ที่ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานเช่นนี้ ก็เป็นผลดีแก่ข้าพระองค์เอง โดยความรักของพระองค์ พระองค์ทรงปกป้องข้าพระองค์ ให้พ้นจากห้วงหายนะ พระองค์ทรงนำบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ ไปไว้ข้างหลังพระองค์

2พงศาวดาร 6:38

และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์

ดาเนียล 6:10

เมื่อดาเนียลทราบว่าพระราชกฤษฎีกาประกาศใช้แล้ว เขาก็กลับบ้านและขึ้นไปยังห้องชั้นบนซึ่งหน้าต่างเปิดไปทางกรุงเยรูซาเล็ม เขาคุกเข่า อธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้าของเขาวันละสามครั้งตามที่เคยปฏิบัติเสมอมา

เยเรมีย์ 7:15

เราจะเหวี่ยงเจ้าไปให้พ้นหน้าเรา เหมือนที่เราได้ทำแก่ชนเอฟราอิมพี่น้องของเจ้า’

ยะเอศเคล 37:11

แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด พวกเขากล่าวว่า ‘กระดูกของเราแห้งกรัง ความหวังของเราสูญสิ้น เราถูกทำลายแล้ว’

เยเรมีย์ 15:1

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ต่อให้โมเสสและซามูเอลมายืนวิงวอนเพื่อชนชาตินี้ต่อหน้าเรา เราก็จะไม่ใจอ่อนช่วยพวกเขา เอาพวกเขาออกไปให้พ้นหน้าเรา! ไปให้พ้น!

อิสยาห์ 49:14

แต่ศิโยนกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดทิ้งข้าแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลืมข้าไปแล้ว”

1พงศ์กษัตริย์ 9:7

เราก็จะตัดอิสราเอลออกจากดินแดนซึ่งเราได้ยกให้เขา เราจะทิ้งวิหารแห่งนี้ซึ่งเราได้ชำระให้บริสุทธิ์เพื่อนามของเรา อิสราเอลจะกลายเป็นที่เย้ยหยันและคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติ

1พงศ์กษัตริย์ 8:48

และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์

1พงศ์กษัตริย์ 8:42

เพราะผู้คนจะได้ยินถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และพระกรที่เหยียดออกของพระองค์ เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระวิหารนี้

โยนาห์ 2:7

“เมื่อชีวิตของข้าพระองค์กำลังจะหลุดลอยไป ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ระลึกถึงพระองค์ คำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นไปถึงพระองค์ ไปถึงพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

เพลงสดุดี 42:8

ยามกลางวัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์ ยามกลางคืน บทเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า เป็นคำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า

เพลงสดุดี 88:6

พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์จมลงในหลุมที่ลึกที่สุด ในห้วงลึกที่มืดมิดที่สุด

เพลงสดุดี 88:7

พระพิโรธของพระองค์ตกหนักอยู่เหนือข้าพระองค์ พระองค์ทรงให้กระแสคลื่นของพระองค์ซัดท่วมข้าพระองค์ เสลาห์

เพลงคร่ำครวญ 3:54

น้ำไหลท่วมมิดศีรษะของข้าพเจ้า จนข้าพเจ้าคิดว่าตัวเองถึงจุดจบแล้ว