เยเรมีย์ 32:10 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

¹⁰ ข้าพเจ้าลงชื่อและประทับตราในสัญญาซื้อขายต่อหน้าพยาน แล้วเอาเงินมาชั่งจ่ายให้เขา

その他のバージョン

ฉบับมาตรฐาน

¹⁰ ข้าพเจ้าก็ลงนามในโฉนดประทับตราไว้ให้พยานรับรองและเอาตาชั่งชั่งเงิน

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

¹⁰ ข้าพระองค์​ก็​ลงนามในโฉนดประทับตราไว้ เป็นพยานและเอาตาชั่งชั่งเงิน

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

¹⁰ ผม​ได้​เขียน​เป็น​สัญญา​ซื้อขาย​ขึ้นมา เอา​เชือก​มัด​แล้ว​หยด​ครั่ง​ลง​บน​เชือก และ​ให้​พยาน​เซ็นชื่อ​รับรอง แล้ว​ผม​ก็​ชั่ง​เงิน​จ่าย​เขาไป

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

¹⁰ แล​ข้าพ​เจ้า​ได้​ลงชื่อ​ไว้​ที่​หนังสือ​ประ​ทวน, ตีตรา​ประทับ​ไว้​แล้ว, แล้ว​ได้​จัด​คน​เป็น​พะ​ยาน​รู้เห็น​หลาย​คน, แล​ได้​ชั่ง​เงิน​ใน​ตราชู​ให้​เขา.

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

¹⁰ ข้าพเจ้า​เซ็น​สัญญา​และ​ผนึก​ตรา มี​พยาน และ​ชั่ง​เงิน​บน​ตราชั่ง

เยเรมีย์ 32:10 相互参照

เยเรมีย์ 32:44

จะมีการจ่ายเงินซื้อขายที่ดิน จะมีการลงนามประทับตราและมีพยานรับรองสัญญาในเขตแดนเบนยามิน ในหมู่บ้านต่างๆ รอบกรุงเยรูซาเล็ม ในหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ ในดินแดนเทือกเขา เชิงเขาด้านตะวันตกและในเนเกบ เพราะเราจะให้พวกเขากลับสู่สภาพดีดังเดิมองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น”

เยเรมีย์ 32:12

ข้าพเจ้ายื่นเอกสารเหล่านี้ให้แก่บารุคบุตรเนริยาห์ซึ่งเป็นบุตรของมาอาเสอาห์ ต่อหน้าฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้าพเจ้าและพยานทั้งหลายที่ได้ลงนามในสัญญา และต่อหน้าชาวยิวทั้งปวงที่นั่งอยู่ในลานทหารรักษาพระองค์

เยเรมีย์ 32:25

แต่ถึงแม้กรุงนี้จะตกเป็นของชาวบาบิโลน พระองค์ผู้ทรงเป็นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตก็ยังคงตรัสกับข้าพระองค์ว่า ‘จงจ่ายเงินซื้อที่ดินต่อหน้าพยาน’ ”

อิสยาห์ 44:5

คนหนึ่งจะพูดขึ้นว่า ‘ฉันเป็นกรรมสิทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ อีกคนหนึ่งจะเรียกตัวเองตามชื่อของยาโคบ ส่วนอีกคนจะเขียนที่มือของตนว่า ‘เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ และจะใช้ชื่ออิสราเอล

โยบ 14:17

การล่วงละเมิดของข้าพระองค์จะถูกผนึกตราไว้ในถุง จะทรงปกปิดบาปของข้าพระองค์ไว้

พระบัญญัติ 32:34

“เราเก็บงำเรื่องนี้ และประทับตราเก็บไว้ในคลังของเราไม่ใช่หรือ?

วิวรณ์ 9:4

พวกมันถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำลายหญ้า ต้นไม้ พืชพันธุ์ในโลก แต่ให้ทำร้ายเฉพาะผู้คนที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้าบนหน้าผาก

วิวรณ์ 7:2

แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์ขึ้นมาจากทางตะวันออกถือดวงตราของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ทูตนั้นร้องบอกเสียงดังแก่ทูตสวรรค์ทั้งสี่ซึ่งได้รับอำนาจให้ทำอันตรายแก่แผ่นดินและทะเลว่า

เอเฟซัส 4:30

และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย โดยพระวิญญาณนี้ท่านได้รับการประทับตราแล้วสำหรับวันแห่งการทรงไถ่ให้รอด

เอเฟซัส 1:13

และท่านทั้งหลายก็ได้ร่วมอยู่ในพระคริสต์เช่นกัน เมื่อท่านได้ฟังพระวจนะแห่งความจริงคือข่าวประเสริฐแห่งความรอดของท่าน เมื่อท่านเชื่อก็ทรงประทับตราท่านไว้ในพระองค์ด้วยดวงตราคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสัญญาไว้

2โครินธ์ 1:22

ทรงประทับตราแสดงความเป็นเจ้าของบนเรา และประทานพระวิญญาณของพระองค์ไว้ในใจเราเป็นมัดจำค้ำประกันในสิ่งที่จะมาถึง

โย​ฮัน 6:27

อย่าขวนขวายหาอาหารที่เน่าเสียได้ แต่จงหาอาหารที่คงอยู่ถึงชีวิตนิรันดร์ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน พระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรารับรองบุตรมนุษย์แล้ว”

โย​ฮัน 3:33

ผู้ที่รับคำพยานนั้นก็ให้การรับรองว่าพระเจ้าทรงสัตย์จริง

ดาเนียล 8:26

“นิมิตเกี่ยวกับวันและคืนซึ่งบอกท่านแล้วนั้นจะเป็นจริง แต่จงประทับตราเก็บไว้เพราะเกี่ยวกับอนาคตอันไกล”

อิสยาห์ 30:8

บัดนี้จงไปเขียนไว้บนแผ่นจารึกสำหรับพวกเขา เขียนลงบนหนังสือม้วน เพื่อวันข้างหน้า จะได้เป็นพยานหลักฐานที่ยืนยงตลอดไป

เพลงซาโลมอน 8:6

โปรดให้ดิฉันเป็นดั่งดวงตราประทับที่ใจ และที่แขนของคุณเพื่อแสดงว่าคุณเป็นของดิฉัน เพราะความรักทรงอำนาจประหนึ่งความตาย และความหึงหวงคงทนราวกับแดนผู้ตาย ความรักนั้นแผดเผาดั่งไฟ เสมือนเปลวไฟแรงกล้า

โยชูวา 18:9

พวกเขาจึงออกไปสำรวจทั่วดินแดน จดรายละเอียดแต่ละเมืองในเจ็ดเขตลงบนหนังสือม้วน และกลับมารายงานโยชูวาในค่ายพักที่ชิโลห์

มัทธิว 27:66

ดังนั้นพวกเขาจึงไปดูแลอุโมงค์ให้แน่นหนาโดยการประทับตราที่หินและวางยามประจำอยู่

ปฐมกาล 23:16

อับราฮัมตกลงตามข้อเสนอของเอโฟรน จึงชั่งเงินจ่ายให้ตามราคาที่เขาบอกต่อหน้าคนฮิตไทต์ คือเงิน 400 เชเขลตามน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้กันในเวลานั้น

ปฐมกาล 23:20

ดังนั้นคนฮิตไทต์ได้โอนทุ่งและถ้ำในที่ดินผืนนั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอับราฮัมเพื่อใช้เป็นสุสาน

นางรูธ 4:1

ฝ่ายโบอาสไปยังประตูเมืองและนั่งอยู่ที่นั่น เมื่อญาติสนิทคนที่มีสิทธิ์ไถ่ซึ่งโบอาสกล่าวถึงได้ผ่านมา โบอาสก็กล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย เชิญมานั่งที่นี่ก่อน” ทั้งสองจึงนั่งลงด้วยกัน