Biblia Todo Logo
オンライン聖書

- 広告 -




เยเรมีย์ 2:8 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

8 ปุโรหิตทั้งหลายไม่ถามว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน?’ ผู้ที่รักษากฎหมายไม่รู้จักเรา บรรดาผู้นำกบฏต่อเรา เหล่าผู้เผยพระวจนะได้พยากรณ์ในนามของพระบาอัล ติดตามรูปเคารพอันไร้ค่า

この章を参照 コピー


その他のバージョン

ฉบับมาตรฐาน

8 พวกปุโรหิตไม่ได้กล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงอยู่ที่ไหน?’ คนเหล่านั้นที่เชี่ยวชาญธรรมบัญญัติไม่รู้จักเรา บรรดาผู้ปกครองก็ทรยศต่อเรา พวกผู้เผยพระวจนะได้เผยพระวจนะโดยพระบาอัล และติดตามสิ่งไร้ประโยชน์

この章を参照 コピー

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

8 ปุ​โรหิตทั้งหลายมิ​ได้​กล่าวว่า ‘พระเยโฮวาห์ประทั​บท​ี่​ไหน​’ คนเหล่านั้​นที​่แถลงพระราชบัญญั​ติ​ไม่รู้​จักเรา บรรดาผู้เลี้ยงแกะก็ละเมิดต่อเรา พวกผู้​พยากรณ์​ได้​พยากรณ์​โดยพระบาอัล และดำเนินติดตามสิ่งที่​ไม่​เป็นประโยชน์​”

この章を参照 コピー

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

8 พวก​นักบวช​ไม่ได้​ถาม​ว่า ‘พระยาห์เวห์​อยู่​ที่ไหน’ และ​คน​พวกนั้น​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎโมเสส ก็​ไม่​รู้จัก​เรา เหล่า​ผู้เลี้ยงแกะ ก็​ได้​ทรยศ​ต่อเรา ส่วน​พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ก็​พูด​แทน​พระบาอัล ผู้คน​ก็​ไป​ติดตาม​สิ่งต่างๆ​ที่​ไม่ได้​เป็น​ประโยชน์​กับ​ใครเลย”

この章を参照 コピー

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

8 พวก​ปุโรหิต​ไม่​ได้​ถาม​ว่า, พระ​ยะ​โฮ​วา​อยู่​ที่ไหน, แล​จำพวก​ที่​มือ​จับ​พระ​บัญญัติ​นั้น, เขา​ไม่​รู้จัก​เรา, แล​พวก​นาย​เขา​ได้​ทำ​เหลือเกิน​ต่อ​เรา​ด้วย, แล​ผู้ทำ​นาย​ได้​ทำนาย​โดย​ออก​ชื่อ​พระ​บา​ละ, แล​ได้​ดำเนิน​ตาม​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ประโยชน์.

この章を参照 コピー

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

8 บรรดา​ปุโรหิต​ไม่​ได้​พูด​ว่า ‘พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อยู่​ไหน’ บรรดา​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​กฎ​บัญญัติ​ไม่​รู้​จัก​เรา บรรดา​ผู้​เลี้ยง​ดู​ฝูง​แกะ​ก็​ล่วง​ละเมิด​ต่อ​เรา บรรดา​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​พูด​ใน​นาม​ของ​เทพเจ้า​บาอัล และ​ไป​ติดตาม​สิ่ง​ที่​ไม่​ก่อ​ให้​เกิด​ประโยชน์”

この章を参照 コピー




เยเรมีย์ 2:8
35 相互参照  

“รูปเคารพมีคุณค่าอะไรในเมื่อมนุษย์เป็นผู้แกะสลักมันขึ้น? หรือรูปที่สอนความเท็จนั้นมีคุณค่าอะไร? เพราะผู้ที่สร้างรูปนั้นขึ้นก็วางใจในสิ่งที่ตนสร้าง เขาสร้างรูปเคารพที่พูดไม่ได้


คนเลี้ยงแกะก็สิ้นคิด และไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเขาจึงไม่เจริญ และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไปหมด


คือบรรดาผู้เผยพระวจนะพยากรณ์เท็จ เหล่าปุโรหิตปกครองโดยสิทธิอำนาจของตนเอง และประชากรของเราก็รักวิถีแบบนี้ แต่พวกเจ้าจะทำอย่างไรในบั้นปลาย?


แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เราละทิ้งกลวิธีแยบยลและน่าละอาย เราไม่ใช้เล่ห์เพทุบายและไม่ได้บิดเบือนพระวจนะของพระเจ้า ตรงกันข้ามเราเสนอตนเองต่อจิตสำนึกของทุกคนในสายพระเนตรของพระเจ้า ด้วยการสำแดงความจริงอย่างตรงไปตรงมา


พวกเขาจะทำเช่นนั้นเพราะไม่รู้จักพระบิดาและไม่รู้จักเรา


ประชากรของเราถูกทำลายไปเพราะขาดความรู้ “เนื่องจากเจ้าปฏิเสธความรู้ เราจึงไม่ยอมรับว่าพวกเจ้าเป็นปุโรหิตของเรา เนื่องจากเจ้าเพิกเฉยต่อบทบัญญัติของพระเจ้าของเจ้า เราจึงเพิกเฉยต่อลูกๆ ของเจ้า


ถึงแม้ว่าท่านไม่รู้จักพระองค์แต่เรารู้จักพระองค์ หากเราพูดว่าเราไม่รู้จักเราก็เป็นคนโกหกเหมือนท่าน แต่นี่เรารู้จักพระองค์และทำตามพระดำรัสของพระองค์


“วิบัติแก่เจ้า พวกผู้เชี่ยวชาญทางบทบัญญัติ เพราะเจ้าได้เอากุญแจแห่งความรู้ไป ตัวเจ้าเองไม่เข้าไป แล้วยังขัดขวางคนอื่นที่กำลังเข้าไป”


จะมีประโยชน์อะไรถ้าคนๆ หนึ่งจะได้โลกนี้ทั้งโลกแต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน? หรือใครจะเอาอะไรมาแลกกับจิตวิญญาณของตนได้?


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นพละกำลัง เป็นป้อมปราการ และเป็นที่ลี้ภัยในยามทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์ ประชาชาติต่างๆ จากสุดโลก จะมาเฝ้าพระองค์และกราบทูลว่า “บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ครอบครองสิ่งใดนอกจากเทพเจ้าจอมปลอม เป็นรูปเคารพอันไร้ค่าที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้


คนเลี้ยงแกะมากมายจะทำลายสวนองุ่นของเรา เหยียบย่ำท้องทุ่งของเรา พวกเขาจะทำให้ท้องทุ่งอันรื่นรมย์ของเรา กลายเป็นที่ทิ้งร้าง


แต่ดูสิ เจ้ากำลังเชื่อคำหลอกลวงที่ไร้ค่า


“ประชากรของเราโง่เขลา พวกเขาไม่รู้จักเรา พวกเขาเป็นเด็กเหลวไหล ไม่มีความเข้าใจ พวกเขาช่ำชองในการทำชั่ว ทำดีไม่เป็นเลย”


เคยมีชาติหนึ่งชาติใดเปลี่ยนเทพเจ้าที่พวกเขานับถือหรือไม่? (ทั้งๆ ที่เทพเจ้าเหล่านั้นก็ไม่ใช่พระเจ้า) แต่ประชากรของเราเอาองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขา ไปแลกกับรูปเคารพอันไร้ค่า


พวกเขาไม่ได้ถามว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน? ผู้ทรงนำเราออกมาจากอียิปต์ นำเราผ่านถิ่นกันดารแห้งแล้ง ผ่านดินแดนแห่งทะเลทรายและโตรกเขา เป็นดินแดนที่แห้งแล้งและมืดมน ดินแดนซึ่งไม่มีใครอยู่อาศัยหรือผ่านไปมา’


ทุกคนก็จะต้องอับอายขายหน้า เพราะชนชาติซึ่งไม่มีประโยชน์แก่พวกเขา ผู้ไม่ให้ความช่วยเหลือหรือประโยชน์อันใด ให้แต่ความอับอายและความอัปยศอดสู”


องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำการหลับใหลมาเหนือเจ้า พระเจ้าทรงปิดตาของเจ้า (คือผู้เผยพระวจนะ) พระองค์ทรงคลุมหัวของเจ้า (คือผู้ทำนาย)


คนเหล่านี้ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้าองุ่น และหมุนเคว้งเพราะเมรัย คือปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้า มึนเมาเพราะเมรัย ตุปัดตุเป๋เมื่อเห็นนิมิต ล้มคะมำเมื่อให้คำตัดสิน


แล้วเอลียาห์ก็สั่งพวกเขาว่า “จงจับกุมตัวผู้ทำนายของบาอัลไว้ อย่าให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว” แล้วพวกเขาก็เข้าจับกุม เอลียาห์นำตัวบรรดาผู้ทำนายไปประหารที่หุบเขาคีโชน


เที่ยงวันผ่านไป พวกเขาส่งเสียงตลอดบ่ายจนถึงเวลาถวายเครื่องบูชาในตอนเย็น แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีคำตอบอะไรเลย ไม่มีใครสนใจ


เอลียาห์จึงกล่าวว่า “เราเป็นผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่ฝ่ายบาอัลมีผู้ทำนายถึง 450 คน


อย่าหันไปติดตามรูปเคารพอันไร้ค่า ซึ่งไม่สามารถทำสิ่งดีอะไรให้ได้และช่วยอะไรท่านก็ไม่ได้ เพราะพระเหล่านั้นไร้ประโยชน์


บุตรชายทั้งสองของเอลีเป็นคนชั่ว ไม่เคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า


เขาจะสอนพระโอวาทของพระองค์แก่ยาโคบ และสอนบทบัญญัติของพระองค์แก่อิสราเอล เขาถวายเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์ และถวายเครื่องเผาบูชาทั้งสิ้นบนแท่นของพระองค์


พวกเขากลับทำตามใจดื้อดึงของตน เขานมัสการพระบาอัลตามที่บรรพบุรุษสอน”


พวกเขากล่าวว่า “เรามาวางแผนกำจัดเยเรมีย์กันเถอะ เพราะว่าสิ่งที่ปุโรหิตสอนจากธรรมบัญญัติ คำปรึกษาจากปราชญ์ และถ้อยคำจากผู้เผยพระวจนะจะไม่สูญหายไป ฉะนั้นให้เราโจมตีเขาด้วยลิ้นของเราและอย่าใส่ใจสิ่งที่เขาพูด”


เหล่าปุโรหิตของดินแดนนั้นละเมิดบทบัญญัติของเราและลบหลู่สิ่งบริสุทธิ์ของเรา เขาไม่แยกแยะระหว่างสิ่งที่บริสุทธิ์กับสิ่งสามัญ เขาสอนว่าสิ่งที่สะอาดและสิ่งที่มีมลทินก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เขาปิดหูปิดตาไม่รักษาสะบาโตของเรา ด้วยเหตุนี้เราจึงถูกลบหลู่ดูหมิ่นในหมู่พวกเขา


“บุตรมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์ประณามบรรดาคนเลี้ยงแกะของอิสราเอล จงพยากรณ์และกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่คนเลี้ยงแกะของอิสราเอล ผู้เลี้ยงดูแต่ตนเอง! ไม่ควรหรือที่คนเลี้ยงแกะจะเลี้ยงดูฝูงแกะ?


แต่ไม่มีใครกล่าวว่า ‘พระเจ้าพระผู้สร้างของข้าอยู่ที่ไหน? ผู้ประทานบทเพลงในยามค่ำคืน


私たちに従ってください:

広告


広告