Biblia Todo Logo
オンライン聖書

- 広告 -




ปัญญาจารย์ 4:1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

1 แล้วข้าพเจ้าได้มองดูและได้เห็นการกดขี่ข่มเหงทั้งปวงซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ ข้าพเจ้าเห็นน้ำตาของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง และไม่มีใครปลอบโยนเขา อำนาจทั้งหลายก็อยู่ในมือของคนที่กดขี่ และไม่มีใครปลอบโยนเขา

この章を参照 コピー


その他のバージョン

ฉบับมาตรฐาน

1 ข้าพเจ้าหันมาพิจารณาการข่มเหงทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ และดูเถิด น้ำตาของผู้ถูกข่มเหงไม่มีคนปลอบใจเขา ผู้ข่มเหงเขานั้นมีอำนาจอยู่ในมือ จึงไม่มีใครปลอบใจเขาได้

この章を参照 コピー

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

1 ข้าพเจ้าพิจารณาบรรดาการข่มเหงที่​เก​ิดขึ้นภายใต้​ดวงอาทิตย์​อีก และดู​เถิด น้ำตาของผู้​ที่​ถู​กข่มเหง ไม่มี​คนเล​้าโลมเขา ฝ่ายผู้ข่มเหงเขานั้​นก​ุมอำนาจ แต่​หาม​ี​ผู้​ใดเล้าโลมเขาไม่

この章を参照 コピー

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

1 แล้ว​เรา​ก็​ได้​หัน​ไป​ดู​การ​กดขี่​ข่มเหง​ทั้งหลาย​ที่​เกิดขึ้น​ภายใต้​ดวง​อาทิตย์​อีกครั้ง ดูสิ น้ำตา​ของ​คน​ที่​ถูก​กดขี่​ข่มเหง แต่​ไม่มี​ใคร​ปลอบโยน อำนาจ​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​ผู้กดขี่ ไม่มี​ใคร​ปลอบโยน​พวกเขา​เลย

この章を参照 コピー

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

1 แล้ว​ข้าฯ ได้​หันกลับ​มา​ดู​บรรดา​การ​ข่มเหง​ที่​เกิด​ขึ้น​ภายใต้​ดวงอาทิตย์: และ​นี่​แน่ะ, น้ำตา​ของ​ผู้​ถูก​ข่มเหง​เป็นต้น, ไม่​มี​คน​เช็ด​ให้; ใน​มือ​ของ​ผู้​ข่มเหง​นั้น​ได้​กุมอำนาจ​ไว้; แต่​ผู้​ถูก​ข่มเหง​นั้น​หา​มี​ผู้​เล้าโลม​ไม่.

この章を参照 コピー

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

1 ข้าพเจ้า​เห็น​การ​บีบบังคับ​ทุก​ประการ​ที่​กระทำ​กัน​ใน​โลก​นี้ ดู​เถิด น้ำตา​ของ​ผู้​ถูก​บีบบังคับ และ​ไม่​มี​ใคร​ปลอบ​ใจ​พวก​เขา ฝ่าย​ผู้​บีบบังคับ​ก็​มี​อำนาจ จึง​ไม่​มี​ใคร​ปลอบใจ​พวก​เขา​ได้

この章を参照 コピー




ปัญญาจารย์ 4:1
51 相互参照  

ยิ่งกว่านั้น ภายใต้ดวงอาทิตย์ ข้าพเจ้ายังเห็นอีกว่า ในที่แห่งการพิพากษาก็มีความชั่วร้ายอยู่ด้วย ในที่ของความยุติธรรมก็มีความเลวทรามอยู่ด้วย


หากท่านเห็นคนจนในเมืองถูกข่มเหงรังแกและเห็นความยุติธรรมและสิทธิถูกละเลยในที่ใดก็ตาม อย่าฉงนสนเท่ห์เลย เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้ที่อยู่เหนือเขาและเหนือกว่านั้นขึ้นไปก็ยังมีผู้บังคับบัญชาสูงขึ้นไปอีก


สวนองุ่นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือวงศ์วานอิสราเอล ชนยูดาห์คือสวนที่ทรงปีติยินดี พระองค์ทรงหวังให้พวกเขาออกผลเป็นความยุติธรรม แต่กลับเห็นการนองเลือด ทรงคาดหวังความชอบธรรม แต่กลับได้ยินเสียงโหยไห้ร้องทุกข์


ดูเถิด! ค่าจ้างที่ท่านโกงคนงานเกี่ยวข้าวในนาของท่านนั้นกำลังร้องกล่าวโทษท่านอยู่ เสียงร้องทุกข์ของผู้เก็บเกี่ยวได้ขึ้นถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์แล้ว


แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์แล้วหนีไป


พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะมาหาพวกเจ้าเพื่อพิพากษาโทษ เราจะตั้งข้อหาโดยเร็วแก่บรรดาคนที่ใช้คาถาอาคม คนล่วงประเวณี คนที่สาบานเท็จ คนที่โกงค่าแรงลูกจ้าง คนที่รังแกหญิงม่ายและลูกกำพร้าพ่อ คนที่ไม่ให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าว และคนที่ไม่ยำเกรงเรา”


ความโสโครกฝังแน่นในอาภรณ์ของเธอ เธอไม่ใส่ใจอนาคตของเธอ ความล่มจมของเธอน่าใจหาย ไม่มีใครปลอบโยนเธอ “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์ เพราะศัตรูชนะเสียแล้ว”


ยามค่ำคืนเธอร่ำไห้อย่างขมขื่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ในบรรดาคนรักของเธอ ไม่มีสักคนที่ปลอบโยนเธอ สหายทั้งปวงก็ทรยศเธอ พวกเขากลับกลายเป็นศัตรูของเธอ


เราจะเอาถ้วยนั้นใส่ในมือของบรรดาผู้ทรมานเจ้า ผู้กล่าวกับเจ้าว่า ‘นอนหมอบราบสิ เราจะได้เดินย่ำเจ้า’ เจ้าได้ทำให้หลังของเจ้าเหมือนพื้นดิน เหมือนพื้นถนนให้เหยียบย่ำ”


ข้าพเจ้าทูลพระเจ้าพระศิลาของข้าพเจ้าว่า “เหตุใดทรงลืมข้าพระองค์แล้ว? เหตุใดข้าพระองค์ต้องระทมทุกข์ ต้องทนการข่มเหงรังแกของศัตรู?”


ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันทั้งคืน ขณะที่ผู้คนพูดกับข้าพระองค์วันยังค่ำว่า “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?”


องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะลุกขึ้น เพราะเห็นแก่คนยากจนที่ถูกรีดไถและเห็นแก่คนยากไร้ที่โอดครวญ เราจะปกป้องพวกเขาจากคนที่ประทุษร้าย”


“มนุษย์ร้องโอดครวญเมื่อถูกกดขี่ข่มเหง วิงวอนขอให้หลุดจากมือผู้มีอำนาจ


เท้าของเขาถลันเข้าหาบาป และพวกเขารีบเร่งจะเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์ ความคิดคำนึงของเขาล้วนแล้วแต่ชั่ว วิถีทางของเขามีการทำลายล้างผลาญ


แล้วเจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง คือความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมกับคนอธรรม ระหว่างผู้ที่ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้ากับผู้ที่ไม่รับใช้พระองค์”


อีกอย่างหนึ่งที่เจ้าทำคือ มาบีบน้ำตารดแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเจ้าร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะพระองค์ไม่ทรงแยแสหรือพอพระทัยที่จะรับเครื่องบูชาจากมือของเจ้า


เมื่อคนฉลาดกดขี่ผู้อื่น เขาก็ทำตัวเหมือนคนโง่ และเมื่อรับสินบน ก็ทำให้ชีวิตเสื่อมทราม


ผู้ครอบครองที่กดขี่คนยากจน ก็เหมือนฝนตกหนักที่ทำลายพืชผล


มองไปทางขวา ไม่มีใครเหลียวแลข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไร้ที่พึ่ง ไม่มีใครห่วงใยชีวิตของข้าพระองค์


พระองค์ทรงให้พวกเขากินน้ำตาต่างอาหาร ทรงให้พวกเขาดื่มน้ำตาเต็มอิ่ม


การเย้ยหยันทำให้ดวงใจของข้าพระองค์ชอกช้ำร้าวราน กลายเป็นคนสิ้นท่าอนาถา ข้าพระองค์เหลียวหาความเห็นอกเห็นใจแต่ไม่พบเลย มองหาคนปลอบใจ แต่ไม่มีแม้สักคน


ข้าก็พูดเหมือนท่านได้ ถ้าท่านตกอยู่ในสภาพเดียวกับข้า ข้าก็สามารถยกคำหวานหูมาต่อว่าท่าน แล้วก็ส่ายหน้าเย้ยท่าน


หยุดเหมาว่าข้าผิดเสียทีเถิด อย่าอยุติธรรมนักเลย ขอให้ทบทวนดูเพราะข้าชอบธรรม


อิสราเอลได้ร้องทูลขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยพวกเขาเพราะว่ากษัตริย์ยาบินมีรถรบเหล็กเก้าร้อยคัน และได้กดขี่ข่มเหงอิสราเอลอย่างโหดร้ายอยู่ถึงยี่สิบปี


ฉะนั้นท่านจะต้องปรนนิบัติศัตรูซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าส่งมาเล่นงานท่านอย่างหิวโหยและกระหาย อย่างเปลือยกายและสิ้นเนื้อประดาตัว พระองค์จะทรงวางแอกเหล็กบนคอของท่านจนกว่าพระองค์จะทรงทำลายท่านให้สิ้นไป


คนต่างชาติซึ่งท่านไม่เคยรู้จักจะมากินผลผลิตซึ่งท่านลงแรงเพาะปลูก ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของท่านจะมีแต่การกดขี่ข่มเหงอันโหดร้ายทารุณ


ฟาโรห์รับสั่งแก่ประชาชนทั้งปวงของพระองค์ว่า “ให้จับเด็กผู้ชายฮีบรูแรกเกิดทุกคนโยนทิ้งลงในแม่น้ำไนล์ ส่วนเด็กผู้หญิงให้ไว้ชีวิต”


“เมื่อเจ้าทำคลอดให้หญิงชาวฮีบรูและดูแลหญิงนั้นขณะคลอด ถ้าทารกเป็นผู้ชายให้ฆ่าทิ้ง ถ้าเป็นผู้หญิงให้ไว้ชีวิต”


หากญาติพี่น้องของคนจนเองยังเมินหน้าหนี เพื่อนๆ ของเขาจะยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด! ถึงแม้เขาตามอ้อนวอน แต่ทุกคนก็หายหน้ากันไปหมด


ข้าพเจ้าเห็นมาหมดแล้ว เมื่อใส่ใจกับทุกสิ่งที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ ก็พบว่าบางครั้งมีคนขึ้นมามีอำนาจเหนือผู้อื่น แต่กลับเป็นภัยแก่ตน


จะไม่มีใครให้อาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อปลอบโยนผู้ที่คร่ำครวญอาลัยถึงผู้ตาย แม้ว่าผู้ตายเป็นบิดามารดาก็ตาม


“ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงร่ำไห้ น้ำตาหลั่งริน ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ คอยปลอบโยน ไม่มีใครช่วยกู้ดวงวิญญาณของข้าพเจ้า ลูกๆ ของข้าพเจ้าสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะศัตรูชนะเขา”


เมื่อแผ่นดินตกอยู่ในมือของคนชั่ว พระเจ้าทรงทำให้ตาของบรรดาตุลาการมืดบอด หากไม่ใช่พระองค์แล้วจะเป็นใครเล่า?


พวกเขาเอาน้ำดีรสขมใส่ในอาหารของ ข้าพระองค์ และให้น้ำส้มสายชูเมื่อข้าพระองค์กระหาย


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ว่า “พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ในดินแดนของคนเป็น”


เมื่อคนชอบธรรมเจริญ ผู้คนก็ชื่นชมยินดี เมื่อคนชั่วขึ้นปกครอง ผู้คนก็โอดครวญ


ศิโยนยื่นมือออก แต่ไม่มีใครปลอบโยนเธอ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชายาโคบไว้แล้วว่า ให้เพื่อนบ้านของเขากลายเป็นศัตรู เยรูซาเล็มกลายเป็น ของโสโครกในหมู่พวกเขา


จงป่าวร้องแก่ป้อมแห่งอัชโดด และแก่ป้อมแห่งอียิปต์ว่า “จงมาชุมนุมกันบนภูเขาของสะมาเรีย มาดูความโกลาหลวุ่นวายในเมืองนั้น และดูการกดขี่ข่มเหงท่ามกลางประชากรของเมืองนั้น”


องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “บรรดาผู้สะสมของริบของปล้นไว้ในป้อมต่างๆ ไม่รู้จักทำสิ่งที่ถูกต้อง”


私たちに従ってください:

広告


広告