ดาเนียล 7:7 - พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย7 หลังจากนั้น ขณะที่ผมกำลังจ้องมองนิมิตในฝันในคืนนั้น ผมก็เห็นสัตว์ตัวที่สี่ มันดูน่าสยดสยอง มีพลังมหาศาล และมีฟันเหล็กที่ใหญ่โต มันกินและบดเคี้ยวสัตว์ต่างๆมากมาย และเหยียบย่ำเศษที่เหลือนั้นใต้เท้า มันดูแตกต่างจากสัตว์ตัวก่อนๆและมันมีเขาสิบเขา この章を参照その他のバージョンฉบับมาตรฐาน7 ต่อจากนั้น ในนิมิตเวลากลางคืน ข้าพเจ้าได้เห็นสัตว์ตัวที่สี่มันร้ายกาจ น่ากลัว และแข็งแรงยิ่งนัก มันมีฟันเหล็กมหึมา มันกินและหักเป็นชิ้นๆ และกระทืบสิ่งที่เหลือกินนั้นเสีย มันต่างกับสัตว์อื่นทั้งหมดที่อยู่ก่อนมัน มันมีเขาสิบเขา この章を参照พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV7 ต่อจากนี้ไปข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตกลางคืน และดูเถิด สัตว์ที่สี่มันร้ายกาจและเป็นที่น่ากลัวและแข็งแรงยิ่งนัก มันมีฟันเหล็กมหึมา มันกินและหักเป็นชิ้นๆ และกระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสีย มันต่างกับสัตว์อื่นทั้งหลายที่อยู่ก่อนมัน มันมีเขาสิบเขา この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย7 “หลังจากนั้น ในนิมิตยามกลางคืน ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ตัวที่สี่ น่ากลัวสยดสยองและมีฤทธิ์อำนาจมาก มันมีฟันเหล็กซี่มหึมา มันขย้ำเคี้ยวเหยื่อและเหยียบย่ำส่วนอื่นๆ ที่เหลือจนแหลกลาญ สัตว์ตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่นๆ ตรงที่มีเขาสิบเขา この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19407 หลังจากนี้ที่ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นในคนนั้นคือ, นี่แน่ะ, สัตว์ตัวที่สี่นั้นน่ากลัวขนลุกขนพอง, มันแข็งแรงยิ่งนัก, มีฟันเหล็กซี่ใหญ่ๆ, มันกินและกัดอะไรต่ออะไรลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย, และอะไรๆ ที่เหลือจากกัดกินนั้น, มันก็เหยียบลงยับอยู่กับตีน, สัตว์ตัวนี้ต่างกันกับสัตว์ตัวอื่นทั้งปวงที่โผล่ขึ้นมาก่อนๆ นั้น, และมีเขาสิบเขา. この章を参照พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)7 หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นภาพนิมิตในคืนนั้น ดูเถิด อสุรกายตัวที่สี่น่ากลัวและมีพลังมหาศาล ทำให้ขนลุกขนพอง มันมีฟันเหล็กซี่โต ขย้ำและกัดเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ และใช้เท้าของมันเหยียบขยี้เศษที่เหลือ มันต่างจากอสุรกายตัวอื่นๆ คือ ตัวนี้มีเขา 10 เขา この章を参照 |
ครั้งหนึ่งสัตว์ตัวนั้นเคยมีชีวิต แต่ตอนนี้มันไม่มีชีวิตแล้ว อีกไม่ช้ามันก็จะขึ้นมาจากนรกอเวจี และตัวมันต้องพบกับความย่อยยับของมัน ดังนั้นพวกคนชั่วที่อยู่บนโลกนี้ที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่วันสร้างโลกก็จะประหลาดใจ เพราะพวกเขาจะเห็นสัตว์ร้ายตัวนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตและตอนนี้ไม่มีชีวิตแล้ว แต่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง”