เยเรมีย์ 1:1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 นี่เป็นถ้อยคำของยิระมะยาผู้เป็นบุตรของฮิลคียา, อยู่ในหมู่พวกปุโรหิตอยู่ตำบลอะนาโธธในแว่นแคว้นตระกูลเบ็นยามิน, この章を参照その他のバージョンฉบับมาตรฐาน1 ถ้อยคำของเยเรมีย์บุตรของฮิลคียาห์ เยเรมีย์เป็นหนึ่งในหมู่ปุโรหิต อยู่เมืองอานาโธทในแผ่นดินของเผ่าเบนยามิน この章を参照พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV1 ถ้อยคำของเยเรมีย์บุตรชายของฮิลคียาห์ ผู้หนึ่งในหมู่ปุโรหิต ผู้อยู่ตำบลอานาโธท ในแผ่นดินของเบนยามิน この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย1 นี่คือถ้อยคำของเยเรมีย์บุตรฮิลคียาห์ เยเรมีย์เป็นปุโรหิตคนหนึ่งอยู่ที่อานาโธทในเขตเบนยามิน この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย1 นี่คือคำพูดของเยเรมียาห์ ลูกชายของฮิลคียาห์ เยเรมียาห์เป็นหนึ่งในนักบวชที่อาศัยอยู่ในเมืองอานาโธท เมืองนี้ตั้งอยู่ในดินแดนที่เป็นของเผ่าเบนยามิน この章を参照พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)1 ข้อความบันทึกของเยเรมีย์บุตรฮิลคียาห์ ผู้เป็นหนึ่งในบรรดาปุโรหิตที่อยู่ในอานาโธท ในดินแดนของเบนยามิน この章を参照 |
นิมิตต์ซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นเกี่ยวกับยะฮูดาและยะรูซาเลมในรัชชกาลของกษัตริย์อุซียา, กษัตริย์โยธาม, กษัตริย์อาฮาศ, และกษัตริย์ฮิศคียาผู้ครองประเทศยะฮูดา พระยะโฮวาได้ตรัสแล้วว่า, “โอฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, โอ้แผ่นดินโลก, จงเงี่ยหูสดับเถิด; เราได้บำรุงเลี้ยงและได้ประคบประหงมบรรดาบุตรให้วัฒนาขึ้น, แต่บุตรเหล่านั้นได้ทรยศต่อเรา. โคผู้ยังรู้จักเจ้าของของมัน, และสัตว์ลายังรู้จักรางหญ้าของเจ้าของ: แต่พวกยิศราเอลนั้นหาได้รู้จักอย่างนั้นไม่, พลเมืองของเรานั้นมิได้ใช้ความคิดตรึกตรอง.” เออ, ประเทศที่เต็มไปด้วยบาป, พลเมืองที่เพียบไปด้วยอสัตย์อธรรม, เป็นว่านเครือของผู้กระทำชั่ว, เป็นลูกหลานที่ประกอบการคดโกง: เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, และได้หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์ของพวกยิศราเอล, เขาทั้งหลายได้เหินห่างและก้าวถอยหลังไป. ทำไมเจ้าทั้งหลายยังขืนทรยศต่อไป? แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยนตีมากขึ้น: ทั้งศีรษะก็เจ็บไปทั่ว, และทั้งใจก็ละเหี่ยม่อยไป. ตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปตลอดกะทั่งศีรษะไม่มีที่ปกติเลย; มีแต่บาดแผลและรอยฟกช้ำ, และรอยแผลเฆี่ยน: แผลเหล่านั้นมิได้ปิดไว้, หรือมิได้พันไว้, หรือมิได้ใส่น้ำมันให้เนื้อนิ่มเลย. ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า, นครของเจ้าก็ถูกเผาผลาญ: ส่วนดินแดนของเจ้านั้นคนต่างชาติก็กลืนกินเสียต่อหน้าเจ้า, และมันก็ร้างไป, เหมือนกับว่าคนต่างชาติ-ได้ทำลายมันเสีย. ส่วนลูกหญิงของกรุงซีโอนนั้นถูกละไว้เหมือนอย่างห้างสวนในสวนองุ่น, และเหมือนกับกะท่อมในไร่แตงกวา, และเหมือนกับเมืองที่ถูกล้อมไว้. ถ้าหากพระยะโฮวาจอมพลโยธามิไดละเว้นเราซึ่งเป็นหน่วยน้อยนั้นเสีย, เราก็จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดม, และเป็นเหมือนอย่างเมืองอะโมรา ดูกรท่านผู้ครองเมืองซะโดม, จงสดับฟังคำตรัสของพระยะโฮวา; ดูกรชนชาวอะโมรา, จงเอียงหูฟังพระบัญชาของพระเจ้าของพวกเราเถิด. พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “เครื่องบูชาเผามากมายก่ายกองของเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา? เราเบื่อเครื่องบูชาเผาแกะตัวผู้, และมันข้นแห่งสัตว์เลี้ยง; และมิได้ชื่นใจในโลหิตแห่งลูกโคผู้, หรือของลูกแกะ, หรือของแพะผู้. เมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเรานั้น, ใครได้ขอร้องให้เจ้าเหยียบเข้ามาในสำนักของเรา? อย่าได้นำเครื่องบูชาสัตว์อันขาดจิตต์เคารพมาอีกเลย; กลิ่นเครื่องบูชาจะเพิ่มความสะอิดสะเอียนแก่เรามากขึ้น; ในสมัยประชุมประจำเดือนแรกเดือนขึ้น, วันซะบาโตและสมัยประชุมประจำปี, เราไม่ชอบใจเลยแม้ถึงการที่ประชุมนมัสการอย่างพิเศษนั้น, ก็เป็นการอสัตย์อธรรม. วันถือเทศกาลแรกเดือนขึ้น, วันถือพิธีต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ของเจ้านั้นเราเกลียดชังนัก; ลัทธิเหล่านั้นเป็นภาระรุงรังแก่เรา, เราเบื่อหน่ายที่จะทนแบกต่อไปแล้ว. แลเมื่อเจ้าทั้งหลายชูมือกางขึ้น, เราจะเมินหน้าเสียจากพวกเจ้า: เออ, เมื่อเจ้าอธิษฐานมากมายหลายหน, เราจะไม่ฟัง: ด้วยมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต. ล้างเสียเถอะ, จงชำระตัวเสียให้สะอาดหมดจด; เจ้าจงเลิกทำการชั่วและกำจัดมันเสียให้พ้นจากสายตาของเรา; จงงดกระทำชั่วเสียทีเดียว; จงฝึกหัดกระทำการดี; จงแสวงหาที่จะให้ความยุตติธรรม, จงขัดขวางการกระทำของผู้ข่มเหง, จงให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้า, จงเป็นปากเสียงให้แก่หญิงม่าย.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “มาเถิด, ให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด: แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ; แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม, บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ. ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง, เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์: แต่ถ้าเจ้าไม่ยอม, และยังทรยศอยู่, เจ้าก็จะต้องเป็นเหยื่อแห่งคมดาบ:” เพราะพระโอษฐ์ของพระยะโฮวาได้ตรัสดังนั้น เมืองที่สัตย์ซื่อยังมากลายเป็นเมืองหญิงนอกใจไปได้! เมืองนั้นเคยเต็มด้วยความยุตติธรรม; ความชอบธรรมเคยได้ดำรงอยู่ในเมืองนั้น; แต่มาบัดนี้กลายเป็นเมืองของนักฆาตกรรม. เนื้อเงินก็กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว, เหล้าองุ่นของเจ้านั้นก็ถูกปนด้วยน้ำท่า: ผู้ครองเมืองของเจ้าแต่หาครองตัวของเขาเองได้ไม่, และกลับไปเป็นมิตรของพวกโจร: ต่างก็ชอบกินสินบน, และเสาะหาสินจ้างเขาไม่ให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้าและไม่นำพาต่อคดีของหญิงม่าย ดังนั้นพระยะโฮวาจอมพลโยธาทั้งหลาย, องค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของชาติยิศราเอลตรัสว่า, “อ้า, เราจะปลีกตัวออกจากศัตรูของเรา, และจะแก้แค้นปัจจามิตรของเรา. เราจะวางมือของเราลงบนเจ้า, และเราจะถลุงขี้แร่ออกจากเจ้าเสียให้บริสุทธิ์, และกำจัดการเจือปนของเจ้าออกเสียให้หมดสิ้นไป; เราจะกลับตั้งผู้พิพากษาของเจ้าให้คงตำแหน่งเดิมและตั้งคณะที่ปรึกษาของเจ้าไว้เหมือนแต่แรกแต่นั้นไปเจ้าจะถูกขนานนามว่าเป็นนครแห่งความชอบธรรม, และสัตย์ซื่อ. กรุงซีโอนจะถูกไถ่ออกมาด้วยความยุตติธรรม, และพลเมืองที่กลับใจนั้นจะรอดพ้นด้วยความชอบธรรม. ผู้ล่วงบัญญัติและคนบาปจะพินาศไปด้วยกับและเขาทั้งหลายที่ละทิ้งพระยะโฮวานั้นจะมอดม้วยไป. แล้วเขาจะอับอายขายหน้าเพราะต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาเคยพึ่งใจมาแต่ก่อน, และเจ้าจะขวยเขินต่อหมู่ไม้ที่เจ้าเลือกไว้เคารพบูชา. เพราะเจ้าจะเป็นดุจต้นโอ๊คที่เหี่ยวแห้ง, และดุจหมู่ไม้ที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง. และผู้ที่เข้มแข็งก็จะเป็นเหมือนอย่างขุยป่านและรูปเคารพที่เขาทำขึ้นก็จะเปรียบเหมือนประกายไฟ, และทั้งสองอย่างก็จะเผาผลาญไปด้วยกัน, และไม่มีใครจะดับเสียได้
ถ้อยคำซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้รับมาเกี่ยวข้องกับยะฮูดาและยะรูซาเลม เมื่อถึงสมัยสุดท้ายนั้น, ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งพระยะโฮวานั้น, จะถูกสถาปนาขึ้นให้เท่าเทียมกับขุนเขาสูงทั้งหลาย, และจะถูกยกชูขึ้นให้สูงเยี่ยมเหนือภูเขาทั้งมวล; และประชาขนจะหลั่งไหลไปถึงที่นั่น. และประชาชาติเป็นอันมากจะพากันกล่าวว่า, “มาเถิดพวกเรา, ให้เราขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา, และยังโบสถ์ของพระเจ้าแห่งยาโคบ. พระองค์จะได้ทรงสอนเราให้รู้จักวิถีทางของพระองค์และเราจะได้เดินไปตามทางของพระองค์นั้น: ด้วยว่าพระบัญญัติจะออกไปจากท้องถิ่นซีโอน, และพระคำของพระยะโฮวาจะออกไปจากกรุงยะรูซาเลม.” และพระองค์จะทรงวินิจฉัยความระหว่างประชาชาติ, และจะทรงตัดสินเรื่องของมหาชน: และเขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา, และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง; ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กัน, และเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป ดูกรตระกูลยาโคบ, มาเถิดท่านทั้งหลาย, และให้เราดำเนินในแสงสว่างของพระยะโฮวา. ด้วยพระองค์ได้ทรงละทิ้งพลเมืองของพระองค์คือตระกูลของยาโคบเสีย, เพราะเขานำประเพณีชาวตะวันออกมาแพร่ไว้เต็มบ้านเต็มเมือง, และคนทรงเจ้าเข้าผีอย่างชาวฟาเลเซ็ศ, เขาทั้งหลายคบค้าสมาคมกับคนต่างชาติ. และบ้านเมืองของเขาจึงบริบูรณ์ไปด้วยเงินและทอง, ทรัพย์สมบัติของเขามีมากมายเหลือคณนา; และบ้านเมืองของเขาบริบูรณ์ไปด้วยม้า, และรถรบของเขามีมากเหลือประมาณ. และเขาก็มีรูปเคารพเต็มบ้านเต็มเมืองด้วย; เขาได้นมัสการสิ่งซึ่งทำขึ้นด้วยมือของเขาเอง, และกราบไหว้สิ่งซึ่งนิ้วของเขาเองได้ประดิษฐ์ขึ้น. ดังนั้นมนุษย์ชาติจึงได้ลดฐานะของตัวเองลง, และคนแท้ๆ ก็ยังเหยียดตัวของตัวเองลง: เพราะฉะนั้นอย่าให้อภัยโทษเขาเลย จงมุดเข้าไปในซอกเขา, และซ่อนตัวเจ้าอยู่ในโพรงใต้ดิน, เพื่อจะได้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวาและรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. สายตาอันเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกหลบลง, และความจองหองของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง, และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะถูกเทอดให้สูงยิ่ง. เพราะพระยะโฮวาจอมพลโยธาทรงมีวันไว้สำหรับคนเย่อหยิ่งและคนจองหองและคนที่ยกตัวขึ้นที่จะต้องถูกเหยียดลง. และวันสำหรับต้นสนบนเขาละบาโนน, ที่เป็นต้นสูง, และวันสำหรับต้นโอ๊คทั้งหลายแห่งเมืองบาซาน, และวันสำหรับขุนเขาทั้งหลาย, และวันสำหรับภูเขาทั้งหลายที่สูงเยี่ยม; และวันสำหรับป้อมอันสูงทุกป้อม, และวันสำหรับกำแพงที่พร้อมสรรพด้วยเครื่องรบ. และวันสำหรับกำปั่นทั้งหลายแห่งเมืองธาระซิศ, พร้อมด้วยรูปสลักอันวิจิตร. และความใฝ่สูงของมนุษย์จะต้องถูกเหยียดลงมาต่ำ, และความเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง; และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะต้องถูกเทอดให้สูงยิ่ง. และรูปเคารพทั้งหลายจะต้องศูนย์หายไปสิ้น. เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง, คนจะหนีเข้าไปซุกซ่อนในถ้ำเขา, และในโพรงดิน, เพื่อจะให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. ในวันนั้นคนทั้งหลายจะทิ้งรูปเคารพที่ทำด้วยเงิน, และรูปเคารพที่ทำด้วยทอง, ซึ่งได้ทำไว้สำหรับกราบไหว้นั้น, ไปปะปนอยู่กับหนูผีและค้างคาว. ทิ้งลงไปยังถ้ำใหญ่ในภูเขา, ทิ้งลงไปในซอกหินชัน, ให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์, เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง. จงหยุดการวางใจแก่มนุษย์, ที่มีลมหายใจทางจมูก, เพราะว่าจะไว้ใจเขาที่ไหนได้?
กษัตริย์จึงตรัสแก่อะบีอาธารปุโรหิตว่า, เจ้าจงไปยังบ้านอะนาโธด, ที่ไร่นาของเจ้า, ด้วยสมควรเจ้าจะตาย: แต่เราจะไม่ประหารชีวิตเจ้าเดี๋ยวนี้, เพราะเจ้าได้หามหีบพระบัญญัติไมตรีแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าต่อพระพักตรดาวิดราชบิดาเรา, และเจ้าได้ร่วมทุกข์ในสรรพสิ่งกับราชบิดาเรา.
ในต้นปีแห่งรัชชกาลแผ่นดินโฆเร็ศกษัตริย์ประเทศฟารัศนั้น, เพื่อคำที่พระยะโฮวาได้ทรงตรัสโดยปากของท่านยิระมายานั้นจะสำเร็จ, พระองค์ได้ทรงดลพระทัยโฆเร็ศกษัตริย์ประเทศฟารัศ, กษัตริย์นั้นจึงมีรับสั่งไปทั่วอาณาเขตต์ของท่าน, ในรับสั่งนั้นมีเนื้อความว่า,