วิวรณ์ 10:6 - พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)6 กล่าวสาบานโดยอ้างพระนามของพระองค์ผู้มีชีวิตชั่วนิรันดร์กาล ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และทุกสิ่งที่มีในฟ้าสวรรค์ ผู้สร้างแผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่มีในแผ่นดินโลก ผู้สร้างทะเลและทุกสิ่งที่มีในทะเลว่า “จะไม่มีการล่าช้าต่อไปอีกแล้ว この章を参照その他のバージョンฉบับมาตรฐาน6 และสาบานโดยอ้างพระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และสรรพสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ ผู้ทรงสร้างแผ่นดินโลกและสรรพสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินโลก ผู้ทรงสร้างทะเลและสรรพสิ่งที่อยู่ในทะเล ว่าจะไม่มีการเนิ่นนานอีกต่อไป この章を参照พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV6 และปฏิญาณโดยอ้างพระนามของพระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ ผู้ได้ ‘ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในฟ้าสวรรค์นั้น ทรงสร้างแผ่นดินโลก และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในแผ่นดินโลกนั้น และทรงสร้างทะเล กับสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในทะเลนั้น’ ว่า จะไม่มีการเนิ่นช้าอีกต่อไปแล้ว この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย6 และปฏิญาณโดยอ้างพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดกาล ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และสรรพสิ่งในนั้น ผู้ทรงสร้างโลกกับสรรพสิ่งในนั้น ตลอดจนทะเลและสรรพสิ่งในนั้นว่า “จะไม่ล่าช้าอีกต่อไปแล้ว! この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย6 สาบานโดยอ้างถึงพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมันด้วย ทูตสวรรค์สาบานว่า “พระเจ้าจะไม่รอช้าอีกต่อไปแล้วที่จะทำตามแผนของพระองค์” この章を参照พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19406 และสาบานด้วยออกพระนามของพระองค์ผู้ทรงสภาพอยู่เป็นนิตย์, ผู้ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และสรรพสิ่งที่อยู่ในสวรรค์นั้น, และทรงสร้างแผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งที่อยู่แผ่นดินโลกนั้น, และทรงสร้างทะเลกับสรรพสิ่งที่อยู่ในทะเลนั้น, ว่าจะไม่เนิ่นช้าต่อไปแล้ว. この章を参照 |
จงบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘ในวันที่เราเลือกอิสราเอล เรายกมือปฏิญาณกับบรรดาผู้สืบเชื้อสายของพงศ์พันธุ์ของยาโคบ และเผยให้พวกเขารู้ในแผ่นดินอียิปต์ เรายกมือและพูดกับพวกเขาดังนี้ “เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า”
ชายที่สวมผ้าป่านที่อยู่เหนือต้นน้ำยกมือขวาและมือซ้ายขึ้นสู่สวรรค์ ข้าพเจ้าได้ยินท่านกล่าวปฏิญาณโดยอ้างพระนามของพระองค์ผู้ดำรงชีวิตชั่วนิรันดร์กาลว่า “จะเป็นเวลา 1 วาระ 2 วาระ และครึ่งวาระ เมื่อการกดขี่ข่มเหงที่มีต่อชนชาติบริสุทธิ์สิ้นสุดลง และสิ่งเหล่านี้ก็จะสัมฤทธิผล”