ปฐมกาล 20:3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

³ แต่ในคืนหนึ่ง พระเจ้าเสด็จมาหาอาบีเมเลคในความฝันและตรัสกับเขาว่า “เจ้าจะต้องตายแน่! เพราะหญิงคนนั้นซึ่งเจ้าพามามีสามีแล้ว”

Plis vèsyon

ฉบับมาตรฐาน

³ แต่พระเจ้าเสด็จมาหาอาบีเมเลคทางพระสุบินในเวลากลางคืน และตรัสกับอาบีเมเลคว่า “เจ้าจะต้องตาย เพราะหญิงซึ่งเจ้านำมานั้นมีสามีแล้ว”

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

³ แต่​พระเจ้าเสด็จมาหาอาบีเมเลคทางพระสุ​บิ​นในเวลากลางคืนและตรัสกั​บท​่านว่า “​ดู​เถิด เจ้​าเป็นเหมือนคนตาย เพราะหญิงนั้นซึ่งเจ้านำมา ด้วยว่านางเป็นภรรยาของผู้อื่นแล้ว”

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

³ พระเจ้า​ได้​มา​เข้าฝัน​อาบีเมเลค​ใน​ตอนกลางคืน พระองค์​พูด​กับ​เขา​ว่า “ดูสิ เจ้า​กำลัง​จะ​ตาย เพราะ​ผู้หญิง​ที่​เจ้า​เอา​มา​นั้น นาง​มี​สามี​แล้ว”

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

³ แต่​ใน​เวลา​กลางคืน พระเจ้า​เสด็จ​มา​ตรัส​แก่​กษัตริย์​อะบีเมเล็ค​ใน​ความ​สุบิน​ว่า, “นี่​แน่ะ, เจ้า​เป็น​เหมือน​ตน​ตาย​แล้ว, เพราะ​หญิง​ที่​รับ​ไว้​นี้​ได้​เป็น​ภรรยา​ของ​ผู้อื่น​แล้ว.”

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

³ แต่​คืน​วัน​หนึ่ง​พระ​เจ้า​ปรากฏ​แก่​อาบีเมเลค​ใน​ฝัน และ​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “ระวัง​เถิด เจ้า​ตาย​แน่ เพราะ​หญิง​ที่​เจ้า​ได้​ตัว​มา​นั้น นาง​มี​สามี​แล้ว”

ปฐมกาล 20:3 Referans Kwoze

มัทธิว 27:19

ขณะปีลาตนั่งอยู่บนบัลลังก์พิพากษา ภรรยาของท่านส่งคนมาเรียนท่านว่า “อย่าไปเกี่ยวข้องกับผู้บริสุทธิ์คนนี้เลยเนื่องจากวันนี้ดิฉันฝันร้ายไม่สบายใจมากเพราะท่านผู้นี้”

ปฐมกาล 20:7

บัดนี้จงคืนภรรยาของชายผู้นั้นกลับไป เพราะเขาเป็นผู้เผยพระวจนะ แล้วเขาจะอธิษฐานเผื่อเจ้า แล้วเจ้าจะรอดชีวิต แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมคืนนาง เจ้าก็แน่ใจได้เลยว่าเจ้ากับคนของเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย”

เพลงสดุดี 105:14

พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย

โยบ 33:15

ในความฝัน ในนิมิตยามค่ำคืน เมื่อมนุษย์หลับสนิท ขณะเคลิ้มอยู่บนที่นอน

มัทธิว 1:20

แต่หลังจากที่เขาคิดจะทำเช่นนั้น ทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เขาในความฝันและกล่าวว่า “โยเซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาเลยเพราะว่าผู้ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ปฐมกาล 28:12

เขาฝันเห็นบันไดทอดจากโลกขึ้นไปถึงสวรรค์และมีเหล่าทูตของพระเจ้ากำลังขึ้นลงบันไดนั้น

โยนาห์ 3:4

ในวันแรกโยนาห์ตั้งต้นเดินเข้าไปในกรุงนั้น เขาประกาศว่า “อีกสี่สิบวันนีนะเวห์จะถูกทำลาย”

ปฐมกาล 40:8

เขาตอบว่า “เราทั้งสองคนฝัน แต่ไม่มีใครบอกความหมายของความฝันให้เรา” โยเซฟจึงบอกว่า “มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ความหมายของความฝันไม่ใช่หรือ? จงเล่าความฝันของท่านให้ข้าฟังเถิด”

ปฐมกาล 37:9

ต่อมาโยเซฟก็ฝันอีกและเล่าให้พี่น้องของเขาฟังว่า “ฟังสิ ฉันฝันอีกแล้ว ฉันฝันเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ กับดาวสิบเอ็ดดวงมาน้อมคำนับฉัน”

ปฐมกาล 37:5

โยเซฟฝัน และเมื่อเขาเล่าความฝันให้พี่น้องฟัง พวกเขาก็ยิ่งเกลียดโยเซฟมากขึ้น

ปฐมกาล 31:24

คืนนั้นพระเจ้าทรงปรากฏแก่ลาบันคนอารัมในความฝันและตรัสว่า “ไม่ว่าอะไรก็ตาม จงระวัง อย่าพูดจาคุกคามข่มขู่ยาโคบ”

ปฐมกาล 12:17

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้เกิดโรคร้ายแก่ฟาโรห์และราชวงศ์ เพราะเหตุนางซารายภรรยาของอับราม

ปฐมกาล 12:18

ดังนั้นฟาโรห์จึงเรียกอับรามเข้าเฝ้าและตรัสว่า “ทำไมเจ้าทำกับเราอย่างนี้? ทำไมเจ้าไม่บอกเราว่านางเป็นภรรยาของเจ้า?

อาฤธโม 22:9

พระเจ้าเสด็จมาหาบาลาอัมและตรัสถามว่า “คนเหล่านี้ที่อยู่กับเจ้าเป็นใคร?”

1พงศาวดาร 16:21

พระองค์ไม่ทรงยอมให้ใครข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย

ปฐมกาล 40:5

คืนหนึ่งพนักงานสองคนที่ถูกคุมขัง คือพนักงานเชิญจอกเสวยและพนักงานทำขนมปัง ต่างก็ฝัน และความฝันของแต่ละคนนั้นก็มีความหมายแตกต่างกัน

ปฐมกาล 46:2

ในตอนกลางคืนพระเจ้าตรัสกับเขาทางนิมิตว่า “ยาโคบ! ยาโคบเอ๋ย!” ยาโคบทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่”

โยบ 33:17

เพื่อหันเหมนุษย์ไม่ให้ทำผิด และไม่ให้หยิ่งจองหอง