ปฐมกาล 1:14 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

¹⁴ และพระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดดวงสว่างต่างๆ ขึ้นในแผ่นฟ้า เพื่อแยกกลางวันจากกลางคืน ให้เป็นเครื่องหมายบอกฤดู บอกวัน บอกปี

Plis vèsyon

ฉบับมาตรฐาน

¹⁴ พระเจ้าตรัสว่า “จงมีดวงสว่างต่างๆ ของภาคพื้นฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้เป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

¹⁴ พระเจ้าตรั​สว​่า “จงให้​มี​ดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อแยกวันออกจากคืน และเพื่อใช้เป็นหมายสำคัญ และที่กำหนดฤดู วันและปี​ต่างๆ

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

¹⁴ พระเจ้า​พูด​ว่า “ขอให้​มี​ดวงสว่าง​มากมาย​ใน​ช่องว่าง​บน​ท้องฟ้า เพื่อ​แยก​กลางวัน​ออก​จาก​กลางคืน และ​พวกมัน​จะ​เป็น​เครื่อง​บ่งบอก​ถึง​ฤดูกาล​ทั้งหลาย​ของ​งาน​เทศกาล รวมทั้ง​วัน​และ​ปี

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

¹⁴ พระเจ้า​ตรัส​ให้​มีด​วง​สว่าง​บน​พื้น​ฟ้า​อากาศ เป็น​ที่​แบ่ง​วัน​ออก​จาก​คืน; ให้​ดวง​สว่าง​นั้น​เป็น​ที่​กำหนด​ฤดู วัน ปี:

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

¹⁴ แล้ว​พระ​เจ้า​กล่าว​ว่า “ให้​ดวงไฟ​สว่าง​ทั้ง​หลาย​บังเกิด​ขึ้น​ใน​โดม​กว้าง​ใหญ่​ของ​ท้องฟ้า เพื่อ​แยก​วัน​ออก​จาก​คืน และ​ให้​ดวงไฟ​สว่าง​เหล่า​นั้น​เป็น​เครื่อง​หมาย​กำหนด​ฤดู​กาล วัน และ​ปี

ปฐมกาล 1:14 Referans Kwoze

พระบัญญัติ 4:19

และเมื่อท่านเงยหน้าดูท้องฟ้าและเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอันเป็นวัตถุในท้องฟ้าทั้งปวง อย่าปล่อยใจไปกราบไหว้สิ่งเหล่านั้น และนมัสการสิ่งต่างๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงปล่อยให้ชนชาติอื่นๆ ทั้งปวงทั่วใต้ฟ้าปฏิบัติ

เยเรมีย์ 31:35

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงตั้งดวงอาทิตย์ ให้ส่องแสงยามกลางวัน ผู้ทรงบัญชาดวงจันทร์และดวงดาว ให้ส่องแสงยามกลางคืน ผู้ทรงกวนทะเล จนคลื่นคำรามกึกก้อง ทรงพระนามว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

เพลงสดุดี 148:3

จงสรรเสริญพระองค์เถิด ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ จงสรรเสริญพระองค์ ดวงดาวระยิบระยับทั้งปวง

เพลงสดุดี 148:6

พระองค์ทรงกำหนดสิ่งเหล่านั้นให้อยู่ในที่ ของมันไว้ตลอดกาล พระองค์ทรงมีประกาศิตซึ่งจะไม่มีวันล้มเลิก

อา​โม​ส 5:8

(พระองค์ผู้ทรงสร้างดาวลูกไก่และดาวไถ ผู้ทรงผันแปรความมืดให้กลายเป็นรุ่งอรุณ และกลางวันให้กลายเป็นกลางคืนมืดมิด ผู้ทรงเรียกน้ำทะเลมา และเทน้ำรดผิวโลก ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์

​โยเอล 3:15

ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะมืดมิดไป และดวงดาวจะอับแสง

เยเรมีย์ 10:2

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “อย่าเอาอย่างวิถีต่างๆ ของประชาชาติทั้งหลาย และอย่าตกใจกลัวเนื่องด้วยหมายสำคัญต่างๆ ในท้องฟ้า ดังที่ประชาชาติทั้งหลายหวาดกลัวอยู่นั้น

เพลงสดุดี 81:3

จงเป่าแตรเขาแกะในวันขึ้นหนึ่งค่ำ และเมื่อถึงวันเพ็ญและวันเทศกาลของเราทั้งหลาย

ปฐมกาล 8:22

“ตราบใดที่โลกยังคงอยู่ ตราบนั้นจะมีฤดูหว่านและฤดูเก็บเกี่ยว ความหนาวเย็นและความร้อน ฤดูร้อนและฤดูหนาว วันและคืน อยู่เรื่อยไป”

อิสยาห์ 40:26

จงเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสวรรค์เถิด ใครสร้างสิ่งทั้งปวงเหล่านี้? ผู้ทรงนำดวงดาวออกมาทีละดวง และขานชื่อของมัน โดยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และพละกำลังอันเกรียงไกรของพระองค์ จึงไม่มีดาวขาดหายไปสักดวง

มัทธิว 24:29

“ในทันทีทันใด หลังจากวันแห่งความทุกข์ลำเค็ญเหล่านี้ “ ‘ดวงอาทิตย์จะมืดมิด ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง ดวงดาวทั้งหลายจะร่วงจากท้องฟ้า และฟ้าสวรรค์จะถูกเขย่า’

อา​โม​ส 8:9

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกตอนเที่ยงวัน และโลกมืดมิดทั้งๆ ที่ยังกลางวันแสกๆ

​โยเอล 2:10

โลกสั่นคลอนต่อหน้าพวกมัน ฟ้าสวรรค์สั่นสะท้าน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดไป ดวงดาวอับแสง

เยเรมีย์ 33:20

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘หากเจ้าเลิกล้มพันธสัญญาที่เรามีต่อกลางวันและกลางคืน จนทำให้วันและคืนไม่ได้มาถึงตามกำหนดเวลาปกติได้

วิวรณ์ 6:12

ข้าพเจ้าเฝ้าดูขณะที่พระองค์ทรงแกะตราดวงที่หก เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์กลับมืดดำเหมือนผ้ากระสอบขนแพะ ดวงจันทร์เต็มดวงกลายเป็นสีเลือด

มัทธิว 2:2

และถามว่า “ผู้ที่มาบังเกิดเป็นกษัตริย์ของชาวยิวนั้นอยู่ที่ไหน? เราได้เห็นดาวของพระองค์เมื่อเราอยู่ที่ตะวันออกจึงมาเพื่อนมัสการพระองค์”

ยะเอศเคล 46:1

“ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ประตูด้านตะวันออกสู่ลานชั้นในให้ปิดตลอดวันทำงานหกวัน แต่ให้เปิดในวันสะบาโตและวันขึ้นหนึ่งค่ำ

เยเรมีย์ 33:25

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘หากเราไม่ได้สถาปนาพันธสัญญาที่เรามีต่อกลางวันและกลางคืน และไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ของฟ้าสวรรค์และโลกไว้

โยบ 25:5

หากแม้แสงจันทร์ยังไม่กระจ่าง และดวงดาวยังไม่บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์

ปฐมกาล 9:13

คือเราได้ตั้งรุ้งของเราไว้ที่หมู่เมฆ เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาของเรากับโลก

วิวรณ์ 8:12

ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตร หนึ่งในสามของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ ถูกทำลายลงจนมืดไป ทำให้เวลาหนึ่งในสามของกลางวันและกลางคืนไม่มีแสงสว่าง

ลู​กา 23:45

เพราะดวงอาทิตย์หยุดส่องแสงและม่านในพระวิหารขาดเป็นสองท่อน

มาระโก 13:24

“แต่ในวาระนั้นหลังจากความทุกข์เข็ญ “ ‘ดวงอาทิตย์จะถูกดับ ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง

ยะเอศเคล 46:6

ในวันขึ้นหนึ่งค่ำ ให้เจ้านายถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัว ลูกแกะหกตัวและแกะผู้หนึ่งตัว ล้วนไม่มีตำหนิ

เพลงสดุดี 119:91

บทบัญญัติของพระองค์ยั่งยืนตราบเท่าทุกวันนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างปรนนิบัติพระองค์

โยบ 25:3

กองพลโยธาของพระองค์สามารถนับได้หรือ? ผู้ใดเล่าที่แสงสว่างของพระองค์ส่องไปไม่ถึง?

โยบ 3:9

ขอให้ดาวรุ่งในเช้านั้นอับแสงไป ขอให้ความหวังที่จะได้เห็นแสงสว่างนั้นสูญเปล่า และไม่มีวันได้เห็นแสงอรุณ

วิวรณ์ 9:2

ซึ่งเมื่อเปิดออกควันก็พุ่งออกมาดั่งควันจากเตาหลอมมหึมาบดบังดวงอาทิตย์และท้องฟ้าให้มืดไป

ปฐมกาล 1:13

เวลาเย็นและเวลาเช้าผ่านไป นี่เป็นวันที่สาม

ปฐมกาล 1:15

และให้ดวงสว่างเหล่านั้นอยู่บนแผ่นฟ้าเพื่อให้แสงสว่างแก่โลก” ก็เป็นไปตามนั้น

เพลงสดุดี 150:1

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานนมัสการของพระองค์ จงสรรเสริญพระองค์ในฟ้าสวรรค์อันเกรียงไกรของพระองค์