กาลาเทีย 3:19 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

¹⁹ ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติมีไว้เพื่ออะไร? การที่มีบทบัญญัติเพิ่มขึ้นมาก็เพราะการล่วงละเมิดทั้งหลาย และบทบัญญัตินี้คงอยู่จนกว่า “พงศ์พันธุ์” นั้นซึ่งพระสัญญาระบุไว้มาถึง บทบัญญัติมีผลบังคับใช้ผ่านทางเหล่าทูตสวรรค์โดยคนกลาง

Plis vèsyon

ฉบับมาตรฐาน

¹⁹ ถ้าเช่นนั้น มีธรรมบัญญัติไว้ทำไม? ที่เพิ่มธรรมบัญญัติก็เพราะการละเมิด จนกว่าพงศ์พันธุ์ตามพระสัญญานั้นจะมาถึง พวกทูตสวรรค์ได้ตั้งธรรมบัญญัตินั้นไว้โดยมือของคนกลาง

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

¹⁹ ถ้าเช่นนั้​นม​ี​พระราชบัญญัติ​ไว้​ทำไม ที่​เพิ่มพระราชบัญญั​ติ​ไว้​ก็​เพราะเหตุจากการละเมิด จนกว่าเชื้อสายที่​ได้​รับพระสัญญานั้นจะมาถึง และพวกทูตสวรรค์​ได้​ตั้งพระราชบัญญั​ติ​นั้นไว้โดยมือของคนกลาง

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

¹⁹ ถ้า​อย่างนั้น​จะ​มี​กฎ​เอา​ไว้​ทำไม​กัน ก็​มี​ไว้​ให้​คน​ที่​ทำผิด​รู้ตัว​ว่า​เขา​กำลัง​ฝ่าฝืน​กฎ​อยู่​นั่นเอง กฎนี้​จะ​อยู่​แค่​ชั่วคราว​จนกว่า​ลูกหลาน​คนนั้น​ของ​อับราฮัม​ที่​พระเจ้า​ได้​พูดถึง​ใน​คำ​สัญญา​จะ​มาถึง พระเจ้า​ได้​ใช้​ทูตสวรรค์​ให้​เอา​กฎ​นี้​ไปให้​กับ​โมเสส เพื่อ​โมเสส​จะ​ได้​เป็น​คน​กลาง​เอา​ไป​ให้​กับ​ประชาชน

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

¹⁹ ถ้า​เช่นนั้น​แล้ว​ก็​มี​พระ​บัญญัติ​ไว้​ทำไม​เล่า? พระ​บัญญัติ​นั้น​ทรง​เพิ่ม​ให้​เพราะ​ความผิด, จน​กว่า​พงศ์พันธุ์​ที่​ได้​รับ​คำ​สัญญา​นั้น​จะ​มา จึง​ทรง​ตั้ง​ไว้​โดย​พวก​ทูต​สวรรค์, คือ​โดย​มือ​ของ​คน​กลาง.

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

¹⁹ แล้ว​กฎ​บัญญัติ​มี​ไว้​เพื่อ​อะไร มี​เพิ่ม​ขึ้น​มา​ไว้​เพื่อ​ให้​เห็น​ว่า​การ​กระทำ​ใด​เข้า​ข่าย​การ​ละเมิด จน​กว่า​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ตาม​พระ​สัญญา​ที่​อ้างถึง​นั้น​มา​แล้ว บรรดา​ทูต​สวรรค์​เป็น​ผู้​ที่​ช่วย​ส่ง​กฎ​บัญญัติ​ให้​โดย​มี​คน​กลาง

กาลาเทีย 3:19 Referans Kwoze

กิจการ 7:53

ท่านผู้ได้รับบทบัญญัติซึ่งประทานผ่านทูตสวรรค์แต่ไม่ได้เชื่อฟังบทบัญญัตินั้น”

ฮี​บรู 2:2

เพราะในเมื่อข้อความที่พระเจ้าตรัสผ่านทูตสวรรค์ยังผูกมัด และการละเมิดกับการไม่เชื่อฟังทุกอย่างยังได้รับการลงโทษอย่างยุติธรรม

กาลาเทีย 3:16

พระเจ้าทรงทำพระสัญญาต่างๆ กับอับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของเขา พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่า “แก่บรรดาพงศ์พันธุ์” อันหมายถึงผู้คนมากมาย แต่ระบุว่า “แก่พงศ์พันธุ์ของเจ้า” อันหมายถึงคนเพียงคนเดียวคือพระคริสต์

หน​ังสือโรม 4:15

เพราะบทบัญญัติย่อมนำพระพิโรธมาถึง และที่ใดไม่มีบทบัญญัติ ที่นั่นก็ไม่มีการล่วงละเมิด

หน​ังสือโรม 2:13

เพราะผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรพระเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังบทบัญญัติ แต่ผู้ที่ทำตามบทบัญญัติต่างหากที่พระเจ้าจะทรงประกาศว่าเป็นผู้ชอบธรรม

กิจการ 7:38

เขาอยู่กับชุมนุมชนในถิ่นกันดาร อยู่กับทูตสวรรค์ที่กล่าวกับเขาบนภูเขาซีนาย และอยู่กับบรรพบุรุษของเราทั้งหลาย และเขาได้รับพระวจนะอันทรงชีวิตซึ่งสืบทอดมาถึงเรา

โย​ฮัน 15:22

หากเราไม่ได้มาบอกกล่าวแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวให้กับบาปของตนแล้ว

พระบัญญัติ 5:5

(ในครั้งนั้นข้าพเจ้าเป็นคนกลางระหว่างองค์พระผู้เป็นเจ้ากับท่านเพื่อประกาศพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่ท่าน เพราะท่านกลัวไฟและไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขา) และพระองค์ตรัสว่า

โย​ฮัน 1:17

เพราะบทบัญญัติประทานมาทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์

ฮี​บรู 2:5

พระองค์ไม่ได้ทรงให้ทูตสวรรค์ปกครองดูแลโลกในอนาคตที่เรากำลังกล่าวถึง

ลู​กา 16:31

“อับราฮัมกล่าวกับเขาว่า ‘ถ้าพวกเขาไม่ฟังโมเสสกับเหล่าผู้เผยพระวจนะ ต่อให้ใครเป็นขึ้นจากตาย เขาก็จะไม่ยอมเชื่อ’ ”

เพลงสดุดี 106:23

ดังนั้นพระองค์จึงตรัสว่าจะทรงทำลายพวกเขา ยังดีที่โมเสสผู้ทรงเลือกสรรไว้ได้เข้าเฝ้า ทูลทัดทาน เพื่อหันเหพระพิโรธไม่ให้ทำลายพวกเขา

พระบัญญัติ 33:2

เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนาย ทรงฉายแสงอรุณเหนือพวกเขาจากเสอีร์ ทรงเปล่งรังสีจากภูเขาปาราน พระองค์เสด็จมากับผู้บริสุทธิ์นับหมื่นแสน จากทิศใต้ จากลาดเขาของพระองค์

เลวีนิติ 15:32

ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบสำหรับผู้ชายที่เป็นมลทินเนื่องจากสิ่งที่หลั่งออกหรือหลั่งอสุจิ