ปัญญาจารย์ 1:2 - ฉบับมาตรฐาน

² ปัญญาจารย์กล่าวว่า อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง สารพัดอนิจจัง

Plis vèsyon

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

² ปัญญาจารย์​กล่าวว่า อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง สารพั​ดอน​ิจจัง

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

² ปัญญาจารย์กล่าวว่า “อนิจจัง! อนิจจัง! อนิจจังแท้ๆ! ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง”

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

² อาจารย์​พูด​ว่า ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ช่าง​ไม่เที่ยง​เอา​เสียเลย ไม่เที่ยง​จริงๆ​ทุกสิ่ง​ช่าง​ไม่เที่ยง

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

² ท่าน​ผู้ประกาศ​นั้น​กล่าว​ว่า, อนิจจัง​แท้ๆ, อนิจจัง​จ​ริงๆ, สาร​พัตร​เป็น​อนิจจัง,

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

² ปัญญาจารย์​กล่าว​ว่า ไร้​ค่า​ที่​สุด ไร้​ค่า​ที่​สุด ทุก​สิ่ง​ไร้​ค่า​ทั้ง​สิ้น

ปัญญาจารย์ 1:2 Referans Kwoze

เพลงสดุดี 144:4

มนุษย์เป็นเหมือนลมหายใจ วันเวลาของเขาเหมือนเงาที่ผ่านไป

หน​ังสือโรม 8:20

เพราะว่าสรรพสิ่งเหล่านั้นต้องเข้าอยู่ในอำนาจของอนิจจัง ไม่ใช่ตามใจชอบของตนเอง แต่เป็นไปตามที่พระเจ้าได้ทรงให้เข้าอยู่นั้น

ปัญญาจารย์ 5:10

คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน และคนรักสมบัติก็ไม่อิ่มกับผลตอบแทน นี่ก็อนิจจังด้วย

ปัญญาจารย์ 12:8

ปัญญาจารย์ว่า อนิจจัง อนิจจัง สารพัดก็อนิจจัง

ปัญญาจารย์ 2:26

เพราะว่าพระเจ้าประทานสติปัญญา ความรู้ และความยินดีให้แก่คนที่พระองค์พอพระทัย แต่ส่วนคนบาปพระองค์ประทานภารกิจที่ต้องเก็บเกี่ยวและสะสม เพื่อให้แก่ผู้ที่พระเจ้าพอพระทัย นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง

ปัญญาจารย์ 2:19

แล้วใครจะไปทราบว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนมีสติปัญญาหรือคนเขลา กระนั้นเขาก็ครอบครองการตรากตรำทุกอย่างของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้ตรากตรำมาและใช้สติปัญญาทำภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่ก็อนิจจังด้วย

ปัญญาจารย์ 2:11

แล้วข้าพเจ้าหันมาดูทุกสิ่งที่มือข้าพเจ้าทำ และผลของการตรากตรำที่ข้าพเจ้าทำลงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย และดูเถิด ทุกอย่างก็อนิจจังคือ กินลมกินแล้ง และไม่มีประโยชน์อะไรภายใต้ดวงอาทิตย์

ปัญญาจารย์ 2:23

เพราะว่าปีเดือนทั้งหมดของเขามีแต่ความเจ็บปวด และภารกิจของเขาก่อความทุกข์ระทม ถึงกลางคืนจิตใจของเขาก็ไม่หยุดพักสงบ นี่ก็อนิจจังด้วย

ปัญญาจารย์ 2:17

ข้าพเจ้าจึงเกลียดชีวิต เพราะว่าการงานที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ก่อความสลดใจให้แก่ข้าพเจ้า เพราะสารพัดก็อนิจจังคือ กินลมกินแล้ง

ปัญญาจารย์ 11:8

เออ ถ้าคนใดมีชีวิตอยู่ได้ตั้งหลายปี จงให้เขาเปรมปรีดิ์ตลอดปีเหล่านั้น แต่ให้เขาระลึกด้วยว่า วันมืดก็จะมีมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นก็อนิจจัง

ปัญญาจารย์ 6:11

ยิ่งพูดมากก็ยิ่งอนิจจังมาก แล้วมนุษย์ได้ประโยชน์อะไรเล่า?

ปัญญาจารย์ 4:8

คือ คนหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีบุตรหรือพี่น้อง แต่เขาตรากตรำไม่หยุด ตาของเขาไม่เคยอิ่มความมั่งคั่ง เขาไม่เคยคิดว่า “ข้าตรากตรำและอดใจจากสิ่งที่ชื่นชอบเพื่อใครกัน?” นี่ก็อนิจจังด้วยและเป็นเรื่องสามานย์

ปัญญาจารย์ 4:4

และข้าพเจ้าเห็นว่าการตรากตรำทุกอย่าง และความชำนาญในการงานทุกอย่างมาจากความริษยาของคนที่มีต่อเพื่อนบ้านของตน นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง

ปัญญาจารย์ 3:19

เพราะว่าเคราะห์ของบรรดามนุษย์กับเคราะห์ของสัตว์นั้นเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็ตายเหมือนกัน ทั้งสองมีลมหายใจอย่างเดียวกัน และมนุษย์ไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ เพราะสารพัดก็อนิจจัง

ปัญญาจารย์ 2:21

เพราะว่ามีคนที่ตรากตรำโดยใช้สติปัญญา ความรู้ และความชำนาญ แต่แล้วก็ละส่วนแบ่งของเขาให้อีกคนหนึ่งที่หาได้ตรากตรำทำเพื่อการนั้นไม่ นี่ก็อนิจจังด้วยและสามานย์ยิ่ง

ปัญญาจารย์ 11:10

จงขจัดความเศร้าหมองเสียจากใจของเจ้า และจงสลัดความเจ็บปวดเสียจากเนื้อหนังของเจ้า เพราะวัยหนุ่มสาวและวัยฉกรรจ์นั้นเป็นอนิจจัง

ปัญญาจารย์ 4:16

จำนวนคนทั้งหมดที่อยู่ก่อนพวกเขามีมากมายจนนับไม่ถ้วน และบรรดาคนที่มาภายหลังก็ไม่เปรมปรีดิ์ในตัวคนหนุ่มนั้น นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง

ปัญญาจารย์ 2:15

ข้าพเจ้าจึงรำพึงว่า “เคราะห์ที่เกิดแก่คนเขลา ก็จะเกิดกับตัวข้าพเจ้าด้วย ถ้าเช่นนั้นแล้วข้าพเจ้าจะมีสติปัญญามากมายไปทำไมเล่า?” ข้าพเจ้าจึงรำพึงว่าเรื่องนี้ก็อนิจจังเหมือนกัน

โยบ 11:12

แต่คนโง่จะได้ความเข้าใจ ก็ต่อเมื่อลาป่าเกิดมาเป็นคน

เพลงสดุดี 89:47

ขอทรงระลึกว่าช่วงชีวิตของข้าพระองค์สั้นเพียงไร เพราะพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนมาเปล่าประโยชน์แท้ๆ

ปัญญาจารย์ 2:8

ข้าพเจ้าสะสมเงินทองไว้ด้วย และสะสมทรัพย์สมบัติอันควรคู่กับกษัตริย์และควรคู่กับเมืองทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีนักร้องชายหญิง และมีความสนุกสนานทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งชอบใจมนุษย์