หนังสือโรม 9:4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19404 เขาเป็นชาติยิศราเอล. เขาได้รับการตั้งให้เป็นบุตรของพระเจ้า, และรัศมี, และพระไมตรี, และการทรงประทานพระบัญญัติ, และพิธีปรนนิบัติพระเจ้า, และคำทรงสัญญา, Gade chapit laPlis vèsyonฉบับมาตรฐาน4 พวกเขาเป็นคนอิสราเอล ได้รับสิทธิ์เป็นบุตรของพระเจ้า เห็นพระสิริของพระองค์ และเขาได้รับบรรดาพันธสัญญา ทั้งการประทานธรรมบัญญัติ พิธีนมัสการพระเจ้า และพระสัญญาต่างๆ Gade chapit laพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV4 พวกเขาเป็นคนอิสราเอล ได้รับการทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้าและสง่าราศี และบรรดาพันธสัญญา และการทรงประทานพระราชบัญญัติ และการปรนนิบัติพระเจ้าและพระสัญญาทั้งหลาย Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย4 คือประชากรอิสราเอล พวกเขาได้เป็นบุตรของพระเจ้า ได้รับพระเกียรติสิริของพระเจ้า ได้รับพันธสัญญา บทบัญญัติ พิธีนมัสการในพระวิหาร และพระสัญญาต่างๆ Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย4 พวกเขาเป็นคนอิสราเอล ที่ได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง คือพระเจ้ารับพวกเขามาเป็นลูกของพระองค์ ให้เขาเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ได้ทำข้อตกลงต่างๆกับเขา ให้กฎของพระองค์กับเขา ให้เขารู้ถึงวิธีนมัสการพระองค์ในวิหาร และยังให้คำสัญญาต่างๆอีก Gade chapit laพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)4 พวกเขาเป็นชาวอิสราเอล ซึ่งได้รับการยกฐานะเป็นบุตร ได้รับพระบารมี พันธสัญญานานา กฎบัญญัติ ได้นมัสการที่พระวิหาร และได้รับพระสัญญาต่างๆ Gade chapit la |
แต่ความสัญญาที่เราจะกระทำกับด้วยตระกูลแห่งยิศราเอลจะเป็นดังนี้ (คือว่า) เมื่อวันเหล่านั้นจะพ้นไปแล้ว, พระยะโฮวาได้ตรัส, เราจะใส่บทบัญญัติของเราไว้ ณ ภายในตัวเขาทั้งปวง, แลจะเขียนบทบัญญัตินั้นในใจเขา, แลเราจะเป็นพระเจ้าแก่เขาทั้งหลาย, แลเขาจะเป็นไพร่พลของเรา.
พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, นี่แน่ะ, ตัวเจ้าจะต้องล่วงลับไปอยู่กับปู่ย่าตายายของเจ้า; แต่คนทั้งปวงนี้จะลุกขึ้น, หันหวนไปติดตามรูปเคารพแห่งชาวเมือง, ซึ่งเขาจะไปอยู่ท่ามกลางรูปเคารพนั้นดุจดังหญิงประพฤติตนเป็นแพศยา, จะละลืมเรา, และจะผิดคำสัญญาไมตรีซึ่งเราได้ตั้งไว้กับเขา.
ลำดับนี้ คือคำสัญญาไมตรีซึ่งพระยะโฮวาได้ตรัสสั่งให้โมเซตั้งไว้กับพวกยิศราเอลที่แผ่นดินโมอาบ, เป็นความนอกจากคำสัญญาไมตรีซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งไว้กับเขาที่โฮเร็บ โมเซได้เรียกบรรดาพวกยิศราเอล, กล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า, เจ้าทั้งหลายได้เห็นบรรดากิจการซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงกระทำแก่ฟาโร ต่อหน้าเจ้าทั้งหลายในประเทศอายฆุบโต. และแก่บรรดาข้าราชการ. และทั้งแผ่นดินของฟาโรนั้น; และการลำบากใหญ่ซึ่งตาของเจ้าทั้งหลายได้เห็น. การสำคัญและการอัศจรรย์ใหญ่เหล่านั้น: แต่พระยะโฮวาได้ทรงประทานให้เจ้ามีใจสังเกต. ตาที่จะแลเห็น, แลหูที่จะได้ยินไม่, จนถึงทุกวันนี้. (พระยะโฮวาได้ตรัสว่า) เราพาเจ้าทั้งหลายมาในป่าได้สี่สิบปีมาแล้ว: ผ้าผ่อนที่เจ้าทั้งหลายนุ่งห่มอยู่นั้นก็หาได้เก่าแก่ไปไม่, เกือกที่รองเท้าของเจ้าก็หาได้เก่าแก่ไปไม่. เจ้าทั้งหลายมิได้รับประทานขนม. มิได้ดื่มน้ำองุ่นและน้ำเมา; เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า. และเมื่อเจ้าทั้งหลายมาถึงตำบลนี้แล้ว, ซีโฮนกษัตริย์เมืองเฮศโบน, และโอฆกษัตริยเมืองบาซาน, ได้ออกมาสู้รบกับเราทั้งหลาย; เราได้ตีเขาและได้ริบแผ่นดินของเขา, ให้เป็นที่อยู่เป็นกรรมสิทธิ์ของตระกูลรูเบ็น, แก่ตระกูลฆาด, และแก่ตระกูลมะนาเซครึ่งตระกูลนั้น. เหตุฉะนี้จงรักษาคำสัญญาไมตรีนี้, และทำตาม, เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้มีความจำเริญในบรรดากิจการที่เจ้ากระทำนั้น วันนี้เจ้าทั้งหลายยืนอยู่ต่อพระพักตรพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ทั้งแม่กอง,ตระกูลทั้งปวงของเจ้า, พวกผู้เฒ่าผู้แก่, เจ้าพนักงานของเจ้า. บรรดาคนพวกยิศราเอล, บุตรภรรยาทั้งหลายของเจ้า, คนต่างชาติที่อยู่ในกองทัพของเจ้า, ทั้งคนตัดฟืนและคนตักน้ำของเจ้าด้วย; เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้เข้าตั้งสัญญาไมตรีกันกับพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ด้วยคำปฏิญาณ, ซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงกระทำไว้กับเจ้าในวันนี้: เพื่อพระองค์จะได้ทรงตั้งเจ้าทั้งหลายไว้ในวันนี้, ให้เป็นพวกของพระองค์เอง, และเพื่อพระองค์จะเป็นพระเจ้าแห่งเจ้าทั้งหลาย, เหมือนพระองค์ได้ตรัสแก่เจ้าไว้นั้น, และเหมือนพระองค์ได้ทรงสัญญากับปู่ย่าตายายของเจ้า, คืออับราฮาม, ยิศฮาคและยาโคบ เราได้ตั้งคำสัญญาไมตรีนี้ มิใช่กับเจ้าพวกเดียว; แต่กับคนเหล่านั้นที่มายืนอยู่กับเราวันนี้ ต่อพระพักตรพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, และกับคนอื่นที่มิได้อยู่ที่นี่กับเราวันนี้: (เพราะเจ้าทั้งหลายรู้อยู่ว่าได้อยู่ในประเทศอายฆุบโตนั้นอย่างไร, และได้ออกมาข้ามประเทศทั้งปวงนั้นอย่างไร; เจ้าทั้งหลายได้เห็นการชั่วของเขา, และได้เห็นรูปเคารพ, ทำด้วยไม้ศิลา, และเงินทองของเขา, ซึ่งอยู่ในท่ามกลางเมืองของเขานั้น); กลัวว่าจะมีชาย, หรือหญิง, ครอบครัว, ตระกูล, ในท่ามกลางเจ้าทั้งหลายที่มีใจแปรปรวนไปจากพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าในวันนี้, และปฏิบัติพระอื่นๆ แห่งประเทศเหล่านี้; กลัวว่าจะมีรากหน่อที่จะให้บังเกิดของขมเปรี้ยวในท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย; เมื่อเขาได้ยินคำแช่งเหล่านี้, เขาจะนึกยินดีในใจของตนว่า, ถึงมาทว่าเราประพฤติตามความปรารถนาในใจของตน ด้วยการดื่มของมึนเมา, เรายังจะมีความสุขอยู่: พระยะโฮวาจะไม่ทรงงดโทษเขาไว้, แต่ความพิโรธแห่งพระยะโฮวาและความหวงแหนของพระองค์จะทรงเผาคนนั้น, ความแช่งทั้งปวงที่ได้เขียนไว้ในหนังสือนี้จะตกอยู่บนผู้นั้น, พระยะโฮวาจะทรงลบชื่อผู้นั้นออกเสียจากใต้ฟ้า. และพระยะโฮวาจะทรงแยกเขาออกจากตระกูลพวกยิศราเอลทั้งปวง, และมอบไว้แก่ความชั่วตามความแช่งทั้งปวงแห่งข้อสัญญาไมตรีซึ่งเขียนไว้ในหนังสือพระบัญญัตินี้ ครั้นบุตรหลานของเจ้าที่จะเกิดในภายหน้า, และคนต่างชาติที่จะมาจากประเทศไกล, ได้เห็นความทุกข์, และความเจ็บไข้, ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงบันดาลให้บังเกิดแก่ประเทศนั้น: ทั้งประเทศกำมะถัน, เป็นเกลือ, และซึ่งเผาร้อน, เป็นประเทศซึ่งไม่ได้หว่านพืช, และไม่ได้เกิดผลไม่มีหญ้างอกงามในที่นั่น, เป็นดุจความฉิบหายแห่งเมืองซะโดม, เมืองอะโมรา, เมืองอัดมา, และเมืองซะโบอิม, ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงทำลายเสียด้วยความกริ้ว, และความพิโรธของพระองค์: ชนชาวประเทศทั้งปวงนั้นจะว่า, เหตุอย่างไรพระยะโฮวาได้ทรงกระทำดังนั้นแก่ประเทศนี้? เพราะเหตุไรพระองค์จึงมีความพิโรธใหญ่ดังนี้? แล้วคนทั้งปวงจะว่า, เพราะเขาทั้งหลายได้ละทิ้งคำสัญญาไมตรีแห่งพระยะโฮวา, พระเจ้าแห่งปู่ย่าตายายของเขา, ซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งไว้กับเขา, เมื่อพระองค์ได้พาเขาออกมาจากประเทศอายฆุบโต, และเพราะเขาทั้งหลายได้หลงปฏิบัตินมัสการพระอื่นๆ, ซึ่งเขามิได้รู้จัก, และซึ่งพระองค์มิได้ประทานให้เขา: เหตุฉะนี้ความพิโรธแห่งพระยะโฮวาก็ได้เผาแผ่นดินนี้, และพระองค์ได้ทรงพาความแช่งทั้งปวงที่ได้เขียนไว้ในหนังสือมาถึงแผ่นดินนี้; และพระยะโฮวาได้ทรงถอนเขาทั้งหลายออกจากประเทศของเขาด้วยความกริ้ว, ความโกรธ, และความพิโรธอันใหญ่, และได้ทรงทอดทิ้งเขาทั้งหลายไว้ในประเทศอื่น, ดุจดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้. ความลับลึกทั้งปวงเป็นของพระยะโฮวาพระเจ้าของเรา; แต่ความที่ให้ปรากฏแจ้งนั้น เป็นของเราและของลูกหลานเราเป็นนิตย์, เพื่อเราทั้งหลายจะได้ทำตามบรรดาถ้อยคำในพระบัญญัตินี้