โยชูวา 7:11 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 194011 พวกยิศราเอลได้ทำผิดแล้ว, เขาได้หักไมตรีซึ่งเราได้บัญชาสั่งไว้, เขาได้แย่งเอาสิ่งที่ห้ามนั้น, ได้ขะโมยไปปิดซ่อนไว้, ได้รวบรวมสิ่งนั้นไว้กับของๆ ตน. Gade chapit laPlis vèsyonฉบับมาตรฐาน11 อิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เขาได้ขโมยและหลอกลวง และได้เอาของนั้นรวมไว้กับข้าวของของตน Gade chapit laพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV11 คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่ถูกสาปแช่ง เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย11 อิสราเอลได้ทำบาป ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเราซึ่งบัญชาให้เขาปฏิบัติ พวกเขาซุกซ่อนของที่ต้องอุทิศถวาย เขาขโมยและโกหก เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้กับทรัพย์สินส่วนตัว Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย11 ชาวอิสราเอลได้ทำบาป พวกเขาได้ละเมิดข้อตกลงที่เราได้สั่งพวกเขาไว้ พวกเขาได้เอาของบางส่วนที่เราสั่งให้ทำลาย พวกเขาได้ขโมยพวกมันไปและโกหก พวกเขาได้เอาสิ่งเหล่านั้นไปรวมไว้กับของของพวกเขา Gade chapit laพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)11 อิสราเอลกระทำบาป พวกเขาละเมิดพันธสัญญาของเราที่เราบัญชาไว้ พวกเขาได้ยักยอกบางสิ่งที่ถวายแล้ว เขาทั้งขโมยและโกหก และเก็บรวบรวมไว้กับของส่วนตัวของเขา Gade chapit la |
ท่านทำผิดต่อคำสัญญาไมตรีแห่งยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, ซึ่งพระองค์ได้รับสั่งแก่ท่าน, ไปปฏิบัติกราบไหว้แก่พระอื่นๆ เมื่อไร; ความพิโรธแห่งพระยะโฮวาจะได้พลุ่งขึ้นต่อท่าน, ในขณะนั้นให้พินาศสูนย์ไปโดยเร็วจากแผ่นดินอันดีนั้น, ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่ท่านแล้ว
แต่พวกยิศราเอลได้ทำผิดด้วยของถวายที่ต้องห้ามนั้น: คืออาคานบุตรคาระมี ๆ บุตรซับดี ๆ บุตรเซรา, ตระกูลยูดา, หยิบสิ่งที่ห้ามนั้นมา: แล้วความพิโรธแห่งพระยะโฮวาก็พลุ่งขึ้นต่อพวกยิศราเอล ฝ่ายยะโฮซูอะจึงใช้คนออกจากยะริโฮไปยังเมืองฮาย, ซึ่งอยู่ใกล้ตำบลอาเวน, ข้างทิศตะวันออกแห่งเบธเอล, บอกแก่เขาว่า, จงไปสอดแนมดูเมือง. คนนั้นก็ไปสอดแนมเมืองฮาย. แล้วก็กลับมาเรียนยะโฮซูอะว่า, อย่าให้พลทั้งหมดขึ้นไปเลย; ให้ขึ้นไปตีเมืองฮายสักสองสามพันคนก็พอ; อย่าให้คนทั้งหลายไปทนความเดือดร้อน; เพราะที่นั่นมีคนน้อย. พลทหารก็ขึ้นไปประมาณสามพันคน. แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองฮาย. ฝ่ายชาวเมืองฮายก็ฟันแทงพลเหล่านั้นตายประมาณสามสิบหกคนและขับไล่พวกยิศราเอลจากประตูเมืองไปยังซะบาริม ฟันแทงเขาเมื่อกำลังกลับลงไปจากเมือง: เหตุฉะนี้ใจพลไพร่ยิศราเอลก็ได้อ่อนอิดโรยละลายไปเหมือนน้ำ ฝ่ายยะโฮซูอะเองกับผู้เฒ่าแก่พวกยิศราเอลได้ฉีกเสื้อซบหน้าลงถึงดินฉะเพาะหีบไมตรีแห่งพระยะโฮวาจนถึงเวลาพลบค่ำ, แล้วเอาผงคลีดินใส่ที่ศีรษะ. ยะโฮซูอะทูลร้องทุกข์ว่า, โอ้ ยะโฮวาพระเจ้าข้า, เหตุไฉนพระองค์ทรงนำพลไพร่นี้ข้ามแม่น้ำยาระเดนไป, มอบไว้ในเงื้อมมือชาติอะโมรีกระทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายถึงแก่พินาศ? พวกข้าพเจ้ามีความเสียดายซึ่งไม่พอใจอาศัยอยู่ที่ฝั่งยาระเดนฟากข้างโน้น! โอ้ พระยะโฮวาเจ้าข้า, ข้าพเจ้าจะทูลประการใด, เพราะพวกยิศราเอลได้หันหลังต่อศัตรูเขา! เพราะว่าชนชาติคะนาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน, แล้วยกทัพมาตั้งล้อมพวกข้าพเจ้า, ตัดชื่อเสียงของข้าพเจ้าให้ศูนย์หายไปจากโลก, พระองค์จะทรงทำประการใดเพื่อพระนามอันใหญ่ของพระองค์นั้น? ฝ่ายพระยะโฮวาทรงตรัสแก่ยะโฮซูอะว่า, “จงลุกขึ้นเถิด; เหตุไฉนเจ้าซบหน้าลงดั่งนี้เล่า? พวกยิศราเอลได้ทำผิดแล้ว, เขาได้หักไมตรีซึ่งเราได้บัญชาสั่งไว้, เขาได้แย่งเอาสิ่งที่ห้ามนั้น, ได้ขะโมยไปปิดซ่อนไว้, ได้รวบรวมสิ่งนั้นไว้กับของๆ ตน. เหตุฉะนี้พวกยิศราเอลจึงทัดทานศัตรูของเขาไม่ได้, แต่ได้หันหลังให้แก่ศัตรู, เพราะเขาเป็นที่แช่งสาปแล้ว เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าต่อไปอีกเลย, เว้นเสียแต่เจ้าจะทำลายสิ่งที่ต้องแช่งห้ามนั้นให้ศูนย์เสียไปจากท่ามกลางพวกเจ้า. จงลุกขึ้น, ชำระพลไพร่เสียให้สะอาด, และบอกเขาว่า จงชำระตัวให้บริสุทธิ์ต่อเวลาพรุ่งนี้: เพราะว่าพระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอลทรงตรัสดังนี้ว่า, โอ้ ยิศราเอล สิ่งที่ต้องแช่งห้ามอยู่ในท่ามกลางพวกเจ้า, พวกเจ้าจะยืนอยู่ต่อหน้าศัตรูไม่ได้, กว่าพวกเจ้าจะทำให้สิ่งที่ต้องห้ามนั้นศูนย์หายไปจากท่ามกลางเจ้า. พรุ่งนี้เวลาเช้าเจ้าทั้งหลายจงเข้ามาทีละตระกูล, แล้วตระกูลซึ่งพระยะโฮวาจะทรงเลือกจับ, จงให้เข้ามาตามวงศ์ญาติ; และวงศ์ญาติซึ่งพระยะโฮวาทรงเลือก จงให้เข้ามาตามครอบครัว; และครอบครัวซึ่งพระยะโฮวาทรงเลือก จงให้เข้ามาทีละคน. ผู้ที่จับถูกมีสิ่งที่ต้องห้ามนั้น, จงเผาไฟเสียกับสรรพสิ่งซึ่งเขามีอยู่: เพราะว่าเขาได้ล่วงเกินหักไมตรีแห่งพระยะโฮวา, และได้กระทำความโฉดเขลาในพวกยิศราเอล.” ฝ่ายยะโฮซูอะก็ได้ตื่นเเต่เช้า, ให้พวกยิศราเอลเข้ามาทีละตระกูล; แล้วก็เลือกจับตระกูลยูดา: เมื่อให้วงศ์ญาติตระกูลยูดาเข้ามา; ก็จับวงศ์ญาติเซรา: เมื่อให้วงศ์ญาตินั้นเข้ามาทีละคนแล้วจับซับดี: เมื่อให้ครอบครัวซับดีเข้ามาทีละคน, แล้วจับอาคานบุตรคาระมีๆ บุตรซับดีๆ บุตรเซราตระกูลยูดา. ฝ่ายยะโฮซูอะจึงตักเตือนอาคานว่า, บุตรเอ๋ย จงให้เกียรติยศแก่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอล คือให้รับสารภาพต่อพระองค์, เจ้าได้ทำอะไรจงบอกเราเถิด อย่าปิดซ่อนไว้เลย. อาคานจึงเรียนยะโฮซูอะว่า, จริงอยู่ ข้าพเจ้าได้ผิดต่อพระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอล, โดยได้ทำเช่นนี้ เช่นนั้น: ในของที่เก็บมานั้น ข้าพเจ้าได้เห็นเสื้อยาวดีอย่างบาบุโลนเสื้อหนึ่ง, กับเงินหนักสองร้อยบาท, และทองคำแผ่นหนึ่งหนักห้าสิบบาท, ข้าพเจ้ามีใจโลภเก็บของนั้นไว้, ดูเถิด ของนั้นฝังอยู่ในดินท่ามกลางทับอาศัยข้าพเจ้า, และเงินอยู่ใต้เสื้อนั้น ฝ่ายยะโฮซูอะจึงใช้คนวิ่งไปยังทับอาศัยนั้น: เห็นเสื้อซ่อนอยู่ในทับของเขาและเงินก็อยู่ใต้เสื้อ. เขาจึงนำของนั้นมาจากท่ามกลางทับอาศัย, ส่งไปยังยะโฮซูอะกับพวกยิศราเอล แล้วเขาทั้งหลายจึงวางของนั้นลงตรงพระพักตรพระยะโฮวา. ฝ่ายยะโฮซูอะกับบรรดาพวกยิศราเอล, พากันคุมอาคานบุตรเซรา, กับเงินเสื้อยาว, แผ่นทองคำ, และบุตรชายหญิงของเขา, กับทั้งโค, ลา, แกะและทับอาศัยและสรรพสิ่งซึ่งเขามีอยู่, มายังหุบเขาอาโคระเดือดร้อน. ยะโฮซูอะจึงกล่าวแก่เขาว่า, เหตุไฉนเจ้าจึงนำความเดือดร้อนให้บังเกิดแก่พวกเราเล่า? พระยะโฮวาจะทรงนำความเดือดร้อนมาให้เจ้า ณ เวลาวันนี้. พวกยิศราเอลจึงเอาหินขว้างเขา, และเมื่อขว้างหินนั้นก็ทับตัวเขาแล้วก็เอาไฟเผาเสีย. ได้ถมหินทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ซึ่งยังอยู่จนทุกวันนี้. แล้วพระยะโฮวาทรงหวนพระทัยจากความพิโรธอันยิ่งของพระองค์ เหตุฉะนี้ตำบลนั้นได้ชื่อว่า, “หุบเขาอาโคระ” (เดือดร้อน) จนทุกวันนี้