เยเรมีย์ 51:5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19405 ด้วยว่าพวกยิศราเอลแลยะฮูดามิได้ต้องทั้งจากพระเจ้าของตัว, คือพระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, มาตรว่าประเทศของเจ้าทั้งหลายเต็มด้วยความผิดต่อสู้บริสุทธิ์องค์เดียวแห่งพวกยิศราเอล. Gade chapit laPlis vèsyonฉบับมาตรฐาน5 เพราะว่าอิสราเอลและยูดาห์ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง โดยพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าของเขา แต่แผ่นดินเคลเดียนั้นเต็มด้วยความผิด ต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล Gade chapit laพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV5 เพราะว่าอิสราเอลและยูดาห์มิได้ถูกทอดทิ้งโดยพระเจ้าของเขาทั้งหลายพระเยโฮวาห์จอมโยธา ถึงแม้แผ่นดินของเขาเต็มด้วยความผิดบาปต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย5 เพราะพระเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ได้ทรงทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์ แม้ดินแดนของเขาจะเต็มไปด้วยความผิด ต่อหน้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย5 พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่ได้ทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์ แต่แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยความผิด ต่อหน้าองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล Gade chapit laพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)5 เพราะพระเจ้าของอิสราเอลและยูดาห์ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา แม้ว่าแผ่นดินของพวกเขาเต็มด้วยความผิดบาป ต่อองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล Gade chapit la |
และพระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, บุตรมนุษย์เอ๋ย, ท่านได้เห็นซึ่งเรือนยะฮูดากระทำความชั่วลามกทั้งปวง, ที่เขาทำอยู่, ที่เขาทำเป็นการเบาหรือ, ด้วยเขาทั้งหลายประพฤติร้ายกาจเต็มไปทั้งแผ่นดิน, และเขาได้กลับหมายจะยุความพิโรธของเรา, และนี่แน่ะ, เขาทั้งหลายมือถือกิ่งไม้อ่อน, จะมาตำจมูกของเรา,
พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, โอ้ยาโคบบ่าวของเราเอ๋ย, เจ้าอย่ากลัวเลย, ด้วยว่าเราตั้งอยู่ด้วยเจ้า, เพราะเราจะกระทำให้บรรดาเมืองทั้งหลายที่เราได้ไล่เจ้าไปถึงนั้นให้สิ้นเชิงทีเดียว, แต่เราจะไม่ให้เจ้าสิ้นเชิงไปเลย, แต่เราจะโบยตีเจ้าบ้าง, แลเราจะปล่อยเจ้าให้พ้นโทษทีเดียวมิได้
ด้วยว่าพวกข้าพเจ้าเป็นทาสเขาอยู่; แต่ทว่าพระองค์หาได้ทรงละทิ้งพวกข้าพเจ้าไว้ในการเป็นทาสของพวกข้าพเจ้านั้นไม่, แต่พระองค์ได้ทรงสำแดงความเมตตากรุณาแก่พวกข้าพเจ้าต่อหน้ากษัตริย์แผ่นดินฟารัศ, เพื่อจะได้ทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้ามีความทุเลาบ้าง, และเพื่อพวกข้าพเจ้าจะได้ก่อสร้างโบสถ์วิหารของพระองค์ขึ้นไว้, และเพื่อจะได้ซ่อมแซมซึ่งหักพังชำรุดเสีย, และเพื่อจะได้ทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้ามีกำแพงสำหรับป้องกันแผ่นดินยะฮูดาและกรุงยะรูซาเลม.
พระองค์ได้ละทิ้งยะฮูดาเด็ดขาดแล้วหรือ, ใจแห่งพระองค์ได้เกลียดเมืองซีโอนหรือ, เหตุผลประการใดพระองค์ได้โบยตีพวกข้าพเจ้า, แลไม่มีที่จะรักษาพวกข้าพเจ้าให้หายเลย. พวกข้าพเจ้าได้คอยดูเพื่อจะได้ความสุข, แลหามีความดีไม่, แลได้คอยหาเวลาที่จะรักษาหาย, แลนี่แน่ะมีแต่ความทุกข์.
“จงเรียกพี่และน้องชายของเจ้าทั้งหลายว่า ‘อัมมี’ และจงเรียกพี่และน้องสาวทั้งหลายว่าของเจ้าว่า ‘รู-ฮามา.’ ” “จงวิงวอนมารดาของเจ้า, จงวิงวอนเขาเถิด, เพราะเขาไม่ใช่เป็นภรรยาของเราแล้ว, และเราก็ไม่ใช่เป็นสามีของเขา; ให้การเล่นชู้ห่างไกลไปจากดวงหน้าของเขา, และให้การล่วงประเวณีไกลไปเสียจากหว่างเต้านมของเขา; เกรงว่าเราจะเปลื้องผ้าออกจากตัวเขาให้เปลือยกาย, และกระทำแก่เขาให้เป็นดุจดังสภาพเมื่อเกิดมา, และทำให้เขาเป็นเหมือนป่าเปลี่ยว, และทำให้เขาเป็นเหมือนดินแห้งแล้ง, และทำให้เขาตายด้วยความอดอยากน้ำ. แท้จริงเราจะไม่เมตตาลูกของเขา, ด้วยว่าเขาเป็นลูกชู้, ด้วยว่ามารดาของเขาได้สมัครเป็นหญิงเล่นชู้. และผู้ที่ให้กำเนิดแก่เขาได้ประพฤติเป็นการน่าละอาย; เพราะเขาได้พูดว่า, ‘ฉันจะติดตามชู้ของฉันไป, คือผู้ที่ให้ขนมปัง, น้ำ, ขนแกะ, เส้นป่าน, น้ำมัน, และเครื่องดื่มแก่ฉัน.’ เพราะเหตุนั้นนี่แน่ะ, เราจะเอาหนามสะทางของเขา, และจะก่อกำแพงกั้นเพื่อเขาจะหาทางไม่พบ, เขาจะติดตามชู้แต่จะตามไม่ทัน, และจะแสวงหาแต่จะไม่พบ; แล้วเขาก็จะกล่าวว่า, ‘ฉันจะกลับไปหาสามีเดิม, เพราะในกาลครั้งก่อนนั้นฉันยังมีฐานดีกว่าในกาลครั้งนี้อีก;’ ด้วยว่าเขามิได้รู้ว่าเราเป็นผู้ประทานให้เขามีข้าว, น้ำองุ่น, และน้ำมัน, และได้ให้เงินและทองของเขาทวีขึ้นซึ่งเขากลับเอาไปใช้สำหรับบูชาพระบาละนั้น. เหตุฉะนั้นเราจะเอาข้าวของเรากลับคืนมาในฤดูข้าว, และจะเอาน้ำองุ่นของเรากลับคืนเสียในฤดูน้ำองุ่น, และขนแกะและเส้นป่านของเราที่เราได้ให้ห่มห่อกายเปลือยเปล่าของเขานั้นเราจะริบเอาไปเสีย. และบัดนี้เราจะเปิดเผยความลามกของเขาให้ประจักษ์แก่ชู้ของเขาเอง, และไม่มีใครจะช่วยเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเรา. เราจะกระทำให้ความรื่นเริง ของเขา, วันเลี้ยงต่างๆ ของเขา, และวันขึ้นเดือนใหม่, วันซะบาโต, และเทศกาลเลี้ยงต่างๆ ของเขานั้นเลิกล้มไป. เถาองุ่นและฉันมะเดื่อ, ที่เขาว่า ‘สิ่งของนี้เป็นสินน้ำใจที่ชู้ได้ให้ฉันไว้.’ เราจะกระทำให้กลับกลายเป็นป่าดงและสัตว์ป่าจะกินเสีย.” เราคือยะโฮวาตรัสว่า, “เราจะบันดาลให้วิบัติต่างๆ ซึ่งเกิดมีมาแล้วในสมัยเมื่อเขาเผาบูชาถวายแก่พระบาละ, และคราวเมื่อเขาได้แต่งตัวด้วยตุ้มหู และเครื่องประดับต่างๆ, และได้ติดตามชู้ของเขาไปและได้ละลืมเราเสียนั้นกลับมาอุบัติขึ้นแก่เขาอีก “เหตุฉะนั้นนี่แหละเราจะเกลี้ยกล่อมเขาและพาเขาไปยังป่าและจะพูดปลอบโยนใจของเขา. เราจะให้เขามีสวนองุ่นที่นั่น, และให้ทุ่งหุบผาอาโคระนั้นกลับเป็นประตูแห่งความหวัง; และเขาจะสนองต่อเราที่นั่นดุจดังในยามวัยสาวของเขา, และเหมือนในกาลสมัยที่เขาได้ออกมาจากประเทศอายฆุบโต.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “ในคราวนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สาม,’ และจะไม่เรียกเราต่อไปอีกว่า ‘นาย.’ ด้วยว่าเราจะเอาชื่อพระบาละเหล่านั้นไปเสียจากปากของเขา, และชื่อเหล่านั้นเขาจะไม่จดจำไว้เลย. ในกาลสมัยนั้นเราจะทำมิตรไมตรีระหว่างเขากับสัตว์ป่า, กับนกในอากาศและสัตว์ที่เลื้อยคลานอยู่บนพื้นดิน; เราจะหักทำลายธนูและดาพและการสู้รบเสียจากแผ่นดิน, และจะกระทำให้เขานอนตาหลับ. และเราจะหมั้นเธอไว้สืบไป, แท้จริงเราจะหมั้นเธอไว้ด้วยความยุตติธรรม, ความซื่อตรง, ความกรุณาและความเมตตา. เราจะหมั้นเธอไว้ด้วยความซื่อสัตย์, และเธอจะได้รู้จักพระยะโฮวา.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “ในคราวนั้นเราจะอำนวยสนอง, เราจะอำนวยสนองแก่ฟ้า, และฟ้าจะอำนวยสนองแก่โลก, และโลกจะอำนวยสนองให้เกิดข้าวและน้ำองุ่นและน้ำมัน, และสิ่งเหล่านั้นจะอำนวยสนองแก่ยิศเรล. และเราจะหว่านพืชยิศเรล. ลงบนแผ่นดินสำหรับเป็นของเราเอง; และเราจะเมตตาแก่โล-รูฮามา, และจะพูดแก่โล-อัมมีว่าเจ้าเป็นพลไพร่ของเรา; และเขาจะทูลว่า ‘พระเจ้าของข้าพเจ้า.’ ”