อิสยาห์ 20:2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19402 ในเวลานั้นพระยะโฮวาตรัสสั่งยะซายาบุตรอาโมสว่า, “เจ้าจงไปแก้เสื้อเนื้อหยาบชั้นนอกออกจากบั้นเอวของเจ้า, และถอดรองเท้าของเจ้าเสีย.” และยะซายาก็ได้กระทำตาม, และเดินไปมาสวมเสื้อชั้นในและเท้าเปล่า. Gade chapit laPlis vèsyonฉบับมาตรฐาน2 ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ตรัสโดยอิสยาห์บุตรอามอสว่า “จงไปและแก้ผ้ากระสอบออกจากบั้นเอวของเจ้า และถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้า” แล้วท่านก็ทำตาม คือเดินเปลือยกายและเท้าเปล่า Gade chapit laพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV2 ในครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ตรัสโดยอิสยาห์บุตรชายอามอสว่า “จงไปแก้ผ้ากระสอบออกจากบั้นเอวของเจ้า และเอารองเท้าออกจากเท้าของเจ้า” และท่านก็กระทำตาม เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย2 ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์บุตรอาโมศว่า “เจ้าจงถอดเสื้อผ้ากระสอบออกจากกาย และถอดรองเท้าออก” อิสยาห์ก็ปฏิบัติตาม เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า Gade chapit laพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย2 ในช่วงเวลานั้น พระยาห์เวห์ส่งข่าวสารโดยผ่านทางตัวอย่างของอิสยาห์ลูกชายของอามอส พระองค์พูดกับอิสยาห์ว่า “ไปถอดผ้ากระสอบนั้นออกจากตัวเจ้า และถอดรองเท้าสานด้วย” แล้วอิสยาห์ก็ทำตามนั้น เขาจึงเดินเท้าเปล่าไปมาสวมแต่กางเกงชั้นใน Gade chapit laพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)2 ในเวลานั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านอิสยาห์บุตรอามอสดังนี้ “เจ้าจงไปและปลดผ้ากระสอบจากเอว และถอดรองเท้าของเจ้าออก” ท่านก็ทำตามคือ เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า Gade chapit la |
“เรื่องราวอันน่าหนักใจเกี่ยวข้องกับประเทศบาบูโลนซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นทางนิมิตต์ จงปักธงเครื่องหมายรวมพลขึ้นที่ภูเขาอันเตียนโล่ง, จงตะโกนเรียก, จงโบกมือเรียกเขาให้เข้าไปทางประตูสำหรับผู้มีเกียรติ. เราได้บัญชาแก่ผู้ที่เลือกสรรของเรา, เออ, เราได้เรียกชายฉกรรจ์ของเราให้จัดการไปให้สมกับความพิโรธของเรา, ถึงแม้ว่าคนที่เย่อหยิ่งทะนงตัวเราก็เรียกด้วย. ฟังแน่ะ! เสียงกึกก้องบนภูเขาเหมือนเสียงมาจากคนมากมาย! ฟังแน่ะ! เสียงโห่ร้องของราชอาณาจักรและของประชาชาติที่มาชุมนุมกัน! พระยะโฮวาจอมพลโยธากำลังเรียกระดมพลสำหรับทำศึก. เขายกมาจากแดนไกล, จากประเทศสุดหล้าฟ้าเขียว, คือพระยะโฮวาและเครื่องยุทโธปกรณ์สำหรับจัดการไปให้สมกับความพิโรธของพระองค์, เพื่อจะทำลายแผ่นดินนั้นให้หมดสิ้น. จงพิลาปร้องไห้, เพราะว่าวันของพระยะโฮวาจวนจะถึงอยู่แล้ว, และจะมาเหมือนอย่างความพินาศอันมาจากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์. ดังนั้น, มือทั้งหลายจะอ่อนเปลี้ยไป, และใจของทุกคนจะอ่อนละลายไป. และต่างก็จะพิศวงงงงวย, ความปวดร้าวและความทุกข์จะมีแก่เขา, เขาจะปวดร้าวเหมือนสตรีคลอดบุตร: ต่างก็จะตกตลึงพรึงเพลิด, และหน้าตาของเขาก็จะแดงเป็นแสงไฟ. ดูเถิด, วันแห่งพระยะโฮวานั้นกำลังจะมาถึงอย่างดุเดือดด้วยความพิโรธและความกริ้วอย่างร้ายแรง, เพื่อจะทำให้แผ่นดินร้างเปล่า, และผลาญคนบาปที่อยู่ในนั้นให้สิ้นศูนย์ไป. ด้วยดวงดาราทั้งหลายในท้องฟ้า, และกลุ่มดาวทั้งหลายจะรุบรู่, พอดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาก็จะมืดไป, และดวงจันทร์ก็จะอับแสง. และเราจะลงโทษมนุษย์โลกเพราะความชั่วร้ายของเขา, และคนโหดร้ายเพราะความอสัตย์อธรรมของเขา; และเราจะปราบความเย่อหยิ่งของคนอหังการให้สิ้นไป, และจะปราบความโอหังของผู้ข่มขี่ให้ราบลง. และเราจะกระทำให้บุรุษเป็นของหายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์. เออ, ชายจะหายากเหมือนอย่างแร่ทองคำบริสุทธิ์แห่งโอพีร. เหตุฉะนั้น, เราจะกระทำให้ท้องฟ้าสั่นสะท้าน, และแผ่นดินโลกหวั่นไหวเคลื่อนจากที่ของมัน, ด้วยพระพิโรธแห่งพระยะโฮวาจอมพลโยธา, ในวันที่พระองค์ทรงกริ้วอย่างร้ายแรง. และเขาจะเป็นเหมือนเนื้อสมันที่ถูกล่า, และดุจฝูงแกะที่ไม่มีใครรวมฝูง; ต่างก็จะหนีไปหาพวกพ้องของตนทุกคน, และต่างก็จะหนีไปยังประเทศบ้านเมืองของตนเอง. เขาพบใครก็จะแทงให้ถึงตาย, และจับใครได้ก็จะเอาดาบฟันให้ล้มลง. และลูกเด็กเล็กแดงก็จะถูกฟาดให้ยับเยินต่อหน้าต่อตาเขา; และบ้านเรือนของเขาจะถูกปล้น, และภรรยาของเขาก็จะถูกข่มขืนน้ำใจ นี่แน่ะ, เราจะเร้าพวกมาดายให้มารบกับเขา, พวกเหล่านั้นจะไม่เห็นแก่เงิน, และแม้ว่าถึงทองเขาก็ไม่พึงใจปรารถนา. และคันธนูของเขาจะฟาดยุวชนให้ย่อยยับไป; และเขาจะไม่เมตตาต่อทารกที่ผ่านมาจากครรภ์, และหน่วยตาของเขาจะไม่ปราณีแก่พวกเด็กเล็กแดงเลย. และกรุงบาบูโลนซึ่งเป็นสง่าของราชอาณาจักรทั้งหลาย, เป็นเมืองงามซึ่งชาวเคเซ็ธอวดอ้างนั้น, จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดมและเมืองอะโมราที่พระเจ้าได้ทรงคว่ำทะลายเสียนั้น. และเมืองนั้นจะไม่มีใครมาอยู่ต่อไปอีกเลย, และจะไม่มีใครมาตั้งบ้านเรือนอาศัยต่อไปทุกชั่วอายุ, ถึงพวกอาหรับก็จะไม่ตั้งกะโจมอาศัยอยู่ที่นั่น; หรือผู้เลี้ยงแกะจะไม่นำฝูงแกะไปพักนอนอยู่ที่นั่นเลย. แต่สัตว์ป่าประจำทะเลทรายจะอาศัยนอนอยู่ที่นั่น; และตามบ้านเรือนของเขาจะมีสัตว์ที่เห่าหอนอาศัยอยู่ทั่วไป, และนกกระจอกเทศจะอาศัยอยู่ตามนั้น, และแพะป่าจะกะโดดโลดเต้นอยู่ที่นั้น. และฝูงสุนัขป่าจะเห่าหอนอยู่ในปราสาทของเขา, และสัตว์เห่าหอนจะเห่าหอนอยู่ในวังอันแสนสุขของเขา: และเวลากำหนดสำหรับกรุงบาบูโลนนั้นใกล้จะถึงแล้ว, และวันเวลาอันนั้นจะไม่ถูกผัดเพี้ยนให้ยืดออกไปอีกเลย
นิมิตต์ซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นเกี่ยวกับยะฮูดาและยะรูซาเลมในรัชชกาลของกษัตริย์อุซียา, กษัตริย์โยธาม, กษัตริย์อาฮาศ, และกษัตริย์ฮิศคียาผู้ครองประเทศยะฮูดา พระยะโฮวาได้ตรัสแล้วว่า, “โอฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, โอ้แผ่นดินโลก, จงเงี่ยหูสดับเถิด; เราได้บำรุงเลี้ยงและได้ประคบประหงมบรรดาบุตรให้วัฒนาขึ้น, แต่บุตรเหล่านั้นได้ทรยศต่อเรา. โคผู้ยังรู้จักเจ้าของของมัน, และสัตว์ลายังรู้จักรางหญ้าของเจ้าของ: แต่พวกยิศราเอลนั้นหาได้รู้จักอย่างนั้นไม่, พลเมืองของเรานั้นมิได้ใช้ความคิดตรึกตรอง.” เออ, ประเทศที่เต็มไปด้วยบาป, พลเมืองที่เพียบไปด้วยอสัตย์อธรรม, เป็นว่านเครือของผู้กระทำชั่ว, เป็นลูกหลานที่ประกอบการคดโกง: เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, และได้หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์ของพวกยิศราเอล, เขาทั้งหลายได้เหินห่างและก้าวถอยหลังไป. ทำไมเจ้าทั้งหลายยังขืนทรยศต่อไป? แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยนตีมากขึ้น: ทั้งศีรษะก็เจ็บไปทั่ว, และทั้งใจก็ละเหี่ยม่อยไป. ตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปตลอดกะทั่งศีรษะไม่มีที่ปกติเลย; มีแต่บาดแผลและรอยฟกช้ำ, และรอยแผลเฆี่ยน: แผลเหล่านั้นมิได้ปิดไว้, หรือมิได้พันไว้, หรือมิได้ใส่น้ำมันให้เนื้อนิ่มเลย. ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า, นครของเจ้าก็ถูกเผาผลาญ: ส่วนดินแดนของเจ้านั้นคนต่างชาติก็กลืนกินเสียต่อหน้าเจ้า, และมันก็ร้างไป, เหมือนกับว่าคนต่างชาติ-ได้ทำลายมันเสีย. ส่วนลูกหญิงของกรุงซีโอนนั้นถูกละไว้เหมือนอย่างห้างสวนในสวนองุ่น, และเหมือนกับกะท่อมในไร่แตงกวา, และเหมือนกับเมืองที่ถูกล้อมไว้. ถ้าหากพระยะโฮวาจอมพลโยธามิไดละเว้นเราซึ่งเป็นหน่วยน้อยนั้นเสีย, เราก็จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดม, และเป็นเหมือนอย่างเมืองอะโมรา ดูกรท่านผู้ครองเมืองซะโดม, จงสดับฟังคำตรัสของพระยะโฮวา; ดูกรชนชาวอะโมรา, จงเอียงหูฟังพระบัญชาของพระเจ้าของพวกเราเถิด. พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “เครื่องบูชาเผามากมายก่ายกองของเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา? เราเบื่อเครื่องบูชาเผาแกะตัวผู้, และมันข้นแห่งสัตว์เลี้ยง; และมิได้ชื่นใจในโลหิตแห่งลูกโคผู้, หรือของลูกแกะ, หรือของแพะผู้. เมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเรานั้น, ใครได้ขอร้องให้เจ้าเหยียบเข้ามาในสำนักของเรา? อย่าได้นำเครื่องบูชาสัตว์อันขาดจิตต์เคารพมาอีกเลย; กลิ่นเครื่องบูชาจะเพิ่มความสะอิดสะเอียนแก่เรามากขึ้น; ในสมัยประชุมประจำเดือนแรกเดือนขึ้น, วันซะบาโตและสมัยประชุมประจำปี, เราไม่ชอบใจเลยแม้ถึงการที่ประชุมนมัสการอย่างพิเศษนั้น, ก็เป็นการอสัตย์อธรรม. วันถือเทศกาลแรกเดือนขึ้น, วันถือพิธีต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ของเจ้านั้นเราเกลียดชังนัก; ลัทธิเหล่านั้นเป็นภาระรุงรังแก่เรา, เราเบื่อหน่ายที่จะทนแบกต่อไปแล้ว. แลเมื่อเจ้าทั้งหลายชูมือกางขึ้น, เราจะเมินหน้าเสียจากพวกเจ้า: เออ, เมื่อเจ้าอธิษฐานมากมายหลายหน, เราจะไม่ฟัง: ด้วยมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต. ล้างเสียเถอะ, จงชำระตัวเสียให้สะอาดหมดจด; เจ้าจงเลิกทำการชั่วและกำจัดมันเสียให้พ้นจากสายตาของเรา; จงงดกระทำชั่วเสียทีเดียว; จงฝึกหัดกระทำการดี; จงแสวงหาที่จะให้ความยุตติธรรม, จงขัดขวางการกระทำของผู้ข่มเหง, จงให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้า, จงเป็นปากเสียงให้แก่หญิงม่าย.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “มาเถิด, ให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด: แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ; แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม, บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ. ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง, เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์: แต่ถ้าเจ้าไม่ยอม, และยังทรยศอยู่, เจ้าก็จะต้องเป็นเหยื่อแห่งคมดาบ:” เพราะพระโอษฐ์ของพระยะโฮวาได้ตรัสดังนั้น เมืองที่สัตย์ซื่อยังมากลายเป็นเมืองหญิงนอกใจไปได้! เมืองนั้นเคยเต็มด้วยความยุตติธรรม; ความชอบธรรมเคยได้ดำรงอยู่ในเมืองนั้น; แต่มาบัดนี้กลายเป็นเมืองของนักฆาตกรรม. เนื้อเงินก็กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว, เหล้าองุ่นของเจ้านั้นก็ถูกปนด้วยน้ำท่า: ผู้ครองเมืองของเจ้าแต่หาครองตัวของเขาเองได้ไม่, และกลับไปเป็นมิตรของพวกโจร: ต่างก็ชอบกินสินบน, และเสาะหาสินจ้างเขาไม่ให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้าและไม่นำพาต่อคดีของหญิงม่าย ดังนั้นพระยะโฮวาจอมพลโยธาทั้งหลาย, องค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของชาติยิศราเอลตรัสว่า, “อ้า, เราจะปลีกตัวออกจากศัตรูของเรา, และจะแก้แค้นปัจจามิตรของเรา. เราจะวางมือของเราลงบนเจ้า, และเราจะถลุงขี้แร่ออกจากเจ้าเสียให้บริสุทธิ์, และกำจัดการเจือปนของเจ้าออกเสียให้หมดสิ้นไป; เราจะกลับตั้งผู้พิพากษาของเจ้าให้คงตำแหน่งเดิมและตั้งคณะที่ปรึกษาของเจ้าไว้เหมือนแต่แรกแต่นั้นไปเจ้าจะถูกขนานนามว่าเป็นนครแห่งความชอบธรรม, และสัตย์ซื่อ. กรุงซีโอนจะถูกไถ่ออกมาด้วยความยุตติธรรม, และพลเมืองที่กลับใจนั้นจะรอดพ้นด้วยความชอบธรรม. ผู้ล่วงบัญญัติและคนบาปจะพินาศไปด้วยกับและเขาทั้งหลายที่ละทิ้งพระยะโฮวานั้นจะมอดม้วยไป. แล้วเขาจะอับอายขายหน้าเพราะต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาเคยพึ่งใจมาแต่ก่อน, และเจ้าจะขวยเขินต่อหมู่ไม้ที่เจ้าเลือกไว้เคารพบูชา. เพราะเจ้าจะเป็นดุจต้นโอ๊คที่เหี่ยวแห้ง, และดุจหมู่ไม้ที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง. และผู้ที่เข้มแข็งก็จะเป็นเหมือนอย่างขุยป่านและรูปเคารพที่เขาทำขึ้นก็จะเปรียบเหมือนประกายไฟ, และทั้งสองอย่างก็จะเผาผลาญไปด้วยกัน, และไม่มีใครจะดับเสียได้