อาฤธโม 12 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แลมิระยามกับอาโรนได้พูดติโมเซ, เพราะหญิงชาวเมืองคูศภรรยาของโมเซ, ด้วยว่าโมเซมีภรรยาเป็นหญิงชาวเมืองคูธนั้น. 2 เขาได้ว่าพระยะโฮวาได้ตรัสจำเพาะโดยโมเซคนเดียวหรือ? พระองค์ไม่ได้ตรัสโดยเราด้วยหรือ? แลพระยะโฮวาได้ทรงฟัง. 3 โมเซนั้นเป็นคนถ่อมจิตต์ใจอ่อนยิ่งมากกว่าคนทั้งปวงที่อยู่บนแผ่นดิน. 4 แลในทันใดนั้นพระยะโฮวาทรงตรัสแก่โมเซแลอาโรนแลมิระยามว่า, “เจ้าทั้งสามคนออกมาสู่ที่พลับพลาชุมนุมเถิด.” เขาทั้งสามก็ออกมา. 5 แลพระยะโฮวาก็เสด็จมาในเสาเมฆ, สถิตย์ที่ประตูพลับพลาชุมนุม, ทรงเรียกอาโรนแลมิระยาม, แลเขาทั้งสองก็เลื่อนเข้ามา. 6 พระองค์ตรัสว่า “บัดนี้เจ้าจงฟังถ้อยคำของเรา, ถ้าจะมีผู้ทำนายท่ามกลางเจ้าทั้งหลายแล้ว, เรา เป็นยะโฮวาจะสำแดงแก่คนนั้น, แลเราจะตรัสสนทนาด้วยเขาในความสุบินนิมิตต์. 7 แต่โมเซทาสของเราเป็นลามิภักดิ์ในบรรดาการงานของเราก็ไม่เป็นดังนั้น. 8 เราจะสนทนากับเขาปากต่อปากเป็นปรากฏ, แลจะไม่พูดคำลับลึกแลเขาจะเห็นพระพักตรพระยะโฮวา, เหตุไฉนเจ้าจึงไม่ได้กลัวที่จะพูดติโมเซผู้ทาสของเรา.” 9 แลพระยะโฮวาทรงพิโรธต่อเขาเป็นอันมาก, แล้วพระองค์ก็เสด็จไป. 10 เมฆนั้นก็ลอยขึ้นไปจากพลับพลา, แลนี่แหละมิระยามเป็นโรคเรื้อนขาวดุจหิมะ, อาโรนก็แลดูมิระยามเห็นเป็นโรคเรื้อน. 11 แลอาโรนพูดกับโมเซว่า, โอ้นายข้าพเจ้าขอท่านอย่าวางการผิดนี้ลงเหนือข้าพเจ้าทั้งสองซึ่งเราได้กระทำโง่แลกระทำผิดนั้น. 12 ขออย่าให้มิระยามเป็นประดุจคนตาย, ดุจคนที่คลอดมาจากครรภ์มารดามีเนื้อเหี่ยวแห้งไป. 13 แลโมเซได้ร้องขอพระยะโฮวาว่า, ข้าพเจ้าอ้อนวอนพระองค์ว่าพระเจ้าขอโปรดรักษาเขาให้หาย. 14 แลพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “ถ้าบิดาของเขา, ได้ถ่มน้ำลายถูกหน้าเขา, เขาจะมีความละอายอยู่เจ็ดวันมิใช่หรือ, ให้เขาอยู่นอกค่ายสิ้นเจ็ดวัน ภายหลังจึงให้เขากลับเข้ามาได้.” 15 แลมิระยามต้องอยู่นอกค่ายอาศัยเจ็ดวัน, พลโยธานั้นมิได้ยกเดินไปกว่ามิระยามได้กลับเข้ามาอีก. 16 แล้วพลโยธาทั้งหลายได้ยกเดินออกไปจากที่ตำบลฮะเซโรธมาตั้งทัพลงที่ป่าฟาราน. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society