อิสยาห์ 47 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 “โอ้บุตรีแห่งบาบิโลนเอ๋ย, จงลงมานั่งในกองฝุ่น; โอ้บุตรีแห่งเคเซ็ศเอ๋ย, จงนั่งลงบนพื้นดินปราศจากบัลลังก์เถอะ! เพราะเขาจะไม่เรียกเจ้าว่าเป็นคนงามละมุนละม่อมและสำรวยอีกต่อไป. 2 จงถอดเอาผ้าโปรงคลุมหน้าออกเสีย, มาจับหินโม่และโม่แป้งเถิด; จงเปลื้องกะโปรงออกเสีย, ปล่อยให้แลเห็นขา, ลุยแม่น้ำข้ามไป. 3 เขาจะเห็นกายของเจ้าเปิดเผย, เอย, เจ้าก็จะได้รับความอดสู! เราจะกระทำการแก้แค้น, และไม่ไว้หน้าผู้ใด.” 4 พระผู้ไถ่ของเรา, ทรงพระนามว่าพระยะโฮวาจอมพลโยธา, องค์บริสุทธิ์ของชนชาติยิศราเอล, ตรัสไว้ดังนั้น 5 “โอ้บุตรีแห่งเคเซ็ศ, จงหลบเข้าไปในที่มืด, และนิ่งเงียบๆ เสียเถอะ! เพราะเขาจะไม่เรียกเจ้าว่าเป็นนางพญาอาณาจักรอีกต่อไปแล้ว. 6 เราแค้นเคืองพลเมืองของเรา, เราสู้ยอมให้มฤดกของเราเป็นมลทินไป, โดยมอบเขาไว้ให้อยู่ในเงื้อมมือของเจ้า; แต่เจ้าไม่เวทนาสงสารเขาเลย; เจ้าทำแอกของเจ้าให้ตึงบีบคนชราแน่นนัก. 7 และเจ้าว่า, ‘เราจะดำรงอยู่เป็นนิจ, เป็นนางพญาอยู่ชั่วกัล์ปชั่วกัลป์:’ แต่เจ้าไม่จำเรื่องนี้ใส่ใจไว้, หรือไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนปลาย 8 “นี่แน่ะจงฟัง, เจ้าคนรักความสนุกสนาน, นั่งวางอารมณ์, และนึกในใจว่า, ‘ข้าฯนี่เขื่อง, ไม่มีใครแล้วนอกจากข้าฯ: ข้าฯไม่ต้องนั่งเหงาอย่างหญิงม่าย, หรือข้าฯไม่ต้องจากลูก! 9 แต่สองสิ่งนี้จะบังเกิดแก่เจ้าในพริบตาเดียว, ในวันเดียว; การจากลูกและการเป็นแม่ม่ายจะบังเกิดขึ้นแก่เจ้าอย่างถึงขนาด, ถึงแม้ว่าเจ้าจะบ้องกันไว้ด้วยคาถาอาคมและเวทมนต์อย่างมากมายแล้วก็ตาม. 10 ถึงแม้ว่าเจ้าได้วางใจพึ่งในความชำนิชำนาญของเจ้า, และเคยพูดว่า, “ไม่มีใครเห็นข้าฯ.’ สติปัญญาและความชำนิชำนาญของเจ้านั้นได้จูงเจ้าให้หลงไป, จนถึงกับเจ้าได้พูดแก่ตัวเองว่า, ‘ข้าฯนี่เขื่อง, ไม่มีใครแล้วนอกจากข้าฯ.’ 11 เพราะฉะนั้นเหตุร้ายจะทับถมลงบนเจ้า, ซึ่งเจ้าไม่รู้จักที่จะร่ายมนต์ให้มันผ่านพ้นไปอย่างไร: และความหายนะจะตกลงมาบนเจ้า, ซึ่งเจ้าไม่รู้วิธีจะบวงสรวงอย่างไร. ความพินาศจะโฉบเฉี่ยวเจ้า, ซึ่งเจ้าไม่รู้ว่าจะหลบอย่างไร. 12 เอ้า, เจ้าจงพึ่งเวทมนต์ของเจ้า, และคาถาอาคมของเจ้า, ซึ่งเจ้าตรากตรำปฏิบัติมาตั้งแต่สาว; บางทีเจ้าจะได้สมปรารถนา, บางทีเจ้าจะทำให้มนตื่นตกใจหนีไปกระมัง! 13 “เจ้าได้ตรากตรำปฏิบัติพวกหมอเวทมนต์มากมายเหล่านี้แล้ว: บัดนี้จงขอให้พวกเหล่านี้ลุกขึ้นมาช่วยพวกเจ้าซิ, คือพวกหมอดูดวงชะตาราศี, พวกโหรดูดาว, และให้เขาทำนายบอกเจ้าเป็นเดือนๆ ไป, ว่าจะมีโชกชะตาอะไรเกิดขึ้นแก่เจ้าบ้าง. 14 นี่แน่ะ, เขาเหล่านั้นกลายเป็นตอซังข้าวที่ถูกไฟไหม้เสียแล้ว, เขาจะช่วยตัวของเขาเองให้พ้นจากอำนาจของเปลวไฟนั้นก็ไม่ได้, เพราะนี่มันไม่ใช่ถ่านติดไฟไว้อบอุ่นตัว, หรือไม่ใช้ไฟไว้ผิงกาย, 15 นี่แหละคือผลกรรมของคนเหล่านั้นซึ่งตัวเจ้าได้ตรากตรำปรนนิบัติมา, ซึ่งตัวเจ้าได้เสียเงินบนบานให้เขามาตั้งแต่สาว, เขาทั้งหลายต่างเดินซวนเซไปตามทางของตน, และไม่มีผู้ใดช่วยเขาเหล่านั้นให้พ้นได้.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society