Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




อาฤธโม 19:11 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

11 “ผู้ใดแตะต้องซากศพจะเป็นมลทินตลอดเจ็ดวัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

11 “ใครที่แตะต้องศพของผู้ใดก็ตามต้องเป็นมลทินอยู่เจ็ดวัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

11 ผู้​ที่​แตะต้องศพของผู้ใดก็ตามต้องเป็นมลทินอยู่​เจ​็ดวัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

11 คน​ที่​ไป​แตะต้อง​ร่าง​คน​ตาย​มา ไม่ว่า​จะ​เป็น​ร่าง​ของ​ใคร​ก็​ตาม คนๆ​นั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ทาง​พิธีกรรม​ไป​เป็น​เวลา​เจ็ด​วัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

11 “แล​คน​ที่​ถูกต้อง​ศพ​คน​ตาย​จะ​เป็น​มลทิน​อยู่​เจ็ด​วัน.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

11 ผู้​ใด​แตะ​ต้อง​ซาก​ศพ​จะ​มี​มลทิน 7 วัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




อาฤธโม 19:11
22 Iomraidhean Croise  

ไปเถิด ไปเสีย จงออกจากที่นั่น! อย่าแตะต้องสิ่งมลทิน! จงออกมาจากที่นั่น และรักษาตัวให้บริสุทธิ์ พวกเจ้าผู้อัญเชิญภาชนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า


บัดนี้พวกเขาเดินคลำสะเปะสะปะไปตามถนน เหมือนคนตาบอด เนื้อตัวแปดเปื้อนเลือด จนไม่มีใครกล้าแตะต้องเสื้อผ้าของพวกเขา


“ ‘พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะฝังศพพวกเขาตลอดเจ็ดเดือนเพื่อชำระแผ่นดินให้สะอาด


หลังจากที่ชำระตัวแล้ว ให้คอยไปอีกเจ็ดวัน


สัตว์เหล่านี้เป็นมลทินสำหรับเจ้า ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น


องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงพูดกับปุโรหิตผู้เป็นบุตรทั้งหลายของอาโรนว่า ‘ปุโรหิตจะต้องไม่ทำตัวเป็นมลทินตามระเบียบพิธีเพราะการตายของญาติของเขา


เขาจะต้องไม่เข้าไปในสถานที่ซึ่งมีศพอยู่ เขาต้องไม่ทำให้ตัวเองเป็นมลทิน แม้แต่เพื่อบิดามารดาของเขา


“ ‘ถ้าลูกหลานคนใดของอาโรนที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังหรือมีสิ่งที่หลั่งออกจากร่างกาย ห้ามกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์จนกว่าจะรับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว เขาจะเป็นมลทินด้วยถ้าเขาแตะต้องสิ่งที่แปดเปื้อนจากศพหรือจากคนที่หลั่งน้ำอสุจิ


“ ‘ผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีเช่น ซากสัตว์ที่เป็นมลทิน ไม่ว่าสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง หรือซากของสัตว์ที่เลื้อยคลาน แม้ว่าเขาไม่รู้ตัว เขาก็มีมลทินและมีความผิดแล้ว


แล้วฮักกัยกล่าวว่า “หากผู้ใดเป็นมลทินเพราะไปแตะร่างผู้ตาย แล้วไปแตะสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นมลทินหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน”


“ผู้ใดที่อยู่กลางแจ้ง และไปแตะต้องซากศพคนที่ถูกฆ่าตายด้วยคมดาบหรือตายด้วยเหตุปกติวิสัย หรือไปแตะต้องกระดูกคนตายหรือหลุมฝังศพ เขาจะเป็นมลทินไปตลอดเจ็ดวัน


“พวกเจ้าทุกคนที่ฆ่าคนหรือแตะต้องซากศพ จงออกไปอยู่นอกค่ายพักเป็นเวลาเจ็ดวัน แล้วจงชำระตัวเองและเชลยของเจ้าในวันที่สามและวันที่เจ็ด


“จงสั่งประชากรอิสราเอลให้ส่งคนที่เป็นโรคผิวหนังผู้มีสิ่งที่หลั่งออกหรือผู้ที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีเพราะไปแตะต้องซากศพ ออกไปจากค่าย


ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเขาจะต้องไม่ย่างกรายเข้าใกล้ซากศพ


“จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อใครในพวกท่านหรือวงศ์วานของท่านเป็นมลทินเพราะศพ หรืออยู่ระหว่างการเดินทางก็ยังฉลองปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้


แต่มีบางคนไม่สามารถฉลองปัสกาในวันนั้นเพราะเป็นมลทินตามระเบียบพิธีในเรื่องศพ ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาโมเสสกับอาโรนในวันเดียวกันนั้น


วันรุ่งขึ้นเปาโลจึงพาสี่คนนั้นไปชำระตนร่วมกับเขา แล้วเขาเข้าไปในพระวิหารเพื่อประกาศวันครบกำหนดการชำระตนและจะถวายเครื่องบูชาสำหรับพวกเขาแต่ละคน


เมื่อใกล้ครบเจ็ดวันชาวยิวบางคนจากแคว้นเอเชียเห็นเปาโลที่พระวิหารก็ปลุกปั่นฝูงชนทั้งปวงแล้วจับเปาโล


ฉะนั้นเช่นเดียวกับที่บาปเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนเดียวและบาปนำความตายมา และโดยทางนี้เองความตายจึงมาถึงมวลมนุษย์เพราะทุกคนได้ทำบาป


“ดังนั้นจงออกมาจากพวกเขา และแยกตัวออก องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส อย่าแตะต้องสิ่งมลทิน แล้วเราจะรับเจ้า”


ส่วนท่านทั้งหลายได้ตายแล้วในการล่วงละเมิดและในบาปทั้งหลาย


แล้วยิ่งกว่านั้นสักเพียงใดพระโลหิตของพระคริสต์ผู้ถวายพระองค์เองอย่างปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยทางพระวิญญาณนิรันดร์ ย่อมชำระจิตสำนึกของเราจากการกระทำอันนำไปสู่ความตาย เพื่อเราจะได้รับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่!


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan