Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




อาฤธโม 10:9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

9 เมื่อเจ้าสู้รบกับศัตรูที่มาข่มเหงเจ้าในดินแดนของเจ้า จงเป่าแตรทั้งสอง แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงเจ้า และช่วยเจ้าให้พ้นจากเหล่าศัตรู

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

9 และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะไปทำสงครามกับศัตรูที่มาบีบบังคับพวกเจ้าในแผ่นดินของเจ้า ก็ให้เป่าแตรทำเสียงสัญญาณปลุก เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงพวกเจ้า และช่วยให้พ้นจากศัตรูของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

9 และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะไปทำศึกในแผ่นดินของเจ้าสู้​ศัตรู​ผู้​มาบ​ีบบังคับเจ้า ก็​ให้​เป่าแตรทำเสียงปลุก และเจ้าจะเป็​นที​่ระลึกต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะได้พ้นจากศั​ตรู​ของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

9 เมื่อ​เจ้า​ต้อง​ออก​ไป​ทำ​สงคราม​กับ​ศัตรู​ที่​มา​บุกรุก​แผ่นดิน​ของ​เจ้า เจ้า​ต้อง​เป่า​แตร​ทั้งสอง​ด้วย​เสียง​สั้น และ​ยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เจ้า​จะ​ได้ยิน​และ​จะ​ช่วย​ให้​เจ้า​ปลอดภัย​จาก​ศัตรู​ของ​เจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

9 ถ้า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ออกไป​ทำ​ศึก​ต่อ​ศัตรู​ที่มา​ย่ำ​ยี​เมือง​ของ​เจ้า, ก็​ให้​เป่า​แตร​ขึ้น​เป็น​สำ​เนียง​สะดุ้ง​นั้น, แล​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระ​เจ้าของ​เจ้า​จะ​ระลึก​ถึง​เจ้า​ทั้ง​หลาย, แล​จะ​ช่วย​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ให้​พ้น​จาก​อำนาจ​ศัตรู​นั้น.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

9 และ​หาก​เจ้า​ทำ​ศึก​สงคราม​กับ​ศัตรู​ที่​บีบ​บังคับ​เจ้า​บน​แผ่นดิน​ของ​เจ้า​เอง เจ้า​ก็​จง​เป่า​แตร​ยาว​ให้​สัญญาณ แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เจ้า​จะ​ระลึก​ถึง​พวก​เจ้า และ​เจ้า​จะ​ปลอดภัย​จาก​ศัตรู

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




อาฤธโม 10:9
34 Iomraidhean Croise  

แต่พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์และสัตว์ป่ากับสัตว์ใช้งานทุกชนิดที่อยู่กับเขาในเรือ พระองค์ทรงบันดาลให้กระแสลมพัดเหนือแผ่นดิน แล้วน้ำก็ลดลง


พระเจ้าทรงอยู่กับเรา ทรงเป็นผู้นำของเรา ปุโรหิตของพระองค์เป่าแตรศึกสู้กับท่าน ชาวอิสราเอลเอ๋ย อย่าสู้รบกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านเลย เพราะท่านไม่มีวันชนะหรอก”


ยูดาห์หันมาและเห็นว่าศัตรูขนาบทั้งหน้าและหลังก็ร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า ปุโรหิตจึงเป่าแตรขึ้น


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์ทรงสำแดง ความโปรดปรานแก่ประชากรของพระองค์ ขอเสด็จมาช่วยข้าพระองค์เมื่อพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอด


ข้าศึกกดขี่ข่มเหงพวกเขา พวกเขาตกอยู่ใต้อำนาจของคนเหล่านั้น


จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงระลึกถึงเราซึ่งอยู่ในฐานะอันต่ำต้อย ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์


ชาวโลกทั้งมวลเอ๋ย ทุกชีวิตในโลกเอ๋ย เมื่อธงรบผืนหนึ่งถูกชูขึ้นเหนือภูเขาทั้งหลาย ท่านจะได้เห็น และเมื่อเสียงแตรดังขึ้น ท่านจะได้ยิน


“จงตะโกนดังๆ ไม่ต้องออมเสียงไว้ จงเปล่งเสียงให้ดังเหมือนเสียงแตรเขาสัตว์ จงแจ้งประชากรของเราถึงการทรยศของพวกเขา และแจ้งวงศ์วานของยาโคบถึงบาปทั้งหลายของเขา


โอย ทุกข์เหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน! ข้าพเจ้าทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด โอย หัวใจของข้าพเจ้าร้าวราน! หัวใจของข้าพเจ้าสะทกสะท้านอยู่ภายใน ข้าพเจ้าไม่อาจสงบนิ่ง เพราะข้าพเจ้าได้ยินเสียงแตร ได้ยินเสียงโห่ร้องคะนองศึก


ข้าพเจ้าจะต้องทนดูธงรบ และฟังเสียงแตรไปนานสักเท่าใดหนอ?


“จงป่าวประกาศในยูดาห์และป่าวร้องในเยรูซาเล็มว่า ‘จงเป่าแตรทั่วแผ่นดิน!’ จงป่าวร้องเสียงดังว่า ‘มารวมตัวกัน! ให้เราหนีไปยังเมืองป้อมปราการต่างๆ โดยเร็ว!’


แต่วันเวลานั้นจะมาถึง” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เมื่อเราจะโห่ร้องออกศึก สู้กับรับบาห์ของชาวอัมโมน มันจะกลายเป็นซากปรักหักพัง และหมู่บ้านต่างๆ โดยรอบจะถูกเผา แล้วอิสราเอลจะขับไล่ ชนชาติที่ได้ขับไล่ตนออกมา” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น


“วิ่งหนีเอาชีวิตรอดเถิด ชาวเบนยามินเอ๋ย! จงหนีจากเยรูซาเล็ม! จงเป่าแตรในเทโคอา! ส่งสัญญาณขึ้นเหนือเบธฮัคเคเรม! เพราะภัยพิบัติโผล่ขึ้นมาจากทางเหนือ เป็นหายนะร้ายแรง


เราตั้งยามไว้เหนือเจ้าและกล่าวว่า ‘ฟังเสียงแตรเถิด!’ แต่เจ้าพูดว่า ‘เราจะไม่ฟัง’


“ ‘แม้พวกเขาเป่าแตร และเตรียมทุกสิ่งไว้พร้อมสรรพ แต่ก็จะไม่มีใครออกรบเลย เพราะโทสะของเราตกอยู่แก่กลุ่มชนทั้งหมด


“จงเป่าแตรในกิเบอาห์ จงเป่าเขาสัตว์ในรามาห์ จงโห่ร้องเหมือนออกศึกในเบธอาเวน เบนยามินเอ๋ย จงนำหน้าไป


“จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘ให้ถือวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ดเป็นวันหยุดพัก มีการฉลองด้วยเสียงแตรกระหึ่ม เป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์


เมื่อเสียงแตรดังขึ้นในเมือง ผู้คนจะไม่ตกใจหรือ? เมื่อเกิดภัยพิบัติในเมืองใด องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเป็นผู้บันดาลหรือ?


วันแห่งเสียงแตรและเสียงโห่ร้องออกศึก สู้รบกับเมืองป้อมปราการ และกับหอคอยทุกมุมเมือง


โมเสสส่งคนที่ได้มาเผ่าละหนึ่งพันคนนั้นไปรบโดยมีฟีเนหัสบุตรของปุโรหิตเอเลอาซาร์นำทัพไป พร้อมด้วยเครื่องใช้จากสถานนมัสการและแตรสัญญาณ


และถ้าแตรศึกเป่าเรียกไม่ชัดเจนใครจะเตรียมพร้อมออกรบ?


เมื่อท่านออกรบและเห็นศัตรูมีม้า รถม้าศึก และกองทัพยิ่งใหญ่เหนือกว่าท่าน อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้นำท่านออกมาจากอียิปต์นั้นจะสถิตกับท่าน


และเมื่อเจ้าได้ยินเสียงแตรดังยาว จงให้ประชากรทั้งปวงโห่ร้องเสียงดัง แล้วกำแพงเมืองก็จะโค่นทลาย จากนั้นให้ประชาชนบุกเข้าเมืองทุกทิศทาง”


ไซดอน อามาเลข และมาโอน กดขี่ข่มเหงเจ้าและเจ้าขอให้เราช่วย เราไม่ได้ช่วยเจ้าจากเงื้อมมือของพวกเขาหรือ?


ผู้ซึ่งเข้ามาบดขยี้พวกเขาในปีนั้น ตลอดสิบแปดปีคนเหล่านั้นมากดขี่ข่มเหงอิสราเอลทั้งปวงทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนในกิเลอาดซึ่งเป็นดินแดนของชาวอาโมไรต์


เมื่อใดก็ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งผู้วินิจฉัยขึ้นมาเพื่อพวกเขา พระองค์ก็สถิตกับผู้วินิจฉัย และช่วยเหล่าประชากรให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรูตลอดชีวิตของผู้วินิจฉัยคนนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาสงสารเหล่าประชากร เมื่อเขาคร่ำครวญเพราะคนที่มากดขี่ข่มเหงและทำให้พวกเขาทุกข์ยาก


เมื่อมาถึงที่นั่น เอฮูดก็เป่าแตรเขาสัตว์ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ชนอิสราเอลก็ลงมาจากภูเขาต่างๆ โดยมีเอฮูดนำหน้า


แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าลงมาเหนือกิเดโอน เขาก็เป่าแตรเรียกคนตระกูลอาบีเอเซอร์ให้ติดตามเขา


เรากอบกู้เจ้าจากอำนาจของอียิปต์ จากเงื้อมมือของบรรดาผู้ที่กดขี่ข่มเหงเจ้า เราขับไล่ศัตรูออกไปต่อหน้าเจ้า ยกดินแดนของเขาให้เจ้า


และกล่าวกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราได้นำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ และกอบกู้พวกเจ้าจากอำนาจของอียิปต์และอาณาจักรทั้งปวงที่กดขี่ข่มเหงเจ้า’


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan