Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เพลงคร่ำครวญ 1:1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

1 โอ กรุงที่เคยมีพลเมืองหนาแน่น กลับอ้างว้างเสียแล้ว! กรุงที่เคยยิ่งใหญ่ในหมู่ประชาชาติ กลับเป็นเหมือนหญิงม่ายเสียแล้ว! กรุงซึ่งเคยเป็นราชินีในหมู่แว่นแคว้นต่างๆ กลับตกเป็นทาสเสียแล้ว

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

1 อนิจจา นครที่เคยคับคั่งด้วยพลเมือง มานั่งอ้างว้างแล้วหนอ เธอผู้เคยยิ่งใหญ่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ มากลายเป็นดั่งหญิงม่ายแล้วหนอ เธอผู้เป็นดั่งเจ้าหญิงท่ามกลางมณฑลทั้งหลาย มากลายเป็นทาสแรงงานแล้วหนอ ב (เบท)

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

1 กรุ​งที่คับคั่​งด​้วยพลเมืองมาอ้างว้างอยู่​ได้​หนอ กรุ​งที่รุ่งเรืองอยู่ท่ามกลางประชาชาติมากลายเป็นดั่งหญิ​งม​่ายหนอ กรุ​งที่เป็นดั่งเจ้าหญิงท่ามกลางเมืองทั้งหลายก็​กล​ับเป็นเมืองขึ้นเขาไป

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

1 แย่แล้ว แย่แล้ว เยรูซาเล็ม ครั้งหนึ่ง​เคย​เป็น​เมือง​ที่​เต็ม​ไปด้วย​ผู้คน แต่​ตอนนี้​ถูก​ทอดทิ้ง​ให้​เดียวดาย ครั้งหนึ่ง​เธอ​เคย​เป็น​เมือง​ที่​ยิ่งใหญ่​ท่ามกลาง​ชนชาติ​ต่างๆ แต่​ตอนนี้ เธอ​เป็น​เหมือน​แม่ม่าย เธอ​เคย​เป็น​เจ้าหญิง​ที่​สูงศักดิ์​ท่ามกลาง​จังหวัด​ทั้งหลาย แต่​ตอนนี้ เธอ​กลับ​กลาย​เป็นทาส

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

1 กรุง​ที่​แต่ก่อน​คับคั่ง​ด้วย​พล​เมือง, บัดนี้​มา​อ้างว้าง​อยู่​ได้​อย่างไร​หนอ? กรุง​ที่​แต่ก่อน​รุ่งเรือง​ใน​ท่ามกลาง​เมือง​ทั้งปวง​นั้น, ครั้น​มา​บัดนี้​กลาย​เป็น​ดุจดัง​หญิง​ม่าย​อย่างไร​กัน​หนอ? กรุง​ที่​เคย​เป็น​ดัง​เจ้าหญิง​ใน​ท่ามกลาง​อาณานิคม​ทั้ง​หลาย​นั้น, มี​อย่างไร​จึง​กลับ​มา​เป็น​เมือง​ต้อง​ส่ง​ส่วย​เช่นนี้​หนอ?

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

1 เมือง​ซึ่ง​เคย​มี​ประชาชน​อาศัย​อยู่ กลับ​อยู่​อย่าง​โดด​เดี่ยว​อะไร​เช่น​นี้ นาง​ซึ่ง​เคย​ยิ่ง​ใหญ่​ใน​บรรดา​ประชา​ชาติ กลับ​เป็น​เหมือน​แม่​ม่าย นาง​ซึ่ง​เคย​เป็น​เจ้า​หญิง​ใน​ท่าม​กลาง​แคว้น​ทั้ง​หลาย กลับ​กลาย​เป็น​ทาส​เสีย​แล้ว

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เพลงคร่ำครวญ 1:1
38 Iomraidhean Croise  

และโซโลมอนทรงครอบครองดินแดนทั้งหมดจากแม่น้ำยูเฟรติสจนถึงดินแดนของชาวฟีลิสเตียจดพรมแดนของอียิปต์ ดินแดนเหล่านี้ต่างนำเครื่องบรรณาการมาถวายและอยู่ใต้อำนาจของโซโลมอนตลอดพระชนม์ชีพ


ฟาโรห์เนโคจับพระองค์ล่ามโซ่ไว้ที่ริบลาห์ในฮามัท เพื่อไม่ให้ทรงครองราชย์ที่กรุงเยรูซาเล็ม และบังคับยูดาห์ให้ส่งบรรณาการเป็นเงินหนักประมาณ 3.4 ตัน และทองหนักประมาณ 34 กิโลกรัม


เยโฮยาคิมทรงเก็บภาษีแผ่นดินจากประชากรเพื่อให้ได้เงินและทองเต็มจำนวนตามที่ฟาโรห์เนโคเรียกร้องมา


ทรงปกครองบรรดากษัตริย์และราชอาณาจักรต่างๆ ตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรติส จนจดดินแดนฟีลิสเตียและไกลถึงพรมแดนอียิปต์


ในเยรูซาเล็มยังเคยมีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งปกครองดินแดนทั้งหมดเหนือแม่น้ำยูเฟรติส และเรียกเก็บภาษี เครื่องบรรณาการ และค่าธรรมเนียมมากมาย


ในขณะที่บางคนกล่าวว่า “เราต้องกู้ยืมเงินเพื่อเสียภาษีที่นาและสวนองุ่นให้กษัตริย์


เนื่องจากบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผลผลิตอันมั่งคั่งจึงตกเป็นของบรรดากษัตริย์ซึ่งพระองค์ทรงให้ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย เขาเหล่านั้นใช้อำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์ทั้งหลายตามใจชอบ ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์ยากแสนสาหัส


เป็นที่ซึ่งชนเผ่าต่างๆ ขึ้นมา คือคนเผ่าต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อสรรเสริญพระนามของพระยาห์เวห์ ตามกฎเกณฑ์ที่ทรงวางไว้ให้อิสราเอล


โอ ดาวประจำรุ่ง โอรสแห่งรุ่งอรุณ! เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วสิหนา ครั้งหนึ่งเจ้าเคยปราบประชาชาติต่างๆ ให้ตกต่ำ แต่บัดนี้เจ้าถูกเหวี่ยงทิ้งลงมายังโลกเสียแล้ว!


โอ เมืองอันเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม นครแห่งการจลาจลและความสำมะเลเทเมา ผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าด้วยคมดาบ ทั้งไม่ได้ตายในสงคราม


ประตูต่างๆ ของศิโยนจะร่ำไห้คร่ำครวญ นางจะสิ้นเนื้อประดาตัวนั่งอยู่ที่พื้น


แล้วเจ้าจะรำพึงว่า ‘ใครหนอได้ให้กำเนิดคนทั้งหมดนี้แก่เรา? เราถูกพลัดพรากและเป็นหมัน ตกเป็นเชลยและถูกทอดทิ้ง ใครหนอเลี้ยงดูคนเหล่านี้ขึ้นมา? เราถูกทิ้งไว้เดียวดาย แล้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน?’ ”


พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเปิดหูของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้ขัดขืน หรือถอยหนี


จงสะบัดฝุ่นธุลีทิ้งไป จงลุกขึ้น นั่งบนบัลลังก์เถิด เยรูซาเล็มเอ๋ย จงปลดโซ่ตรวนที่ล่ามคอของเจ้าเถิด ธิดาแห่งศิโยนผู้ตกเป็นเชลย


เท้าของผู้นำข่าวดีมาบนภูเขา ช่างงดงามยิ่งนัก ผู้ประกาศสันติภาพ ผู้แจ้งข่าวดี ผู้ประกาศความรอด ผู้กล่าวกับศิโยนว่า “พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง!”


“อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องทนอับอาย อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องขายหน้า เจ้าจะลืมความอัปยศในวัยสาว และไม่จดจำคำถากถางเรื่องความเป็นม่ายของเจ้าอีก


องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงร้องเพลงรื่นเริงยินดีให้ยาโคบ จงโห่ร้องให้กับผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่ประชาชาติ จงร้องเพลงสรรเสริญให้ได้ยินทั่วกันว่า ‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล ประชากรของพระองค์’


เกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟานกล่าวสาบานกับคนเหล่านั้นว่า “อย่ากลัวที่จะปรนนิบัติรับใช้ชาวบาบิโลนเลย จงตั้งรกรากในแผ่นดินและรับใช้กษัตริย์บาบิโลน แล้วท่านจะอยู่เย็นเป็นสุข


และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว


“พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เจ้าได้เห็นภัยพิบัติใหญ่หลวงซึ่งเราได้นำมายังเยรูซาเล็มและหัวเมืองทั้งปวงของยูดาห์แล้ว ทุกวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาพถูกทิ้งร้างและปรักหักพัง


ฉะนั้นเราจึงเทโทสะเกรี้ยวกราดของเราให้มันโหมกระหน่ำลงมาเหนือหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และถนนหนทางในเยรูซาเล็ม และทำให้เมืองเหล่านี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ถูกทิ้งร้างเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”


ค้อนซึ่งทุบโลกทั้งโลก ก็แหลกลาญป่นปี้ บาบิโลนถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง ในหมู่ประชาชาติ!


“เราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นถิ่นที่อยู่ของหมาใน และเราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่รกร้าง เพื่อจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น”


“ข้าพเจ้าร้องเรียกบรรดาพันธมิตรของข้าพเจ้า แต่พวกเขาก็ทรยศหักหลังข้าพเจ้า บรรดาปุโรหิตและผู้อาวุโสทั้งหลายของข้าพเจ้า พินาศย่อยยับในกรุง ขณะพวกเขาค้นหาอาหาร เพื่อประทังชีวิต


โอ เมฆแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า ปกคลุมเหนือธิดาแห่งศิโยน! พระองค์ทรงเหวี่ยงความโอ่อ่าตระการของอิสราเอล จากฟ้าลงดิน ในวันแห่งพระพิโรธ พระองค์ไม่ได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์


เหล่าผู้อาวุโสของเยรูซาเล็ม นั่งซึมอยู่ที่พื้นท่ามกลางความเงียบสงัด โปรยฝุ่นธุลีบนศีรษะ และนุ่งห่มผ้ากระสอบ บรรดาหญิงสาวแห่งเยรูซาเล็ม ซบหน้าลงกับพื้นด้วยความอับอาย


ทองคำหมดความสุกปลั่งเสียแล้วหนอ ทองบริสุทธิ์มัวหมองไปเสียแล้ว! อัญมณีศักดิ์สิทธิ์กระจัดกระจายเกลื่อนกลาด อยู่ทุกหัวถนน


มงกุฎร่วงหล่นไปจากศีรษะของข้าพระองค์ทั้งหลาย วิบัติแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป!


เมื่อนั้นบรรดาเจ้านายแห่งชายฝั่งทะเลจะก้าวลงจากบัลลังก์ของเขา เปลื้องเครื่องทรง ถอดชุดปักออก เอาความอกสั่นขวัญแขวนคลุมกาย นั่งลงที่พื้นสั่นสะท้านหวาดกลัวอยู่ทุกขณะเพราะเจ้า


“บุตรมนุษย์เอ๋ย เนื่องจากไทระกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘อะฮ้า! ประตูสู่ชนชาติต่างๆ ทลายลงแล้ว มันเปิดกว้างให้ข้า มันพังทลาย ส่วนข้าจะรุ่งเรือง’


“พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า นี่คือเยรูซาเล็มซึ่งเราตั้งไว้ใจกลางชนชาติต่างๆ มีนานาประเทศล้อมรอบ


เราจะทำให้นครต่างๆ ของเจ้าเริศร้าง และทำลายสถานนมัสการของเจ้า เราจะไม่นิยมยินดีในกลิ่นหอมที่น่าพอใจจากเครื่องบูชาของเจ้า


เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปท่ามกลางชนชาติต่างๆ เราจะชักดาบออกจากฝักรุกไล่เจ้า ดินแดนของเจ้าจะถูกทิ้งร้างและเมืองต่างๆ จะถูกทำลาย


นี่แหละนครเจ้าสำราญ ซึ่งอยู่มาอย่างปลอดภัย มันบอกตัวเองว่า “นี่แหละเรา ไม่มีใครนอกจากเรา” แล้วมันก็พินาศย่อยยับขนาดไหน เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่า! คนทั้งปวงที่ผ่านไปมาก็เย้ยหยัน และเขย่ากำปั้น


มันฟุ้งเฟ้อบำรุงบำเรอตัวเองเท่าใด จงให้ทุกข์โศกความทรมานแก่มันเท่านั้น มันลำพองใจว่า ‘ข้านั่งบัลลังก์เป็นราชินี ข้าไม่ใช่หญิงม่าย ข้าจะไม่มีวันทุกข์โศก’


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan