Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 9:3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

3 “พวกเขาโก่งลิ้นเหมือนคันศร เพื่อยิงคำโกหกออกมา ความเท็จจึงมีชัย เหนือความจริงในแผ่นดิน พวกเขาทำบาปอย่างหนึ่ง แล้วก็แล่นไปสู่บาปอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาไม่ยอมรับเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

3 “พวกเขางอลิ้นของเขาเหมือนคันธนูยิงความเท็จออกมา ไม่ใช่โดยสัจจะที่พวกเขาแข็งแรงขึ้นในแผ่นดิน เพราะพวกเขาออกจากความชั่วอย่างหนึ่งไปสู่ความชั่วอีกอย่างหนึ่ง และเขาไม่รู้จักเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

3 “เขาทั้งหลายงอลิ้นของเขาเหมือนคันธนูเพื่อกล่าวความเท็จ แต่​เขาทั้งหลายไม่​กล​้าสู้เพื่อความจริงในแผ่นดิน เพราะเขาทั้งหลายจากความชั่วอย่างนี้ไปสู่ความชั่วอย่างนั้น และเขาทั้งหลายไม่​รู้​จักเรา” พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

3 พวกเขา​โก่ง​ลิ้น​ของ​พวกเขา​เหมือน​คันธนู และ​พวกเขา​ประสบ​ความสำเร็จ​ใน​แผ่นดินนี้ ด้วย​การ​หลอกลวง ไม่ใช่​ด้วย​ความสัตย์ซื่อ เพราะ​พวกเขา​ทำชั่ว​ซ้ำแล้ว​ซ้ำอีก และ​พวกเขา​ก็​ไม่​รู้จัก​เรา​ด้วย” พระยาห์เวห์​พูด​ว่า​อย่างนั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

3 แล​เขา​ทั้งปวง​กระทำ​ให้​ลิ้น​ของ​ตัว​คดโกง​ดุจ​โก้​ง​ศร​สำหรับ​พูด​ปด, แล​เขา​ทั้งปวง​ไม่​กล้า​เพื่อ​ความ​สัตย์​ใน​แผ่น​ดิน​โลก, เพราะ​เขา​ทั้งปวง​ได้​ไป​แต่​ความ​ร้าย​ถึง​ความ​ร้าย​ต่อๆ กัน​ไป, แล​เขา​ทั้งปวง​ไม่​รู้จัก​เรา, พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

3 “พวก​เขา​งอ​ลิ้น​ได้​อย่าง​คัน​ธนู ความ​จอมปลอม​ซึ่ง​ไร้​ความ​จริง​เกิด​ขึ้น​ทั่ว​แผ่นดิน ด้วย​ว่า​พวก​เขา​ทำ​ความ​ชั่ว​เรื่อย​ไป และ​พวก​เขา​ไม่​รู้จัก​เรา” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ดัง​นั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 9:3
43 Iomraidhean Croise  

นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน


แผนการของคนชอบธรรมนั้นยุติธรรม ส่วนคำแนะนำของคนชั่วนั้นหลอกลวง


วัวยังรู้จักนาย ลารู้จักเจ้าของรางหญ้า แต่อิสราเอลไม่รู้จัก ประชากรของเราไม่เข้าใจ”


ประชาชนจะข่มเหงกันเอง คนจะต่อสู้กัน เพื่อนบ้านต่อสู้เพื่อนบ้าน เยาวชนจะลุกฮือขึ้นสู้ผู้อาวุโส คนถ่อยจะต่อสู้ผู้ทรงเกียรติ


ข้าพเจ้าจึงร้องว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า! ข้าพเจ้าพินาศแล้ว! เพราะข้าพเจ้าเป็นคนที่ริมฝีปากไม่สะอาด และใช้ชีวิตในหมู่ชนชาติที่มีริมฝีปากไม่สะอาด และตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์”


แน่ทีเดียวความชั่วลุกโพลงดั่งกองไฟ มันผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ทั้งปวง ทำให้ทั้งป่าลุกไหม้ ส่งควันโขมง


แม้แต่พี่น้องและคนในครอบครัวของเจ้า ก็ยังทรยศเจ้า พวกเขาร้องเสียงดังให้ร้ายเจ้า อย่าเชื่อใจเขา แม้เขาจะพูดดีกับเจ้า


เขาได้ตัดสินคดีของคนยากไร้และคนขัดสนอย่างยุติธรรม เขาจึงอยู่เย็นเป็นสุข การรู้จักเราหมายความอย่างนั้นไม่ใช่หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น


ผู้คนจะไม่สอนเพื่อนบ้าน หรือสอนพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า’ เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เพราะเราจะอภัยความชั่วร้ายของเขา และจะไม่จดจำบาปทั้งหลายของเขาอีกต่อไป”


“ประชากรของเราโง่เขลา พวกเขาไม่รู้จักเรา พวกเขาเป็นเด็กเหลวไหล ไม่มีความเข้าใจ พวกเขาช่ำชองในการทำชั่ว ทำดีไม่เป็นเลย”


ข้าพเจ้าคิดว่า “คนเหล่านี้เป็นเพียงคนยากไร้ พวกเขาเป็นคนโง่เขลา เพราะพวกเขาไม่รู้วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่รู้ข้อกำหนดของพระเจ้าของตน


ฉะนั้นข้าพเจ้าจะไปหาบรรดาผู้นำ และจะพูดกับพวกเขา คนเหล่านั้นย่อมรู้วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า รู้ข้อกำหนดของพระเจ้าของตนอย่างแน่นอน” แต่คนเหล่านั้นก็พร้อมใจกันหักแอก และทลายเครื่องพันธนาการต่างๆ ด้วยเหมือนกัน


พวกเขาล้วนเป็นนักกบฏดื้อด้าน เที่ยวนินทาว่าร้ายไปทั่ว พวกเขาเป็นเหมือนทองสัมฤทธิ์และเหล็ก ล้วนประพฤติตัวเสื่อมทราม


แต่พวกเขาไม่ยอมฟังเรา ไม่ยอมใส่ใจ พวกเขาเป็นคนหัวแข็ง ชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเสียอีก’


เพื่อนหลอกลวงเพื่อน และไม่มีใครพูดความจริง พวกเขาฝึกลิ้นตัวเองให้โกหก ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าด้วยการทำบาป


ลิ้นของพวกเขาเป็นลูกศรคร่าชีวิต พูดจาตลบตะแลง ทุกคนพูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านของเขา แต่ในใจคิดวางแผนเล่นงานเขา


แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า “เจ้าจะเห็นพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจยิ่งกว่านี้อีก”


กษัตริย์สององค์ซึ่งมีใจคิดชั่วทั้งคู่จะนั่งร่วมโต๊ะและมุสาต่อกัน แต่ไม่มีผลอะไร เพราะจุดจบยังคงจะมาถึงในเวลาที่กำหนดไว้


“ ‘อย่าลักขโมย “ ‘อย่าโกหก “ ‘อย่าหลอกลวงซึ่งกันและกัน


ในชั่วอายุที่บาปหนาและเอาใจออกห่างจากพระเจ้านี้ ถ้าผู้ใดอับอายในตัวเราและถ้อยคำของเรา บุตรมนุษย์ก็จะอับอายในตัวเขาเมื่อพระองค์เสด็จมาด้วยพระเกียรติสิริแห่งพระบิดาพร้อมกับเหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์”


นี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งพระองค์ทรงส่งมา


พวกยิวร่วมในการกล่าวหาด้วยยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง


ข้าพเจ้าไม่ได้ละอายในข่าวประเสริฐ เพราะข่าวประเสริฐคือฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด คนยิวก่อน แล้วคนต่างชาติด้วย


ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากเขาไม่เห็นคุณค่าของการรู้จักพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยเขาให้มีจิตใจเสื่อมทราม ให้ทำสิ่งที่ไม่สมควร


“ลำคอของพวกเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ พวกเขาตวัดลิ้นปลิ้นปล้อน” “พิษงูร้ายอยู่ที่ริมฝีปากของพวกเขา”


จงกลับมีสติสัมปชัญญะอย่างที่ควรเถิดและเลิกทำบาป เพราะมีบางคนไม่รู้จักพระเจ้าเลย ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ


และการที่ท่านไม่หวาดกลัวผู้ที่ต่อต้านท่านเลยนั้นก็จะเป็นเครื่องหมายให้พวกนั้นรู้ว่าพวกเขาจะถูกทำลาย แต่พระเจ้าจะทรงช่วยพวกท่านให้รอด


ขณะที่คนชั่วและคนหลอกลวงจะเสื่อมทรามลง ทั้งล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวง


เพื่อนที่รักทั้งหลาย แม้ข้าพเจ้ากระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเขียนถึงท่านเกี่ยวกับความรอดที่เรามีร่วมกัน ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องเขียนมาให้กำลังใจท่านให้ต่อสู้เพื่อความเชื่อซึ่งได้ทรงมอบหมายแก่ประชากรของพระเจ้าเพียงครั้งเดียวเป็นพอ


พวกเขาชนะพญามาร โดยพระโลหิตของพระเมษโปดก และโดยคำพยานของตน พวกเขาไม่กลัวตาย ไม่เสียดายชีวิต


นางร้องไห้เซ้าซี้กับแซมสันทุกวันตลอดงานเลี้ยงทั้งเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดแซมสันก็บอกคำตอบแก่นาง เพราะนางเอาแต่เซ้าซี้เขา นางจึงนำคำตอบไปบอกคนของนาง


หลังจากคนในชั่วอายุนั้นสิ้นชีวิตหมดแล้ว คนรุ่นต่อมาก็ไม่รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้าและไม่รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่ออิสราเอล


บุตรชายทั้งสองของเอลีเป็นคนชั่ว ไม่เคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan