Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 34:22 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

22 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่าเราจะออกคำสั่งและเราจะนำพวกเขากลับมากรุงนี้อีก พวกเขาจะมาต่อสู้ เอาชนะและเผาเมืองเสีย เราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครอาศัยอยู่”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

22 พระยาห์เวห์ตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะบัญชาและจะนำพวกเขากลับมายังกรุงนี้ เขาจะสู้รบกับกรุงนี้ ยึดเอาจนได้ และเผาเสียด้วยไฟ เราจะทำให้เมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่ร้างเปล่าไม่มีคนอาศัย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

22 พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ดู​เถิด เราจะบัญชาและจะกระทำให้เขากลับมายังกรุงนี้ และเขาจะสู้รบกับกรุงนี้ และยึดเอาจนได้ และเผาเสียด้วยไฟ เราจะกระทำให้หัวเมืองยูดาห์เป็​นที​่รกร้างปราศจากคนอาศัย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

22 พระยาห์เวห์​พูด​ว่า “เรา​กำลัง​จะ​ออก​คำสั่ง​ให้​นำ​กองทัพ​ของ​บาบิโลน​กลับ​มา​ที่​เยรูซาเล็ม พวกเขา​จะ​โจมตี​และ​ยึด​เยรูซาเล็ม และ​เอา​ไฟ​เผา​เมือง​เยรูซาเล็ม และ​เรา​จะ​ทำให้​เมือง​ต่างๆ​ของ​ยูดาห์ กลายเป็น​ที่​รกร้าง ที่​ไม่มี​ผู้คน​อาศัย​อยู่เลย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

22 พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ว่า, นี่​แน่ะ, เรา​จะ​สั่ง​และ​จะ​บันดาล​ให้​เขา​ทั้งปวง​กลับ​มา​ถึง​กรุง​นี้ (อีก), แล​เขา​จะ​รบ​ต่อ​เมือง​นี้​แล​จะ​เอา​ได้, แล​เขา​จะ​เผา​เมือง​นี้​เสีย​ด้วย​ไฟ, แล​เรา​จะ​กระทำ​ให้​บ้านเมือง​แห่ง​ยะฮูดา​นั้น​ร้าง​ปราศ​จาก​ชาวบ้าน​อยู่

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

22 พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ว่า ดู​เถิด เรา​จะ​บัญชา​และ​นำ​พวก​เขา​กลับ​มา​ยัง​เมือง​นี้ และ​พวก​เขา​จะ​โจมตี​และ​ยึด​เมือง แล้ว​ก็​จะ​ใช้​ไฟ​เผา​เมือง เรา​จะ​ทำ​ให้​เมือง​ต่างๆ ของ​ยูดาห์​เป็น​ที่​รกร้าง​ปราศจาก​ผู้​อยู่​อาศัย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 34:22
36 Iomraidhean Croise  

ดาวิดตรัสกับอาบีชัย และเหล่าข้าราชบริพารว่า “แม้แต่ลูกในไส้ของเราเองยังพยายามจะเอาชีวิตของเรา แล้วคนเบนยามินคนนี้จะไม่ยิ่งอยากเอาชีวิตของเราหรือ ปล่อยเขาไปเถิด ให้เขาแช่งด่าไป เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าคงใช้เขามา


และพระองค์ทรงถูกจับกุม พระองค์ทรงถูกคุมตัวมาเข้าเฝ้ากษัตริย์บาบิโลนที่ริบลาห์และรับการตัดสินโทษ


เขาจุดไฟเผาพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวัง และบ้านเรือนทุกหลังในเยรูซาเล็ม รวมทั้งอาคารสำคัญทุกแห่ง


พระเจ้าทรงนำกษัตริย์ของชาวบาบิโลนมาปราบเขา สังหารชายหนุ่มของเขาในสถานนมัสการ ไม่ไว้ชีวิตแม้กระทั่งเด็ก ผู้หญิงและคนแก่ พระเจ้าทรงมอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในมือเนบูคัดเนสซาร์


เราได้ออกคำสั่งแก่วิสุทธิชนของเรา เราเรียกชุมนุมเหล่านักรบผู้ปีติยินดีในชัยชนะของเรา ให้เป็นผู้ลบล้างโทสะของเรา


นครนั้นตกอยู่ในสภาพปรักหักพัง ประตูเมืองถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย


“เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือ? เราได้บัญชาไว้ตั้งนานมาแล้ว เราได้วางแผนไว้ตั้งแต่อดีต และบัดนี้เราก็ทำให้เป็นไปตามนั้น คือให้เจ้าพิชิตเมืองป้อมปราการทั้งหลาย ทำให้กลายเป็นกองหิน


ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า จะอีกนานเพียงไร?” พระองค์ตรัสตอบว่า “จนกระทั่งนครต่างๆ อยู่ในสภาพปรักหักพัง ไม่มีคนอยู่อาศัย จนกระทั่งบ้านเรือนถูกทิ้งร้าง ท้องทุ่งถูกเหยียบย่ำทำลาย


นครบริสุทธิ์ของพระองค์กลายเป็นทะเลทราย แม้แต่ศิโยนก็เป็นทะเลทราย เยรูซาเล็มเป็นที่ถูกทิ้งร้าง


เหล่าสิงโตคำราม ร้องขู่เขา ทำให้ดินแดนของเขาเริศร้าง หัวเมืองทั้งหมดของเขาถูกเผาและทิ้งร้าง


ชาวบาบิโลนซึ่งมาโจมตีจะเข้ามาจุดไฟเผากรุงและเผาผลาญบ้านเรือนที่ผู้คนเคยใช้ดาดฟ้าเป็นที่เผาเครื่องหอมถวายพระบาอัล และเป็นที่เทเครื่องดื่มบูชาสังเวยพระอื่นๆ อันเป็นการยั่วยุโทสะของเรา


“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เจ้ากล่าวถึงสถานที่แห่งนี้ว่า “เป็นแดนร้าง ไม่มีคนหรือสัตว์อาศัยอยู่” แต่ในหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์และตามถนนหนทางของเยรูซาเล็มซึ่งถูกทิ้งร้างและไม่มีทั้งคนหรือสัตว์อาศัยอยู่จะมีเสียงให้ได้ยินอีกครั้ง


“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปบอกกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ เรากำลังจะยกเมืองนี้ให้กษัตริย์บาบิโลน และเขาจะเผามันเสีย


“ส่วนมเหสีและโอรสธิดาทั้งปวงของฝ่าพระบาทจะถูกนำออกมาให้ชาวบาบิโลน ฝ่าพระบาทเองจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขา แต่จะถูกกษัตริย์บาบิโลนคุมตัวไว้และกรุงนี้จะถูกเผา”


ทัพบาบิโลนจุดไฟเผาพระราชวัง บ้านเรือนของประชาชน และทลายกำแพงเยรูซาเล็ม


ราชสีห์ตัวหนึ่งได้ออกมาจากถ้ำ ผู้ที่จะทำลายบรรดาประชาชาติได้ออกมาแล้ว เขาออกมาจากที่พักของตน เพื่อทำให้แผ่นดินของเจ้าถูกทิ้งร้าง เมืองต่างๆ ของเจ้าจะกลายเป็นซากปรักหักพัง ปราศจากผู้อยู่อาศัย


เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่อาจอดกลั้นพระทัยต่อการกระทำชั่วร้ายและสิ่งน่าชิงชังซึ่งท่านทำนั้นต่อไปได้ ดินแดนของท่านจึงตกเป็นเป้าของการสาปแช่ง เป็นดินแดนร้างไร้ผู้อยู่อาศัยดังเช่นทุกวันนี้


เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า บาบิโลนจะกลายเป็นถิ่นร้างไม่มีคนอยู่อาศัย ทุกคนที่ผ่านไปมาจะตะลึงและเย้ยหยัน เนื่องจากบาดแผลทั้งหมดของมัน


เขาจุดไฟเผาพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวัง และบ้านเรือนทุกหลังในเยรูซาเล็ม รวมทั้งอาคารทุกแห่ง


แล้วกำแพงเมืองก็ถูกพังลง ทั้งกองทัพก็หนีไปในเวลากลางคืน ผ่านประตูระหว่างกำแพงสองชั้นใกล้ราชอุทยาน แม้ว่าชาวบาบิโลนล้อมเมืองอยู่ พวกเขาหนีไปยังอาราบาห์


“เราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นถิ่นที่อยู่ของหมาใน และเราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่รกร้าง เพื่อจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น”


โอ กรุงที่เคยมีพลเมืองหนาแน่น กลับอ้างว้างเสียแล้ว! กรุงที่เคยยิ่งใหญ่ในหมู่ประชาชาติ กลับเป็นเหมือนหญิงม่ายเสียแล้ว! กรุงซึ่งเคยเป็นราชินีในหมู่แว่นแคว้นต่างๆ กลับตกเป็นทาสเสียแล้ว


ทั้งนี้เพราะคำโกหกของเจ้าบั่นทอนกำลังใจของผู้ชอบธรรมทั้งๆ ที่เราไม่ได้นำความเศร้าโศกมาให้เขา และเพราะเจ้าสนับสนุนคนชั่วให้คงอยู่ในทางอันชั่วร้ายของเขาเพื่อเป็นการรักษาชีวิตของพวกเขาไว้


เมื่อเสียงแตรดังขึ้นในเมือง ผู้คนจะไม่ตกใจหรือ? เมื่อเกิดภัยพิบัติในเมืองใด องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเป็นผู้บันดาลหรือ?


โลกจะเริศร้างเพราะชาวโลก นั่นเป็นผลจากการกระทำของเขา


แล้วทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์จะทรงยับยั้งพระเมตตาจากเยรูซาเล็มและหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ไปนานสักเท่าใด? ทรงพระพิโรธมาเจ็ดสิบปีแล้ว”


เราใช้พายุหมุนทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปเป็นคนแปลกถิ่นในหมู่ชนชาติต่างๆ ดินแดนของเขาจะถูกทิ้งร้างอยู่ข้างหลัง ไม่มีใครผ่านไปมา เขาทำให้ดินแดนอันน่าอภิรมย์กลับเริศร้างไปเช่นนี้’ ”


กษัตริย์จึงกริ้วนัก พระองค์ทรงส่งกองทัพมาประหารพวกฆาตกรและเผาเมืองของพวกเขา


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan