Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 14:9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

9 เหตุใดทรงเป็นดั่งคนที่งงงวย เหมือนนักรบที่หมดเรี่ยวหมดแรงจะช่วย? ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงอยู่ท่ามกลางข้าพระองค์ทั้งหลาย และผู้คนเรียกข้าพระองค์ทั้งหลายตามพระนามของพระองค์ ขออย่าทรงทอดทิ้งเหล่าข้าพระองค์!

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

9 ทำไมพระองค์จึงทรงเป็นเหมือนชายที่งุนงง หรือเหมือนชายฉกรรจ์แต่ช่วยใครไม่ได้? ข้าแต่พระยาห์เวห์ แม้กระนั้นก็ดีพระองค์สถิตท่ามกลางข้าพระองค์ทั้งหลาย คนเขาเรียกพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์ ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลาย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

9 ไฉนพระองค์จะทรงเป็นเหมือนชายที่งันงง หรือเหมือนคนที่​มี​กำลังมากแต่ช่วยใครให้รอดไม่​ได้ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ แม้​กระนั้​นก​็​ดี​พระองค์​ทรงสถิตท่ามกลางข้าพระองค์​ทั้งหลาย คนเขาเรียกพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์ ขออย่าทรงละข้าพระองค์ทั้งหลายไว้​เสีย​”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

9 ทำไม​พระองค์​ถึง​ทำ​เหมือน​คน​ที่​ประหลาดใจ ทำ​เหมือน​นักรบ​ที่​ไม่​สามารถ​ช่วย​คน​ที่​เขา​มาช่วย พระยาห์เวห์​เจ้าข้า พระองค์​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเรา​ที่นี่ คน​เขา​เรียก​พวกเรา​ด้วย​ชื่อ​ของ​พระองค์ ขอ​อย่าได้​ทอดทิ้ง​พวกเรา”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

9 เหตุ​ไฉน​พระองค์​เหมือน​อย่าง​มนุษย์​คนใดคนหนึ่ง​ที่​ตก​ตะลึง, เหมือน​อย่าง​คน​มี​กำลัง​ใหญ่​คน​หนึ่ง​คน​ใด​ที่​ไม่​อาจ​ช่วย​เล่า. ถึงกระนั้น โอ้​พระ​ยะ​โฮ​วา, พระองค์​ได้​อยู่​ใน​ท่ามกลาง​พวก​ข้าพ​เจ้า, แล​พวก​ข้าพ​เจ้า​ได้​ต้อง​ร้องเรียก​โดย​ชื่อ​ของ​พระองค์, อย่า​ละทิ้ง​พวก​ข้าพ​เจ้า​เลย

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

9 เหตุใด​พระ​องค์​จึง​จะ​เป็น​อย่าง​คน​ที่​งงงัน อย่าง​นักรบ​ผู้​เก่งกล้า​ที่​ช่วย​ให้​รอด​ไม่​ได้ โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​องค์​ยัง​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เรา และ​พวก​เรา​ได้​รับ​เรียก​ว่า​เป็น​คน​ของ​พระ​องค์ โปรด​อย่า​จาก​พวก​เรา​ไป

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 14:9
31 Iomraidhean Croise  

หากประชากรของเราซึ่งเรียกชื่อตามนามของเราจะถ่อมใจลงและอธิษฐานแสวงหาหน้าของเรา และหันกลับจากวิถีอันชั่วร้ายของเขา เมื่อนั้นเราจะรับฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ จะอภัยบาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงประทับอยู่ไกลแสนไกล? ทำไมพระองค์จึงทรงซ่อนพระองค์ในยามเดือดร้อน?


ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากข้าพระองค์ โปรดอย่าทรงผลักไสผู้รับใช้ของพระองค์ออกไปด้วยความกริ้ว เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพระองค์ตลอดมา ข้าแต่พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ ขออย่าทรงทอดทิ้งหรือละจากข้าพระองค์ไป


พระเจ้าสถิตในนคร นครนั้นจะไม่ล่มสลาย พระเจ้าจะทรงช่วยในยามรุ่งอรุณ


ชาวศิโยนเอ๋ย จงโห่ร้องและร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดี เพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ประทับท่ามกลางพวกท่านนั้นยิ่งใหญ่นัก”


คือทุกคนที่ได้ชื่อตามชื่อของเรา ผู้ที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อเกียรติสิริของเรา ผู้ที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา”


จงตื่นเถิด! พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตื่นเถิด! จงสวมพละกำลัง จงตื่นขึ้น เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เหมือนในชั่วอายุเก่าก่อน ไม่ใช่พระองค์หรือที่ฟันราหับออกเป็นชิ้นๆ และแทงสัตว์ร้ายตัวนั้นทะลุ?


แน่ทีเดียว พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าจะช่วยให้รอด ทั้งพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้ตึงเกินกว่าจะได้ยิน


ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นของพระองค์มาตั้งแต่กาลก่อน แต่กลับกลายเป็นว่าพระองค์ไม่ได้ทรงปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย และข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้รับการเรียกขานตามพระนามของพระองค์


เมื่อพระวจนะของพระองค์มาถึง ข้าพระองค์ก็กินพระวจนะนั้น เป็นความชื่นชมยินดีและปลื้มปีติในจิตใจของข้าพระองค์ เพราะเขาเรียกข้าพระองค์ตามพระนามของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์


เพราะพระเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ได้ทรงทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์ แม้ดินแดนของเขาจะเต็มไปด้วยความผิด ต่อหน้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล


ฟังเสียงร่ำไห้ของพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า จากแดนไกลโพ้นเถิด พวกเขาถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในศิโยนหรือ? องค์กษัตริย์แห่งศิโยนไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วหรือ?” “ทำไมหนอพวกเขาจึงยั่วโทสะเราด้วยรูปเคารพ และด้วยเหล่าเทวรูปต่างชาติอันไร้ค่า?”


เหตุใดพระองค์ทรงลืมข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่ร่ำไป? เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายไปนานถึงเพียงนี้?


“วัดระยะรอบเมืองได้ 18,000 คิวบิท “และนับแต่นี้ไปนครนั้นจะได้ชื่อว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตที่นี่’”


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะต้องร้องทูลขอความช่วยเหลือนานเพียงใด พระองค์จึงจะทรงสดับฟัง? หรืออีกนานเพียงใดที่ต้องร้องต่อพระองค์ว่า “โหดร้าย!” แต่พระองค์ไม่ทรงมาช่วย?


และเราเองจะเป็นกำแพงไฟล้อมกรุงเยรูซาเล็ม และเป็นสง่าราศีในกรุงนั้น’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น”


องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “เราจะกลับมาหาศิโยน มาอยู่ในเยรูซาเล็ม แล้วเยรูซาเล็มจะได้ชื่อว่า ‘นครแห่งความจริง’ และภูเขาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะได้ชื่อว่า ‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์’ ”


องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบโมเสสว่า “มีอะไรที่เกินความสามารถขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? คราวนี้เจ้าจะได้เห็นว่าที่เราพูดนั้นจะเป็นจริงหรือไม่”


เพื่อบรรดาผู้ที่เหลืออยู่และชนต่างชาติทั้งปวงที่ได้ชื่อตามนามของเรา จะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้’


วิหารของพระเจ้ากับวิหารของรูปเคารพจะมีข้อตกลงอะไรกันได้? เพราะเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ตามที่พระเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับพวกเขาและดำเนินท่ามกลางพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขาและพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา”


เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงดำเนินอยู่ในค่ายของท่าน เพื่อปกป้องคุ้มครองท่านและมอบศัตรูไว้ในมือของท่าน ค่ายพักจะต้องบริสุทธิ์เพื่อพระองค์จะได้ไม่เห็นสิ่งที่ไม่บังควรและเมินพระพักตร์ไปจากท่าน


แล้วประชาชาติทั้งปวงในโลกจะเห็นว่าท่านได้รับการขนานนามตามพระนามของพระยาห์เวห์ และพวกเขาจะเกรงกลัวท่าน


จงรักษาชีวิตของท่านให้เป็นอิสระจากการรักเงินทองและจงพอใจในสิ่งที่ตนมี เพราะพระเจ้าได้ตรัสว่า “เราจะไม่มีวันทอดทิ้งท่าน เราจะไม่มีวันละทิ้งท่าน”


และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังมาจากพระที่นั่งว่า “บัดนี้ที่ประทับของพระเจ้ามาอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะสถิตกับพวกเขา เขาทั้งหลายจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระเจ้าเองจะทรงอยู่กับพวกเขาและเป็นพระเจ้าของพวกเขา


เพื่อเห็นแก่พระนามอันยิ่งใหญ่ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงละประชากรของพระองค์ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยที่จะทำให้ท่านเป็นของพระองค์เอง


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan