Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เอ็ก​โซ​โด 10:3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

3 ดังนั้นโมเสสกับอาโรนจึงไปเข้าเฝ้าฟาโรห์และทูลว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนฮีบรูตรัสว่า ‘เจ้าจะไม่ยอมถ่อมตัวลงต่อหน้าเราอีกนานเท่าใด? จงปล่อยประชากรของเราไปเพื่อพวกเขาจะได้นมัสการเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

3 โมเสสและอาโรนจึงไปเข้าเฝ้าฟาโรห์ทูลว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของคนฮีบรูตรัสดังนี้ว่า ‘เจ้าจะขัดขืนไม่ยอมอ่อนน้อมต่อเรานานสักเท่าไร? จงปล่อยประชากรของเราไปนมัสการเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

3 โมเสสและอาโรนจึงเข้าไปเฝ้าฟาโรห์ทูลฟาโรห์​ว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนฮีบรูตรั​สด​ังนี้​ว่า ‘​เจ้​าจะขัดขืนไม่ยอมอ่อนน้อมต่อเรานานสักเท่าใด จงปล่อยพลไพร่ของเราเพื่อเขาจะไปปรนนิบั​ติ​เรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

3 โมเสส​กับ​อาโรน​จึง​ไป​พบ​ฟาโรห์ และ​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ชาว​ฮีบรู​พูด​ไว้​อย่างนี้​ว่า ‘เจ้า​จะ​ไม่ยอม​ถ่อมตัว​ลง​ต่อหน้า​เรา​ไป​อีกนาน​แค่ไหน ปล่อย​คน​ของเรา​ไป​เพื่อ​เขา​จะได้​มา​รับใช้​เรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

3 โม​เซ​และ​อาโรน​จึง​ได้​เข้า​ไป​เฝ้า​กษัตริย์​ฟาโร​ทูล​ว่า, “พระ​ยะ​โฮ​วา, พระ​เจ้า​แห่ง​ชา​ติ​เฮ็บ​ราย, ได้​ตรัส​ดังนี้​ว่า, ‘ฟาโร​จะ​ขัด​ขืน​ไม่​ยอม​อ่อน​น้อม​ต่อ​เรา​นาน​ไป​สัก​เท่าใด? จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ให้​ไปปร​นิบัติ​เรา.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

3 ดังนั้น โมเสส​และ​อาโรน​จึง​ไป​หา​ฟาโรห์​และ​พูด​กับ​ท่าน​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ชาว​ฮีบรู​กล่าว​ว่า ‘เจ้า​จะ​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​นอบ​น้อม​ต่อ​เรา​อีก​นาน​แค่​ไหน จง​ปล่อย​ให้​ชน​ชาติ​ของ​เรา​ไป พวก​เขา​จะ​ได้​นมัสการ​เรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เอ็ก​โซ​โด 10:3
28 Iomraidhean Croise  

เอลียาห์มาอยู่ต่อหน้าประชาชนและกล่าวว่า “พวกท่านจะเหยียบเรือสองแคมไปนานสักเท่าใด? หากพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า จงติดตามพระองค์ แต่หากบาอัลเป็นพระเจ้า ก็ไปติดตามเขาเถิด” แต่ประชาชนไม่พูดอะไร


“เจ้าเห็นหรือไม่ว่าอาหับได้ถ่อมใจลงต่อหน้าเรา? เพราะเขาถ่อมใจลง เราจะไม่ให้เกิดภัยพิบัตินี้ในชั่วชีวิตของเขา แต่จะให้เกิดแก่วงศ์วานของเขาในสมัยลูกของเขา”


เนื่องจากจิตใจของเจ้าน้อมรับและเจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เรากล่าวไว้เกี่ยวกับสถานที่นี้และประชากรที่ว่าจะถูกสาปแช่งและจะต้องเริศร้าง และเนื่องจากเจ้าได้ฉีกเสื้อผ้าและร่ำไห้ต่อหน้าเรา เราได้ยินแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้


ในความทุกข์ลำบาก มนัสเสห์ทรงถ่อมพระทัยลงอย่างยิ่งและทรงร้องขอความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ


คำอธิษฐานของมนัสเสห์ การที่พระเจ้าทรงตอบ ตลอดจนบาปและความไม่ซื่อสัตย์ทั้งปวงของมนัสเสห์ รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ที่ทรงสร้างสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย เสาเจ้าแม่อาเชราห์และรูปเคารพต่างๆ ไว้ก่อนที่จะทรงถ่อมพระองค์ลง ล้วนกล่าวไว้ในบันทึกของผู้เผยพระวจนะ


เนื่องจากจิตใจของเจ้าน้อมรับ และเจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อหน้าพระเจ้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เรากล่าวไว้เกี่ยวกับสถานที่นี้และประชากร และเพราะเจ้าถ่อมตัว ฉีกเสื้อผ้า และร่ำไห้ต่อหน้าเรา เราได้ยินแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้


หากประชากรของเราซึ่งเรียกชื่อตามนามของเราจะถ่อมใจลงและอธิษฐานแสวงหาหน้าของเรา และหันกลับจากวิถีอันชั่วร้ายของเขา เมื่อนั้นเราจะรับฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ จะอภัยบาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย


ฉะนั้นข้าพระองค์จึงเกลียดชังตัวเอง และสำนึกผิดในกองธุลีและขี้เถ้า”


หากเจ้าไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป เราจะนำตั๊กแตนมาสู่ประเทศของเจ้าในวันพรุ่งนี้


แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “พวกเจ้าจะดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟังคำบัญชาและคำสั่งของเราไปอีกนานเท่าไร?


และเราบอกเจ้าว่า “จงปล่อยลูกชายของเราไป เพื่อเขาจะได้นมัสการเรา” แต่เจ้าปฏิเสธไม่ยอมให้เขาไป ดังนั้นเราจะประหารลูกชายหัวปีของเจ้า’ ”


หลังจากนั้นโมเสสกับอาโรนเข้าเฝ้าฟาโรห์และทูลว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า ‘จงปล่อยประชากรของเราไป เพื่อพวกเขาจะจัดงานฉลองให้เราในถิ่นกันดาร’ ”


เจ้ายังตั้งตัวเป็นศัตรูกับประชากรของเราและไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป


“พวกอ่อนต่อโลกเอ๋ย เจ้าจะรักความโง่ไปนานแค่ไหน? คนมักเยาะเย้ยจะหลงใหลการเยาะเย้ยไปนานเพียงไร? คนโง่จะชังความรู้ไปนานสักเท่าใด?


แต่เนื่องจากเจ้าปฏิเสธเมื่อเราร้องเรียก ไม่มีใครใส่ใจเมื่อเรากวักมือ


ใจของคนย่อมหยิ่งผยองก่อนที่เขาจะล้มลง แต่ความถ่อมใจนำหน้าเกียรติยศ


ทำไมต้องให้โบยอยู่ร่ำไป? ทำไมจึงกบฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศีรษะของเจ้าก็ร้าวระบม หัวใจก็ร้าวราน


นัยน์ตาหยิ่งผยองจะถูกปราบลง ความโอ้อวดทะนงตัวของมนุษย์จะถูกกดลง ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงผู้เดียวจะเป็นที่เทิดทูน


ประชากรที่ชั่วร้ายเหล่านี้ ซึ่งไม่ยอมฟังถ้อยคำของเรา ชอบดื้อดึงทำตามใจตนเอง และหันไปติดตามปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ จะเป็นเหมือนผ้าคาดเอวนี้คือใช้การไม่ได้เลย!’


จงทูลกษัตริย์และราชมารดาว่า “ลงมาจากราชบัลลังก์เถิด เพราะมงกุฎอันธำรงเกียรติ จะร่วงหล่นจากพระเศียรของพระองค์”


“จงเรียกพลธนูมาต่อสู้กับบาบิโลน บรรดาผู้โก่งคันศร จงมาตั้งค่ายล้อมบาบิโลนไว้ อย่าให้มีใครหนีรอดไปได้ จงตอบแทนมันให้สาสม จงทำกับมันเหมือนที่มันเคยทำไว้ เพราะบาบิโลนได้ลบหลู่พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล


แต่โดยความชั่วร้าย เยรูซาเล็มได้กบฏต่อบทบัญญัติและกฎหมายของเรามากยิ่งกว่าชนชาติและประเทศต่างๆ โดยรอบ เยรูซาเล็มได้ละทิ้งบทบัญญัติของเราและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา


“ข้าแต่เบลชัสซาร์ แต่ฝ่าพระบาทผู้เป็นโอรสทรงทราบเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็ไม่ได้ถ่อมพระทัยลง


“ชุมชนที่ชั่วร้ายเหล่านี้จะบ่นว่าเราอีกนานเท่าใด? เราได้ยินคำพร่ำบ่นของคนอิสราเอลเหล่านี้แล้ว


หรือท่านหมิ่นประมาทพระกรุณาคุณ ความอดกลั้น และความอดทนอันล้นเหลือของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่าพระกรุณาคุณของพระเจ้ามุ่งชักนำท่านให้กลับใจใหม่?


จงระวังอย่าปฏิเสธพระองค์ผู้ตรัสอยู่ ถ้าพวกเขายังหนีไม่พ้นเมื่อปฏิเสธพระองค์ผู้ตรัสเตือนในโลก เราย่อมจะหนีไม่พ้นยิ่งขึ้นเพียงใดหากเราหันหนีพระองค์ผู้ทรงเตือนเราจากสวรรค์?


ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์จะทรงยกชูท่านขึ้น


เพราะฉะนั้นพวกท่านจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้าเพื่อพระองค์จะทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan