Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




2เธสะโลนิกา 1:9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

9 พวกเขาจะถูกลงโทษด้วยความพินาศนิรันดร์ จะถูกแยกจากเบื้องพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า และแยกจากพระบารมีแห่งฤทธานุภาพของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

9 คนเหล่านั้นจะได้รับโทษ อันเป็นความพินาศนิรันดร์และพรากจากพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากพระสิริแห่งพระกำลังของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

9 คนเหล่านั้นจะได้รับโทษอันเป็นความพินาศนิรันดร์ พ้นไปจากพระพักตร์​องค์​พระผู้เป็นเจ้า และจากสง่าราศี​แห่​งพระอานุภาพของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

9 โทษ​ของ​พวกเขา​คือ​จะ​ถูก​ทำลาย​ตลอดไป และ​ถูก​แยก​ออกมา ไม่ได้​อยู่​ต่อหน้า​องค์​เจ้า​ชีวิต​และ​ต่อหน้า​ฤทธิ์​อำนาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

9 คน​เหล่านั้น​จะ​รับ​โทษ คือ​ความ​พินาศ​นิ​รันดร์​พ้น​ออกไป​จาก​พระ​พักตร​พระ​เจ้า, และ​จาก​รัศมี​เดช​ของ​พระ​องค์, ใน​วัน​นั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

9 เขา​เหล่า​นั้น​จะ​ถูก​ลง​โทษ นั่น​คือ​ความ​พินาศ​อัน​เป็น​นิรันดร์ และ​อยู่​ห่าง​ไกล​แสน​ไกล​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​อานุภาพ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​องค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




2เธสะโลนิกา 1:9
38 Iomraidhean Croise  

เย็นวันนั้นเขาทั้งสองได้ยินเสียงพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงดำเนินอยู่ในสวน จึงหลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ให้พ้นจากพระองค์


ดังนั้นคาอินจึงออกไปจากเบื้องหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนโนดทางทิศตะวันออกของเอเดน


ถึงกระนั้นเขาก็พูดกับพระเจ้าว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา! เราไม่อยากรู้วิถีทางของพระองค์


เขาพูดกับพระเจ้าว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา! องค์ทรงฤทธิ์จะทำอะไรเราได้?’


พระองค์ได้ทรงสำแดงหนทางแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ มีความชื่นบานอยู่ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์เป็นนิตย์


ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปจากเบื้องพระพักตร์ หรืออย่าทรงนำพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพระองค์


แต่พวกกบฏและคนบาปจะแหลกลาญทั้งคู่ และผู้ที่ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะพินาศ


จงคลานเข้าไปในซอกหิน และมุดลงไปในดิน ให้พ้นจากความน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากความรุ่งโรจน์แห่งพระบารมีของพระองค์


คนทั้งหลายจะหนีเข้าไปซ่อนตัวตามถ้ำ ตามซอกหินและในหลุม ให้พ้นจากความน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากความรุ่งโรจน์แห่งพระบารมีของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นมาเขย่าโลก


เขาจะหนีเข้าไปในอุโมงค์และซอกผา ให้พ้นจากความน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากความรุ่งโรจน์แห่งพระบารมีของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นมาเขย่าโลก


เหล่าคนบาปในศิโยนอกสั่นขวัญแขวน คนที่ไม่นับถือพระเจ้าตัวสั่นงันงก “มีใครในพวกเราอยู่กับไฟที่เผาผลาญนี้ได้? มีใครในพวกเราอยู่กับการเผาไหม้ชั่วนิรันดร์ได้?”


“และพวกเขาจะออกไปดูซากศพของบรรดาผู้ที่กบฏต่อเรา เพราะหนอนของคนเหล่านั้นจะไม่มีวันตาย ทั้งไฟของเขาจะไม่มีวันดับ และเขาจะเป็นที่น่าขยะแขยงแก่มวลมนุษยชาติ”


คนเป็นอันมากที่ตายไปแล้วจะฟื้นขึ้น บางคนก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บางคนก็เข้าสู่ความอับอายและถูกดูหมิ่นเหยียดหยามตลอดกาล


เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระเกียรติสิริของพระบิดาพร้อมกับทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นพระองค์จะปูนบำเหน็จแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขา


“แล้วกษัตริย์จึงสั่งมหาดเล็กว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าเขาและโยนออกไปยังที่มืดภายนอกที่ซึ่งจะมีการร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’


“เมื่อนั้นหมายสำคัญของบุตรมนุษย์จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและมวลประชาชาติแห่งพื้นพิภพจะร้องไห้คร่ำครวญ พวกเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนหมู่เมฆในท้องฟ้าด้วยเดชานุภาพและพระเกียรติสิริอันยิ่งใหญ่


“แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายของพระองค์ว่า ‘จงไปเสียจากเรา เจ้าทั้งหลายผู้ถูกสาปแช่ง จงไปยังไฟนิรันดร์ที่เตรียมไว้สำหรับมารร้ายกับสมุนของมัน


“แล้วคนเหล่านี้ก็ต้องออกไปรับโทษนิรันดร์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์”


บุตรมนุษย์จะไปตามที่เขียนไว้ แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์! ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาเลยยังจะดีกับตัวเขามากกว่า”


เมื่อนั้นเราจะบอกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า ‘เราไม่รู้จักเจ้าเลย เจ้าคนทำชั่ว จงไปให้พ้น!’


“แต่เขาจะตอบว่า ‘เราไม่รู้จักเจ้า และไม่รู้ว่าเจ้ามาจากไหน จงไปให้พ้น เจ้าคนทำชั่วทั้งปวง!’


ต่อมาพระเยซูทรงพบเขาที่พระวิหารและตรัสว่า “ดูเถิด ท่านสบายดีแล้ว จงเลิกทำบาป มิฉะนั้นสิ่งเลวร้ายกว่าเดิมอาจจะเกิดกับท่าน”


เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนาย ทรงฉายแสงอรุณเหนือพวกเขาจากเสอีร์ ทรงเปล่งรังสีจากภูเขาปาราน พระองค์เสด็จมากับผู้บริสุทธิ์นับหมื่นแสน จากทิศใต้ จากลาดเขาของพระองค์


ปลายทางของพวกเขาคือความพินาศ พระของเขาคือกระเพาะ เขาภูมิใจในสิ่งที่ควรอับอาย ปักใจอยู่แต่กับสิ่งฝ่ายโลก


ขณะที่ผู้คนกำลังพูดกันว่า “สงบสุขและปลอดภัย” ขณะนั้นหายนะก็จะมาถึงพวกเขาในฉับพลันเหมือนการเจ็บท้องจะคลอดที่เกิดขึ้นกับหญิงมีครรภ์ และคนเหล่านั้นจะหนีไม่พ้น


เมื่อนั้นคนนอกกฎหมายนี้จะปรากฏตัว องค์พระเยซูเจ้าจะทรงโค่นล้มมันด้วยลมจากพระโอษฐ์ และทำลายล้างมันด้วยความรุ่งโรจน์ของการเสด็จมาของพระองค์


ขณะที่เรารอคอยความหวังอันเปี่ยมด้วยพระพร คือการปรากฏพระองค์อย่างทรงพระเกียรติสิริของพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดผู้ยิ่งใหญ่ของเราคือพระเยซูคริสต์


ท่านคิดว่าผู้ที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า ทำราวกับว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นไม่ศักดิ์สิทธิ์และลบหลู่พระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะรับโทษหนักมากกว่านั้นสักเพียงใด?


คนเหล่านี้คือบ่อแล้งน้ำ คือหมอกที่ถูกพายุพัดไป นรกมืดมิดรอพวกเขาอยู่


โดยพระดำรัสเดียวกันนี้ ฟ้าสวรรค์และโลกปัจจุบันก็ถูกสงวนไว้ให้ไฟเผาผลาญ ถูกเก็บไว้เพื่อวันแห่งการพิพากษาและความหายนะของคนอธรรม


เขาเป็นคลื่นคะนองในทะเลที่ซัดความน่าอับอายของตนเป็นฟองฟู่ เขาเป็นดาวที่เตลิดจากวงโคจร ความมืดมิดได้ถูกสงวนไว้ให้เขาตลอดกาล


แล้วข้าพเจ้าเห็นพระที่นั่งใหญ่สีขาวพร้อมทั้งผู้ที่ประทับบนพระที่นั่งนั้น เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ แผ่นดินโลกและท้องฟ้าก็หายไป ไม่มีที่สำหรับทั้งสองสิ่งนี้แล้ว


แล้วความตายและแดนมรณาก็ถูกโยนลงในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละคือความตายครั้งที่สอง


ส่วนคนขี้ขลาดตาขาว คนที่ไม่เชื่อ คนชั่วช้า ฆาตกร คนผิดศีลธรรมทางเพศ คนใช้คาถาอาคม คนกราบไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดโกหก ที่ของเขาคือบึงไฟกำมะถันลุกโชน นั่นคือความตายครั้งที่สอง”


พวกที่อยู่ภายนอกคือสุนัข คนที่ใช้คาถาอาคม คนที่ผิดศีลธรรมทางเพศ ฆาตกร คนกราบไหว้รูปเคารพ และทุกคนที่รักการมุสาและประพฤติตามนั้น


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan