Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




2เธสะโลนิกา 1:8 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

8 พระองค์จะทรงลงโทษบรรดาผู้ที่ไม่รู้จักพระเจ้าและไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐขององค์พระเยซูเจ้าของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

8 ด้วยเปลวเพลิง พระองค์จะลงโทษสนองคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า และคนที่ไม่ดำเนินชีวิตตามข่าวประเสริฐเรื่องของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

8 ในเปลวเพลิงจะลงโทษสนองคนเหล่านั้​นที​่​ไม่รู้​จักพระเจ้า และแก่​คนที​่​ไม่​เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเยซู​คริสต์​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

8 และ​พร้อมกับ​เปลวไฟ​โชติช่วง แล้ว​พระองค์​จะ​ลงโทษ​คน​ที่​ไม่รู้จัก​พระเจ้า และ​คน​ที่​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​ข่าวดี​เกี่ยวกับ​พระเยซู​องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​เรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

8 และ​จะ​ทรง​สนอง​โทษ​แก่​คน​เหล่านั้น​ที่​ไม่​รู้จัก​พระ​เจ้า, และ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​กิตติ​คุณ​ของ​พระ​เยซู​เจ้า​ของ​เรา.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

8 พระ​องค์​จะ​ลง​โทษ​ผู้​ที่​ไม่​รู้จัก​พระ​เจ้า และ​ผู้​ที่​ไม่​เชื่อฟัง​ข่าว​ประเสริฐ​ของ​พระ​เยซู องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




2เธสะโลนิกา 1:8
59 Iomraidhean Croise  

หลังจากทรงขับไล่เขาออกไปจากสวนแล้ว พระองค์ทรงตั้งเหล่าเครูบไว้ที่ด้านตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงเล่มหนึ่งที่พุ่งไปมาเพื่อคอยพิทักษ์ทางซึ่งนำไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น


ผู้ใดแตะต้องหนาม ย่อมใช้เครื่องมือเหล็กหรือด้ามหอก พวกเขาถูกเผาทิ้งในที่ที่เขาอยู่”


ทันทีที่ได้ยินถึงข้าพระองค์ พวกเขาก็เชื่อฟังข้าพระองค์ คนต่างชาติมาสยบต่อข้าพระองค์


ขอทรงเทพระพิโรธลงเหนือชนชาติทั้งหลาย ที่ไม่ยอมรับพระองค์ ลงเหนืออาณาจักรต่างๆ ที่ไม่ยอมร้องทูลโดยออกพระนามของพระองค์


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทุกคนที่รู้จักพระนามของพระองค์จะวางใจในพระองค์ เพราะพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งบรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์


ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงแก้แค้น ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงแก้แค้น ขอทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์


ฟาโรห์ตรัสว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นใครที่เราจะต้องเชื่อฟังและปล่อยอิสราเอลไป? เราไม่รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้าและเราจะไม่ปล่อยอิสราเอลไป”


หากเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง เจ้าจะได้กินผลดีที่สุดจากผืนแผ่นดิน


แต่พวกกบฏและคนบาปจะแหลกลาญทั้งคู่ และผู้ที่ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะพินาศ


เมื่อง่ามไม้แห้ง มันก็หัก พวกผู้หญิงก็มาเก็บไปทำฟืน เพราะชนชาตินี้ไม่มีความเข้าใจ ฉะนั้นพระผู้สร้างของพวกเขาจึงไม่เอ็นดูสงสารเขา พระองค์ผู้ทรงสร้างพวกเขาไม่แสดงความโปรดปรานต่อพวกเขา


ให้ประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของเรา ให้ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญหวนไห้


ขอทรงระบายพระพิโรธลงเหนือบรรดาประชาชาติ ที่ไม่ยอมรับพระองค์ และเหนือชนชาติทั้งหลายที่ไม่ยอมออกพระนามของพระองค์ เพราะพวกเขากลืนกินยาโคบ พวกเขากลืนกินจนหมดสิ้น และทำลายล้างถิ่นฐานของยาโคบย่อยยับไปหมด


เจ้าอาศัยอยู่ท่ามกลางการหลอกลวง เพราะความหลอกลวงของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ยอมรับเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น


แม่น้ำเพลิงกำลังไหล มาจากเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ ผู้รับใช้นับล้านคอยปรนนิบัติพระองค์ และมีคนนับล้านๆ คนยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ การพิจารณาคดีเริ่มขึ้น หนังสือเล่มต่างๆ ถูกเปิดออก


บรรดาผู้เลิกติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า หรือทูลถามจากพระองค์


“แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายของพระองค์ว่า ‘จงไปเสียจากเรา เจ้าทั้งหลายผู้ถูกสาปแช่ง จงไปยังไฟนิรันดร์ที่เตรียมไว้สำหรับมารร้ายกับสมุนของมัน


“แล้วคนเหล่านี้ก็ต้องออกไปรับโทษนิรันดร์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์”


คำตัดสินเป็นดังนี้คือ ความสว่างได้เข้ามาในโลก แต่มนุษย์รักความมืดแทนที่จะรักความสว่าง เพราะการกระทำของพวกเขาชั่วร้าย


พวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “บิดาของท่านอยู่ที่ไหน?” พระเยซูตรัสว่า “ท่านไม่รู้จักเราหรือพระบิดาของเรา ถ้าท่านรู้จักเรา ท่านย่อมรู้จักพระบิดาของเราด้วย”


ดังนั้นพระวจนะของพระเจ้าจึงแพร่ออกไปจำนวนสาวกในกรุงเยรูซาเล็มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีปุโรหิตจำนวนมากมารับเชื่อ


ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากเขาไม่เห็นคุณค่าของการรู้จักพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยเขาให้มีจิตใจเสื่อมทราม ให้ทำสิ่งที่ไม่สมควร


พวกเราได้รับพระคุณและถูกแต่งตั้งให้เป็นอัครทูตโดยทางพระองค์และเพื่อพระนามของพระองค์ เพื่อเรียกผู้คนจากชนต่างชาติทั้งมวลมาสู่ความเชื่อฟังซึ่งมาจากความเชื่อ


แต่ไม่ใช่ว่าคนอิสราเอลทั้งปวงจะยอมรับข่าวประเสริฐ เพราะอิสยาห์กล่าวไว้ว่า “พระองค์เจ้าข้า ใครเล่าได้เชื่อถ้อยคำของเรา?”


ข้าพเจ้าไม่กล้ากล่าวถึงสิ่งใดนอกเหนือจากสิ่งที่พระคริสต์ทรงกระทำผ่านทางข้าพเจ้า ในการนำคนต่างชาติมาเชื่อฟังพระเจ้าด้วยสิ่งที่ข้าพเจ้าได้พูดและทำ


แต่บัดนี้ได้ทรงสำแดงและเปิดเผยให้รู้ทั่วกันผ่านทางข้อเขียนต่างๆ ของผู้เผยพระวจนะตามพระบัญชาของพระเจ้าองค์นิรันดร์ เพื่อปวงประชาชาติจะได้เชื่อวางใจและเชื่อฟังพระองค์


ท่านไม่รู้หรือว่าเมื่อท่านยอมตัวเชื่อฟังเยี่ยงทาสต่อผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น? ไม่ว่าท่านจะเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรมก็ตาม


จงกลับมีสติสัมปชัญญะอย่างที่ควรเถิดและเลิกทำบาป เพราะมีบางคนไม่รู้จักพระเจ้าเลย ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ


เราทำลายล้างประเด็นโต้แย้งและคำแอบอ้างทั้งปวงที่ตั้งตัวขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และเราสยบทุกความคิดให้ยอมจำนนเชื่อฟังพระคริสต์


ชาวกาลาเทียผู้โง่เขลาเอ๋ย! ใครสะกดท่านให้หลงไปเสียแล้วเล่า? ภาพพระเยซูคริสต์ถูกตรึงตายบนไม้กางเขนก็ชัดเจนอยู่ต่อหน้าต่อตาท่าน


เมื่อก่อนท่านยังไม่รู้จักพระเจ้า ท่านเป็นทาสของผู้ซึ่งโดยสภาพแล้วไม่ใช่เทพเจ้าเลย


การแก้แค้นเป็นหน้าที่ของเราเอง เราจะคืนสนอง เมื่อถึงเวลาเท้าของพวกเขาจะลื่นไถล วันแห่งหายนะของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว และความย่อยยับจะถาโถมเข้าใส่พวกเขา”


ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้และยืนอยู่ที่เชิงเขาซึ่งมีไฟลุกโชติช่วงขึ้นสู่ท้องฟ้า รายรอบด้วยเมฆดำและความมืดทึบ


เมื่อท่านทุกข์ลำเค็ญเพราะสิ่งทั้งปวงนี้เกิดขึ้นแก่ท่านในเวลาต่อมา ท่านจะหวนกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเชื่อฟังพระองค์


(ในครั้งนั้นข้าพเจ้าเป็นคนกลางระหว่างองค์พระผู้เป็นเจ้ากับท่านเพื่อประกาศพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่ท่าน เพราะท่านกลัวไฟและไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขา) และพระองค์ตรัสว่า


ไม่ใช่มัวเมาในราคะตัณหาเหมือนคนนอกศาสนาซึ่งไม่รู้จักพระเจ้า


มีแต่รอคอยด้วยความหวาดกลัวถึงการพิพากษาและไฟร้อนแรงซึ่งจะเผาผลาญบรรดาศัตรูของพระเจ้า


เพราะเรารู้จักพระองค์ผู้ตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นหน้าที่ของเราเอง เราจะคืนสนอง” และว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์”


โดยความเชื่อเมื่ออับราฮัมได้รับการทรงเรียกให้ไปยังสถานที่ซึ่งเขาจะได้รับเป็นมรดกในภายหลัง เขาก็เชื่อฟังและออกเดินทางถึงแม้เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน


เพราะว่า “พระเจ้าทรงเป็นไฟอันเผาผลาญ”


แล้วเราจะรอดพ้นไปได้อย่างไรหากเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้? แรกสุดองค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงประกาศความรอดนี้ และบรรดาผู้ได้ยินจากพระองค์ได้ยืนยันแก่เราทั้งหลาย


และเมื่อพระเจ้าทรงทำให้พระเยซูเพียบพร้อมสมบูรณ์แล้ว พระองค์จึงทรงเป็นแหล่งความรอดนิรันดร์สำหรับคนทั้งปวงที่เชื่อฟังพระองค์


พระเจ้าพระบิดาได้ทรงเลือกสรรพวกท่านตามที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้าแล้วผ่านทางการทรงชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณ เพื่อให้พวกท่านมาเชื่อฟังพระเยซูคริสต์และรับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ ขอพระคุณและสันติสุขมีแด่พวกท่านอย่างล้นเหลือ


เหมือนนางซาราห์ผู้เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกเขาว่านาย ถ้าท่านทำสิ่งที่ถูกต้องและไม่หวาดหวั่นสิ่งร้ายอันใด ท่านทั้งหลายก็เป็นลูกหลานของนางซาราห์


เพราะถึงเวลาแล้วที่การพิพากษาจะเริ่มขึ้นที่ครอบครัวของพระเจ้า และถ้าการพิพากษาเริ่มต้นที่พวกเราแล้วผลลัพธ์ของบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเจ้าจะเป็นอย่างไร?


โดยพระดำรัสเดียวกันนี้ ฟ้าสวรรค์และโลกปัจจุบันก็ถูกสงวนไว้ให้ไฟเผาผลาญ ถูกเก็บไว้เพื่อวันแห่งการพิพากษาและความหายนะของคนอธรรม


เช่นเดียวกัน เมืองโสโดม เมืองโกโมราห์ และเมืองต่างๆ โดยรอบได้ปล่อยตัวมัวเมาทำผิดศีลธรรมทางเพศและกามวิปริต พวกนี้เป็นตัวอย่างของบรรดาผู้ที่จะรับโทษในไฟนิรันดร์


และพญามารที่ล่อลวงพวกเขาก็ถูกโยนลงในบึงไฟกำมะถันที่ลุกโชน ที่ซึ่งสัตว์ร้ายกับผู้เผยพระวจนะเท็จถูกโยนลงไปก่อนแล้ว พวกมันจะทนทุกข์ทรมานทั้งกลางวันกลางคืนสืบๆ ไปเป็นนิตย์


ส่วนคนขี้ขลาดตาขาว คนที่ไม่เชื่อ คนชั่วช้า ฆาตกร คนผิดศีลธรรมทางเพศ คนใช้คาถาอาคม คนกราบไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดโกหก ที่ของเขาคือบึงไฟกำมะถันลุกโชน นั่นคือความตายครั้งที่สอง”


พวกเขาร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เจ้าชีวิต ผู้ทรงบริสุทธิ์และทรงสัตย์จริง อีกนานเท่าใดกว่าพระองค์จะทรงพิพากษาชาวโลกและแก้แค้นให้พวกเราผู้หลั่งเลือดพลีชีวิต?”


บุตรชายทั้งสองของเอลีเป็นคนชั่ว ไม่เคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan