อิสยาห์ 3:2 - Thai KJV

² พวกทแกล้วและพวกทหาร ผู้วินิจฉัยและผู้พยากรณ์ ผู้เฉลียวฉลาดและพวกผู้ใหญ่

Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

² นักรบและทหาร ผู้วินิจฉัยและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้ใหญ่

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

² พวกทแกล้วและพวกทหาร ผู้​วิน​ิจฉัยและผู้​พยากรณ์ ผู้​เฉลียวฉลาดและพวกผู้​ใหญ่

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

² จะตัดวีรบุรุษและนักรบ ตุลาการและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้อาวุโส

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

² ไม่ว่า​จะเป็น​นักรบ​หรือทหาร ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้พิพากษา หรือ​ผู้พูดแทนพระเจ้า หรือ หมอดู หรือ​ผู้นำอาวุโส

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

² ทหาร​และ​นักรบ; ผู้พิพากษา​และ​ศาสดาพยากรณ์, ผู้ทำ​นาย​และ​ผู้​มี​ปัญญา;

อิสยาห์ 3:2 Iomraidhean Croise

1พงศาวดาร 9:1

ดังนั้นอิสราเอลทั้งปวงได้ขึ้นทะเบียนไว้ในสำมะโนครัวเชื้อสาย และดูเถิด ทะเบียนนี้ก็บันทึกไว้ในหนังสือของกษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์ ผู้ถูกกวาดไปเป็นเชลยในบาบิโลนเพราะการละเมิดของเขา

เพลงสดุดี 74:9

พวกเราไม่เห็นหมายสำคัญทั้งหลายของเรา ไม่มีผู้พยากรณ์อีกแล้ว ในพวกเราไม่มีใครทราบว่านานเท่าใด

อิสยาห์ 3:3

นายห้าสิบและผู้มียศ ที่ปรึกษาและคนเล่นกลที่มีฝีมือ และนักพูดที่วาทะโวหารดี

ยะเอศเคล 17:12

“บัดนี้จงกล่าวแก่วงศ์วานที่มักกบฏนั้นว่า ท่านทั้งหลายไม่ทราบหรือว่า สิ่งเหล่านี้มีความหมายว่ากระไร จงบอกเขาว่า ดูเถิด กษัตริย์กรุงบาบิโลนได้มายังกรุงเยรูซาเล็ม และกวาดเอากษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายพามายังกษัตริย์ที่กรุงบาบิโลน

ยะเอศเคล 17:13

และพระองค์ได้ทรงเอาเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่งและทำพันธสัญญากับท่านผู้นั้นให้เขาปฏิญาณตัว คนสำคัญๆของแผ่นดิน พระองค์ได้กวาดต้อนเอาไป

ยะเอศเคล 8:12

แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เจ้าได้เห็นแล้วมิใช่หรือว่าพวกผู้ใหญ่ของวงศ์วานอิสราเอลกระทำอะไรอยู่ในที่มืด ทุกคนต่างก็อยู่ในห้องรูปภาพของตนเพราะเขาทั้งหลายพูดว่า ‘พระเยโฮวาห์ไม่ทอดพระเนตรเห็นเรา พระเยโฮวาห์ทรงทอดทิ้งแผ่นดินนี้เสียแล้ว’”

ยะเอศเคล 9:5

และพระองค์ตรัสกับคนอื่นๆซึ่งข้าพเจ้าได้ยินว่า “จงผ่านไปตลอดนครตามชายคนนั้นไปและฆ่าฟันเสีย นัยน์ตาของเจ้าอย่าได้ปรานี และเจ้าอย่าสงสารเลย

อา​โม​ส 2:3

เราจะตัดผู้วินิจฉัยออกเสียจากท่ามกลางเมืองนั้น และจะประหารเจ้านายทั้งหลายของเมืองนั้นเสียพร้อมกับผู้วินิจฉัย” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ