Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




อาฤธโม 11:1 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

1 ประชาชนได้บ่นเรื่องเหตุร้าย ต่อพระเนตรพระกรรณของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงทราบก็ทรงพระพิโรธ มีไฟของพระเจ้ามาไหม้อยู่ท่ามกลาง เขาเผาค่ายรอบนอกเสียบ้าง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

1 ประชาชนบ่นว่าเรื่องความลำบากต่อพระกรรณของพระยาห์เวห์ เมื่อพระยาห์เวห์ทรงได้ยินแล้วก็กริ้ว มีไฟจากพระยาห์เวห์มาไหม้อยู่ท่ามกลางพวกเขา และเผารอบนอกของค่ายไปบางส่วน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

1 เมื่อประชาชนบ่น พระเยโฮวาห์ทรงไม่พอพระทัย พระเยโฮวาห์ทรงสดับแล้วทรงพระพิโรธ มี​ไฟของพระเยโฮวาห์มาไหม้​อยู่​ท่ามกลางเขา เผาค่ายรอบนอกเสียบ้าง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

1 ครั้งนั้นเหล่าประชากรบ่นถึงความทุกข์ยากลำบากของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับ แล้วก็ทรงพระพิโรธ จึงมีไฟจากองค์พระผู้เป็นเจ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านั้นที่รอบนอกของค่าย

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

1 ชาว​อิสราเอล​เริ่ม​บ่น​อย่าง​ขมขื่น​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ พระองค์​ได้ยิน​และ​โกรธ พระองค์​จึง​ส่ง​ไฟ​ลง​มา​เผาผลาญ​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเขา และ​ไฟนั้น​ได้​เผา​บริเวณ​แถวๆ​ริม​ค่าย​หาย​ไป​ส่วน​หนึ่ง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

1 แล​คน​ทั้ง​ปวง​ได้​บ่น​ติ​เตียน​ให้​เคือง​พระทัย​พระ​ยะ​โฮ​วาๆ ได้​ทรง​ฟัง​ก็​ทรง​พระ​พิโรธ​ยิ่ง​นัก, แล​มี​ไฟ​พระ​ยะ​โฮ​วา​มา​ไหม้ ท่ามกลาง​เขา, ได้​เผา​ผลาญ​คน​ที่​อยู่​ใน​กอง​ค่าย​รอบ​นอก.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




อาฤธโม 11:1
40 Iomraidhean Croise  

ในพระเนตรพระเจ้า สิ่งที่โอนันได้กระทำนั้นผิด พระองค์จึงทรงประหารชีวิตเขาเสีย


เมื่อสิ้นการไว้ทุกข์แล้วดาวิดก็ ส่งคนไปให้พานางมาที่พระราชวัง และนางก็ได้เป็นมเหสีของพระองค์ ประสูติโอรสองค์หนึ่งให้พระองค์ แต่สิ่งซึ่งดาวิดทรงกระทำนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า


แต่เอลียาห์ตอบว่า <<ถ้าข้าเป็นคนแห่งพระเจ้า ก็ขอให้ไฟลงมาจากฟ้าสวรรค์เผาผลาญ เจ้าและคนทั้งห้าสิบของเจ้าเถิด>> และไฟของพระเจ้าลงมาจากฟ้าสวรรค์ และเผาผลาญเขากับคนทั้งห้าสิบของเขาเสีย


ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า <<เพลิงของพระเจ้าตกลงมาจากฟ้าสวรรค์ไหม้แกะ และคนใช้และเผาผลาญเสียหมด และข้าพเจ้าแต่ผู้เดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน>>


ไฟระเบิดในคณะของท่าน และเปลวเพลิงผลาญคนอธรรมเสีย


เพราะฉะนั้น เมื่อพระเจ้าทรงสดับแล้ว พระองค์ทรงพระพิโรธ มีไฟลุกโพลงขึ้นสู้ยาโคบ พระพิโรธของพระองค์ สูงขึ้นสู้อิสราเอล


ไฟผลาญหนุ่มๆของเขาเสีย และสาวๆของเขาก็ไม่มีเพลงแต่งงาน


ในเวลาเช้าพวกท่านจะได้เห็นพระสิริแห่งพระเจ้า เพราะคำบ่นต่อว่าของพวกท่านต่อพระเจ้าทราบถึงพระองค์แล้ว เราทั้งสองเป็นผู้ใดเล่า พวกท่านจึงมาบ่นต่อว่าเรา>>


โมเสสจึงกล่าวแก่อาโรนว่า <<จงบอกชุมนุมชนชาติอิสราเอลทั้งปวงว่า <เข้ามาใกล้พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงสดับคำบ่นของท่านแล้ว> >>


ความสว่างแห่งอิสราเอลจะเป็นไฟ และองค์บริสุทธิ์ของท่านจะกลายเป็นเปลวเพลิง และจะเผาและกินเสียในวันเดียว ซึ่งหนามใหญ่และหนามย่อยของเขา


เพราะที่สำหรับเผาก็จัดไว้นานแล้ว เออ เตรียมไว้สำหรับพระราชา เชิงตะกอนก็ลึกและกว้าง พร้อมไฟและฟืนมากมาย คือ พระปัสสาสะของพระเจ้าเหมือนธารกำมะถันมาจุดให้ลุก


คนบาปในศิโยนก็กลัว ความสะทกสะท้านเข้าสิงคนไร้พระ <<ใครในพวกเราที่อยู่กับไฟที่เผาผลาญได้ ใครในพวกเราจะอาศัยอยู่กับการไหม้เป็นนิตย์ได้>>


มนุษย์เป็นๆจะไปบ่นเอากับใคร คือมนุษย์ที่ถูกทำโทษเพราะบาปของตน


เราเข้าสู่การพิพากษากับบรรพบุรุษของเจ้าใน ถิ่นทุรกันดารแห่งแผ่นดินอียิปต์อย่างไร พระเจ้าตรัสว่า เราจะเข้าสู่การพิพากษากับเจ้าอย่างนั้น


ไฟก็พุ่งขึ้นมาจากที่พระเจ้าประทับไหม้เขาทั้งสอง และเขาก็ตายต่อพระพักตร์พระเจ้า


ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ภูเขาก็สั่นสะเทือน และเนินเขาก็ละลายไป แผ่นดินก็เริศร้างต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ เออ ทั้งโลกและสิ่งที่อาศัยอยู่ในโลกด้วย


โรคระบาดเดินนำหน้าพระองค์ ภัยพิบัติมาชิดตามหลังพระองค์


เขาทั้งหลายก็ออกเดินจากภูเขาของพระเจ้าระยะทางสามวัน หีบพันธสัญญาของพระเจ้านำหน้าเขาไปสามวันเพื่อหา ที่พักให้เขา


และจงกล่าวแก่คนทั้งปวงว่า <ท่านทั้งหลายจงชำระตัวให้บริสุทธิ์สำหรับพรุ่งนี้ ท่านจะได้รับประทานเนื้อเพราะท่านร้องไห้ต่อพระเนตร พระกรรณของพระเจ้าว่า <<ผู้ใดจะให้เนื้อเรากิน เมื่อเราอยู่ในอียิปต์เราก็สุขสบาย>> เพราะเหตุนี้พระเจ้าจะทรงประทานเนื้อให้ท่านทั้งหลาย รับประทาน


เขาทั้งสองกล่าวว่า <<พระเจ้าตรัสทางโมเสสคนเดียวเท่านั้นจริงหรือ พระองค์ไม่ตรัสทางเราบ้างหรือ>> พระเจ้าทรงได้ยิน


บรรดาคนอิสราเอลได้บ่นว่าโมเสสและอาโรน ชุมนุมชนทั้งหมดกล่าวแก่ท่านว่า <<ให้เราตายเสียที่อียิปต์ หรือให้เราตายเสียที่ถิ่นทุรกันดารนี้ก็ดีกว่า


คนทั้งหลายที่ได้เห็นพระสิริของเรา และได้เห็นการอัศจรรย์สำคัญที่เราได้กระทำในอียิปต์ และในถิ่นทุรกันดาร และยังได้ทดลองเรามาตั้งสิบครั้ง และยังมิได้เชื่อฟังเสียงของเรา


<<เราจะทนชุมนุมชนชั่วร้ายนี้บ่นต่อเรานานสักเท่าใด เราได้ยินเสียงบ่นของคนอิสราเอลซึ่งเขาบ่นว่าเรา


เจ้าจงกล่าวแก่เขาว่า พระเจ้าตรัสว่า <เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะกระทำสิ่งที่เจ้าทั้งหลายบ่นให้เราได้ยินแก่ เจ้าฉันนั้น


เพราะฉะนั้นที่ท่านและพรรคพวกของท่านได้ ประชุมกันก็เป็นการต่อสู้พระเจ้า ส่วนอาโรนเป็นอะไรเล่าที่ท่านได้บ่นว่าเขา>>


และไฟออกมาจากพระเจ้า เผาผลาญคนทั้งสองร้อยห้าสิบที่ได้ถวายเครื่องหอมนั้นเสีย


และไม้เท้าของชายผู้ที่เราโปรดเลือกนั้นจะงอก เช่นนี้เราจะกระทำให้เสียงบ่นของคนอิสราเอล ซึ่งเขาบ่นต่อเจ้าสงบลงเสียจากเรา>>


และประชาชนก็บ่นว่าพระเจ้าและว่าโมเสสว่า <<ทำไมพาเราออกจากอียิปต์มาตายในถิ่นทุรกันดาร เพราะไม่มีอาหารและไม่มีน้ำ เราเบื่ออาหารอันไร้ค่านี้>>


อย่าให้เราบ่นเหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้บ่น แล้วก็ต้องพินาศด้วยองค์เพชฌฆาต


เขาได้ออกโจมตีท่านตามทาง เมื่อท่านอ่อนเพลียเมื่อยล้าและ ตัดตอนพวกที่อยู่รั้งท้าย เขามิได้ยำเกรงพระเจ้า


เพราะมีไฟก่อขึ้นด้วยเหตุความกริ้วของเรานั้น ไฟก็ไหม้ลุกลามไปจนถึงก้นลึกของแดนผู้ตาย เผาแผ่นดินโลกและพืชผลในนั้น และก่อเพลิงติดรากขุนเขา


<<ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธที่ ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์


เพราะว่าพระเจ้าของเรานั้นทรงเป็นเพลิงที่เผาผลาญ


นี่แน่ะ ค่าจ้างของคนที่ได้เกี่ยวข้าวในนาของท่านซึ่งท่านได้ฉ้อโกงไว้นั้น ก็ร้องฟ้องขึ้น และเสียงร้องทุกข์ของคนที่เกี่ยวข้าวนั้น ได้ทรงทราบถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาแล้ว


คนเหล่านั้นมักเป็นคนบ่น และพร่ำทับถมตนเอง และประพฤติตามตัณหาอันชั่วของตัว คุยอวดเสียงขรม และยกยอผู้อื่นเพื่อหวังประโยชน์ของตน


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan