Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




อาฤธโม 10:10 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

10 ในวันที่เจ้าทั้งหลายมีความยินดี และในงานเทศกาลและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้าจงเป่าแตรเหนือเครื่องเผาบูชาและเหนือสัตวบูชา อันเป็นเครื่องศานติบูชา เป็นที่ให้พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงเจ้า เราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า>>

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

10 ในวันที่เจ้าทั้งหลายมีความยินดีในงานเทศกาลเลี้ยงและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้าจงเป่าแตรเหนือเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเหนือเครื่องบูชาที่เป็นศานติบูชา ซึ่งจะทำให้พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงพวกเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

10 ในวั​นที​่​เจ้​าทั้งหลายมี​ความยินดี และในงานเทศกาลและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้​าจงเป่าแตรเหนือเครื่องเผาบูชาและเหนือสัตวบูชาอันเป็นเครื่องสันติ​บูชา เป็​นที​่​ให้​พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงเจ้า เราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

10 จงเป่าแตรทั้งสองในเทศกาลรื่นเริงของเจ้าด้วย ในเทศกาลต่างๆ ตามเวลาที่กำหนดและวันต้นเดือน เพื่อฉลองเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชา เป็นอนุสรณ์ให้นึกถึงเจ้าต่อหน้าพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

10 ใน​เวลา​ที่​พวก​เจ้า​มี​งาน​รื่นเริง งาน​เทศกาล​ต่างๆ​และ​งาน​ฉลอง​เริ่ม​เดือน​ใหม่ ให้​พวกเจ้า​เป่า​แตร เมื่อ​พวกเจ้า​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​และ​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา​ของ​พวกเจ้า เสียง​แตร​จะ​เป็น​วิธี​ที่​ทำ​ให้​พระเจ้า​นึก​ถึง​เจ้า เรา​คือ​ยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวก​เจ้า”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

10 แล​ใน​วันที่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มี​ความ​ยินดี, แล​ใน​วันที่​ประชุม​เป็น​การ​เลี้ยง​แล​ใน​วันที่​เป็น​เดือน​ใหม่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​เป่า​แตร​เหนือ​เครื่อง​เผา​บูชา, แล​เครื่อง​บูชา​โมทนา​พระ​คุณ​เพื่อ​ของ​เหล่านี้​จะ​เป็น​ที่​ให้​พระ​เจ้าของ​เจ้า​ระลึก​ถึง​เจ้า​ทั้ง​หลาย, เรา​เป็น​ยะ​โฮ​วา​เป็น​พระ​เจ้าของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย.”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




อาฤธโม 10:10
34 Iomraidhean Croise  

และเขาถามว่า <<จะไปหาท่านทำไมใน วันนี้ไม่ใช่วันขึ้นค่ำหรือวันสะบาโต>> นางตอบว่า <<ก็ดีอยู่แล้ว>>


เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์ และเอลีเอเซอร์ปุโรหิตได้เป่าแตรหน้าหีบของพระเจ้า โอเบดเอโดมและเยฮีห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบด้วย


ดังนี้แหละคนอิสราเอลทั้งปวง ได้นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าขึ้นมาด้วยเสียงโห่ร้อง เสียงเป่าเขา เสียงแตร และฉาบ และทำเพลงเสียงดังด้วยพิณใหญ่และพิณเขาคู่


และพร้อมกับเขาเฮมานและเยดูธูน มีแตรและฉาบเพื่อบรรเลง และเครื่องดนตรีประกอบเพลงถวายพระเจ้า บุตรหลานของเยดูธูนได้รับแต่งตั้งให้ประจำประตู


คนเลวีก็ยืนอยู่ ถือเครื่องดนตรีของดาวิด และปุโรหิตถือแตร


ชุมนุมชนทั้งสิ้นก็นมัสการ และนักร้องก็ร้องเพลง และคนดนตรีก็เป่าแตร ทำอย่างนี้อยู่จนถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ


บรรดาปุโรหิตก็ยืนประจำตำแหน่งของตน ทั้งคนเลวีด้วยพร้อมกับเครื่องดนตรีถวายแด่พระเจ้า ซึ่งกษัตริย์ดาวิดได้ทรงกระทำเพื่อถวายโมทนาแด่พระเจ้า เมื่อดาวิดได้ถวายสาธุการด้วยฝีมือของเขาทั้งหลาย (เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์) และปุโรหิตก็เป่าแตรข้างหน้าเขา และอิสราเอลทั้งปวงยืนอยู่


และเมื่อช่างก่อได้วางรากของพระวิหารแห่งพระเจ้า บรรดาปุโรหิตก็แต่งเครื่องยศออกมาพร้อมกับแตรและคนเลวี พงศ์พันธุ์ของอาสาฟ พร้อมกับฉาบ ถวายสรรเสริญพระเจ้าตามพระราชกำหนดของดาวิด พระราชาแห่งอิสราเอล


และพวกปุโรหิตบางคนที่มีแตร คือ เศคาริยาห์ บุตรโยนาธาน ผู้เป็นบุตรเชไมอาห์ ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ ผู้เป็นบุตรมีคายาห์ ผู้เป็นบุตรศักเกอร์ ผู้เป็นบุตรอาสาฟ


จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตร จงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณเขาคู่และพิณใหญ่


จงเป่าแตรเมื่อวันขึ้นค่ำ เมื่อวันเพ็ญ ณ วันการเลี้ยงของเรา


เพราะเป็นกฎเกณฑ์สำหรับอิสราเอล เป็นระเบียบของพระเจ้าแห่งยาโคบ


ชนชาติที่รู้จักโห่ร้องอย่างชื่นบานก็เป็นสุข ข้าแต่พระเจ้า คือผู้ที่เดินในสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์


อาโรนจึงจะมีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอล จารึกไว้ที่ทับทรวง สำหรับแต่งเวลาพิพากษาติดไว้ที่อกของตน ให้เป็นที่ระลึกต่อพระพักตร์พระเจ้าเสมอ เมื่อเขาเข้าไปในวิสุทธิสถานนั้น


จงเก็บเงินค่าไถ่จากชนชาติอิสราเอล และจงกำหนดเงินไว้ใช้จ่ายในเต็นท์นัดพบ เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงระลึกถึงชนชาติอิสราเอล สำหรับการไถ่ชีวิตของเจ้าทั้งหลาย>>


และในวันนั้นเขาจะเป่าเขาสัตว์ใหญ่ และบรรดาผู้ที่กำลังพินาศอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรีย และบรรดาผู้ถูกขับไล่ออกไปยังแผ่นดินอียิปต์จะมานมัสการพระเจ้า บนภูเขาบริสุทธิ์ที่เยรูซาเล็ม


<<จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร


และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะไปทำศึกในแผ่นดินของเจ้า สู้ศัตรูผู้มาบีบบังคับเจ้า ก็ให้เป่าแตรทำเสียงปลุก เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงเจ้า และช่วยเจ้าให้พ้นจากศัตรูของเจ้า


<<เวลาต้นเดือนทุกเดือน เจ้าทั้งหลายจงถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้า คือวัวหนุ่มสองตัว แกะผู้ตัวหนึ่ง ลูกแกะผู้หนึ่งขวบ ไม่มีตำหนิเจ็ดตัว


<<ในวันที่หนึ่งเดือนที่เจ็ดเจ้าจงมีการประชุมบริสุทธิ์ เจ้าอย่าทำงานหนัก เป็นวันให้เจ้าทั้งหลายเป่าแตร


บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข


และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดูทูตองค์นั้น ด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า <<นี่เป็นประการใด พระเจ้าข้า>> ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า <<คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว


ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีเสียงแตร และคนที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาปราศจากเน่าเปื่อย แล้วเราทั้งหลายจะถูกเปลี่ยนแปลงใหม่


ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดีและด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน


เหตุฉะนั้นจงปลอบใจกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด


แล้วท่านจงตอบว่า <<น้ำที่จอร์แดนขาดจากกันต่อหน้าหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า เมื่อหีบนั้นข้ามจอร์แดน น้ำก็ขาดจากกัน ศิลาเหล่านี้จะเป็นอนุสรณ์เป็นนิตย์แก่ประชาชนอิสราเอล>>


ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบ และในวันที่เจ็ดนั้นเจ้าทั้งหลายจงเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้ปุโรหิตเป่าเขาแกะไปด้วย


พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า <<เชิญมาเถิด>> และให้ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวว่า <<เชิญมาเถิด>> และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา ผู้ใดมีใจปรารถนา ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย


ดาวิดจึงกล่าวกับโยนาธานว่า <<ดูเถิด พรุ่งนี้เป็นวันขึ้นค่ำ ข้าพเจ้าไม่ควรขาดที่จะนั่งร่วมโต๊ะเสวยกับพระราชา แต่ขอโปรดให้ข้าพเจ้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ในทุ่งนา จนถึงเย็นวันที่สาม


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan