Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 8:10 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

10 เพราะฉะนั้น เราจะให้ภรรยาของเขาตกไปเป็นของคนอื่น ให้ไร่นาของเขาตกแก่ผู้ที่จะได้รับ เพราะว่าตั้งแต่คนที่ต่ำต้อยที่สุดถึงคนที่ใหญ่โตที่สุด ทุกคนโลภอยากได้กำไร ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะถึงปุโรหิต ทุกคนก็ทำการฉ้อเขา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

10 เพราะฉะนั้น เราจะให้ภรรยาของพวกเขาตกไปเป็นของคนอื่น ให้ไร่นาของเขาตกแก่ผู้ที่จะยึดเอา เพราะว่าตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด ทุกคนโลภอยากได้กำไรที่ไม่ยุติธรรม ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะถึงปุโรหิต ทุกคนต่างฉ้อฉล

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

10 เพราะฉะนั้น เราจะให้ภรรยาของเขาตกไปเป็นของคนอื่น ให้​ไร่​นาของเขาตกแก่​ผู้​ที่​จะได้รับเป็นมรดก เพราะว่าตั้งแต่​คนที​่ต่ำต้อยที่สุดถึงคนที่​ใหญ่​โตที่​สุด ทุ​กคนโลภอยากได้​กำไร ตั้งแต่​ผู้​พยากรณ์​ถึงปุโรหิต ทุ​กคนก็ทำการฉ้อเขา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

10 ฉะนั้นเราจะยกภรรยาของพวกเขาให้ชายอื่น และยกที่นาของพวกเขาให้เจ้าของคนใหม่ ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด ล้วนโลภมุ่งกำไร พวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตก็ไม่ต่างกัน ล้วนโกหกหลอกลวง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

10 ดังนั้น​เรา​จะ​ยก​เมีย​ของ​พวกเขา​ไป​ให้​กับ​คนอื่น แล้ว​ก็​ยก​ไร่นา​ของ​พวกเขา​ไป​ให้​กับ​พวก​เจ้าของ​ใหม่ เพราะ​จาก​คน​ที่​ยากจน​ที่สุด​ไป​จนถึง​คน​รวย​ที่สุด​ก็​ล้วนแต่​มี​แนวโน้ม​ที่​จะ​หา​ผล​ประโยชน์​จาก​ความ​รุนแรง และ​จาก​พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ไป​จนถึง​พวก​นักบวช ต่าง​ก็​พูด​โกหก

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

10 เหตุ​ฉะนี้​เรา​จะ​เอา​ภรรยา​ของ​เขา​ยก​ให้แก่​คน​อื่น, แล​จะ​ยก​ไร่นา​ของ​เขา​ให้แก่​คน​ที่​จะ​เข้า​มฤ​ดก​นั้น, เพราะ​ทุก​ตัว​คน​ตั้งแต่​เล็ก​ที่สุด​จนถึง​ใหญ่​ที่สุด​ต้อง​เข้า​ด้วย​ความ​โลภ, ตั้งแต่​ผู้ทำ​นาย​จนชั้น​พวก​ปุโรหิต​ได้​ทำ​การ​ฉ้อ​ทุก​ตัว​คน.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 8:10
28 Iomraidhean Croise  

แล้วก็ขอให้ภรรยาของข้าโม่แป้งให้คนอื่น และให้คนอื่นโน้มทับนาง


เขาเหล่านี้ซมซานไปด้วยเหล้าองุ่นเหมือนกัน และโซเซไปด้วยเมรัย ปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะก็ซมซานไปด้วยเมรัย เขาทั้งหลายมึนตื้อไปด้วยเหล้าองุ่น เขาโซเซไปด้วยเมรัย เขาเห็นผิดไป เขาสะดุดในการให้คำพิพากษา


เราโกรธเพราะความบาปผิดแห่งความโลภของเขา เราตีเขา เราซ่อนตัวและโกรธ แต่เขายังหันกลับเดินตามชอบใจของเขาอยู่


และพระเจ้าตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า <<พวกผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นเผยพระวจนะเท็จในนามของเรา เรามิได้ใช้เขาทั้งหลาย และเรามิได้บัญชาเขาหรือพูดกับเขา เขาเผยนิมิตเท็จแก่เจ้าทั้งหลายเป็นการทำนายที่ไร้ค่า เป็นการล่อลวงของจิตใจเขาเอง


ถ้าเราออกไปในท้องนา ดูเถิด นั่นคนที่ถูกฆ่าเสียด้วยดาบ ถ้าเราเข้าไปในกรุง ดูเถิด นั่นโรคอันเนื่องจากการกันดาร เพราะว่าทั้งพวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตไปค้ากันในแผ่นดิน และไม่มีความรู้> >>


เหมือนนกกระทาที่รวบรวมลูกซึ่งมันมิได้ฟักฉันใด คนที่ได้ความมั่งมีมาอย่างไม่เป็นธรรมก็ฉันนั้น พอถึงกลางวัย มันก็พรากจากคนนั้นเสีย และในตอนปลายของเขาเขาจะเป็นคนโฉดเขลา


แต่เจ้ามีตาและใจ ไว้เพียงมุ่งกำไรอสัตย์ของเจ้า เพื่อหลั่งโลหิตที่ไร้ความผิดให้ถึงตาย และเพื่อปฏิบัติการบีบบังคับและความทารุณ>>


เพราะว่าความชั่วทั้งสิ้นของพงศ์พันธุ์อิสราเอล และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ซึ่งเขาได้กระทำอันยั่วเย้าให้โกรธ คือทั้งตัวเขา บรรดากษัตริย์และเจ้านายของเขา บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะของเขา คนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม


ดูเถิด บรรดาผู้หญิงที่เหลืออยู่ในวังของกษัตริย์ แห่งยูดาห์ได้ถูกนำออกไปให้เจ้านายของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และว่า <เพื่อนที่พระองค์ไว้วางใจได้หลอกลวงพระองค์ และได้ชนะพระองค์แล้ว เมื่อพระบาท ของพระองค์จมลงในโคลนแล้ว เขาทั้งหลายก็หันไปจากพระองค์>


ฝ่ายผู้หัวหน้ากองทหารและโยฮานันบุตรคาเรอาห์ และอาซาริยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชาชนทั้งปวง จากผู้น้อยที่สุดถึงผู้ใหญ่ที่สุดได้เข้ามาใกล้


คือผู้เผยพระวจนะได้เผยพระวจนะเท็จ และบรรดาปุโรหิตก็ปกครองตามการชี้นิ้วของเขา และประชากรของเราชอบที่มีการอย่างนี้ แต่เจ้าทั้งหลายจะกระทำอะไรเมื่อกาลสุดปลายมาถึง


เพราะความผิดบาปของพวกผู้เผยพระวจนะของกรุงศิโยน และเพราะการบาปผิดของพวกปุโรหิตของกรุงนั้น ที่ได้กระทำโลหิตของผู้ชอบธรรม ให้ไหลออกในท่ามกลางกรุง


และเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ชาวตลาดมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชากรของเรา เขาฟังสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาไม่ยอมกระทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักมากด้วยปากของเขา แต่จิตใจของเขามุ่งอยู่ที่ผลกำไรของเขา


เพราะว่าเขาทั้งหลายเหยียบย่ำคนยากจน และเอาส่วยข้าวสาลีไปเสียจากเขา เจ้าจึงสร้างตึกด้วยศิลาสกัด แต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในตึกนั้น เจ้าทำสวนองุ่นที่ร่มรื่น แต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น


ในครั้งนั้นจะมีคนร้องขึ้นแทนเจ้า และจะร่ำไห้ด้วยการโอดครวญอย่างขมขื่น ว่า <<พวกเราพินาศอย่างสิ้นเชิงแล้ว พระองค์ทรงเปลี่ยนที่ดินกรรมสิทธิ์แห่งชนชาติของข้า พระองค์ทรงถอนไปจากข้าเสียแล้วหนอ พระองค์ทรงแบ่งไร่นาของพวกเรา ให้แก่บรรดาคนที่จับกุมพวกเรา>>


ผู้เป็นประมุขของเมืองนี้ตัดสินความด้วยเห็นแก่สินบน ปุโรหิตของเธอสั่งสอนด้วยเห็นแก่สินจ้าง ผู้เผยพระวจนะของเธอทำนายด้วยเห็นแก่เงิน ถึงกระนั้นเขาทั้งหลายยังอิงพระเจ้าและกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางเรามิใช่หรือ ไม่มีความชั่วอย่างไรเกิดขึ้นแก่เราได้>>


พระเจ้าตรัสเกี่ยวด้วยเรื่องผู้เผยพระวจนะ ผู้ที่นำชนชาติของข้าพเจ้าให้หลงไป ผู้ที่ร้องว่า <<จงเป็นสุขเถิด>> เมื่อเขามีอะไรรับประทาน แต่เขาประกาศสงคราม ต่อผู้ที่ไม่ยื่นอะไรใส่ปากของเขา


เพราะนี่แน่ะ เรากำลังเร้าคนเคลเดีย ประชาชาติที่ขมขื่นและรีบร้อนนั้น ผู้กรีธาทัพไปทั่วโลก เพื่อยึดเอาบ้านเรือนที่มิใช่ของตน


ทรัพย์สิ่งของของเขาจะถูกปล้น และเรือนของเขาจะเริศร้าง ถึงเขาจะสร้างเรือน เขาก็จะไม่ได้อยู่ในเรือนนั้น ถึงเขาจะทำสวนองุ่น เขาจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น>>


จำเป็นต้องให้เขาสงบปากเสีย ด้วยเขาพลิกบ้านคว่ำทั้งครัวเรือนให้เสียไป โดยสอนสิ่งที่ไม่ควรจะสอนเลย เพราะมักได้


เพราะว่าผู้ปกครองดูแลนั้น ในฐานะที่เป็นผู้รับมอบฉันทะจากพระเจ้า ต้องเป็นคนที่ไม่มีข้อตำหนิ ไม่เป็นคนเย่อหยิ่ง ไม่เป็นคนเลือดร้อน ไม่เป็นนักเลงสุรา ไม่เป็นนักเลงหัวไม้ และไม่เป็นคนโลภมักได้


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan