Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 6:10 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

10 ข้าพเจ้าควรจะพูดและให้คำตักเตือนแก่ผู้ใดดีนะ เพื่อเขาจะได้เชื่อฟัง ดูเถิด หูของเขาตันเสียแล้ว เขาฟังไม่ได้ ดูเถิด พระวจนะของพระเจ้าเป็นสิ่งที่เขาดูแคลน เขาไม่พอใจฟัง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

10 ข้าพเจ้าควรจะพูดและให้คำตักเตือนแก่ใคร เพื่อเขาจะได้เชื่อฟัง? ดูสิ หูของเขาตันเสียแล้ว เขาฟังไม่ได้ นี่แน่ะ พระวจนะของพระยาห์เวห์เป็นสิ่งที่เขาดูแคลน เขาไม่พอใจฟัง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

10 ข้าพเจ้าควรจะพูดและให้คำตักเตือนแก่​ผู้​ใดดี​นะ เพื่อเขาจะได้​ยิน ดู​เถิด หู​ของเขาตันเสียแล้ว เขาฟังไม่​ได้ ดู​เถิด พระวจนะของพระเยโฮวาห์เป็นสิ่งที่เขาดู​หมิ่น เขาไม่พอใจฟัง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

10 จะให้ข้าพเจ้าพูดและเตือนใครได้? ใครจะฟังข้าพเจ้า? หูของพวกเขาถูกอุด พวกเขาจึงไม่ได้ยิน พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าระคายหูของพวกเขา พวกเขาจึงไม่อยากฟัง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

10 เรา​ควร​จะ​พูด​หรือ​เตือน​ใครดี ใคร​หรือ​ที่​จะ​ฟังเรา พวกเขา​ไม่ยอม​ฟัง​และ​ไม่สามารถ​ตั้งใจฟัง​ได้ พวกเขา​หัวเราะ​เยาะ​ข่าวสาร​ของ​พระยาห์เวห์ พวกเขา​ไม่อยากฟัง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

10 ข้าพ​เจ้า​จะ​พูด​แก่​ผู้ใด, แล​จะ​ว่า​ให้​ระวัง​ตัว​แก่​ผู้ใด, เพื่อ​เขา​ทั้งปวง​จะ​ได้​ฟัง​เล่า. ดู​เถิด​หู​ของ​พวกเขา​เป็น​แข็ง​กะ​ด้าง, และ​เขา​จะ​ได้ยิน​มิได้, นี่​แน่ะ, คำ​โอวาท​ของ​พระ​ยะ​โฮ​วา​เป็น​ที่​ดูหมิ่น​ดูถูก​แก่​เขา, แล​เขา​ไม่​ได้ยิน​ดี​ใน​คำ​นั้น.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 6:10
40 Iomraidhean Croise  

แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน


ข้าพระองค์จะปีติยินดีในกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ลืมพระวจนะของพระองค์ (ค)


ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์กระหายความรอดของพระองค์ และพระธรรมของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์


บรรดาพระโอวาทของพระองค์ เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์ เป็นที่ปรึกษาของข้าพระองค์ (ง)


ขอโปรดให้ข้าพระองค์ไปในมรรคาพระบัญญัติของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ยินดีในมรรคานั้น


จิตใจของเขาทั้งหลายต่ำช้าเหมือนไขมัน แต่ข้าพระองค์ปีติยินดีในพระธรรมของพระองค์


ขอพระกรุณาของพระองค์มายังข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเป็นอยู่ เพราะพระธรรมของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์


ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปีติยินดีที่กระทำตามน้ำพระทัยพระองค์ พระธรรมของพระองค์อยู่ในจิตใจของ ข้าพระองค์>>


แต่โมเสสกราบทูลพระเจ้าว่า <<แม้แต่ชนชาติอิสราเอลก็มิได้เชื่อฟังข้าพระองค์ ฟาโรห์จะเชื่อฟังข้าพระองค์อย่างไร ข้าพระองค์เป็น คนพูดไม่คล่อง>>


เจ้าเห็นหลายอย่าง แต่มิได้สังเกต หูของเขาผึ่ง แต่เขามิได้ยิน


ใครเล่าจะเชื่อสิ่งที่เราทั้งหลายได้ยิน พระกรของพระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ผู้ใด


<<พระเจ้าจอมโยธาพระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปบอกบรรดาผู้ชายของยูดาห์ และบอกชาวกรุงเยรูซาเล็มว่า พระเจ้าตรัสว่า เจ้าจะไม่รับคำแนะนำและเชื่อฟังถ้อยคำของเราหรือ


ดูก่อน คนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเอาตัวรับพิธีเข้าสุหนัตถวายแด่พระเจ้า จงตัดหนังปลายหัวใจของเจ้าเสีย เกรงว่าความกริ้วของเราจะพลุ่งออกไปอย่างไฟ และเผาไหม้ไม่มีใครจะดับได้ เหตุด้วยความชั่วแห่งการกระทำทั้งหลายของเจ้า>>


<<ชนชาติที่โง่เขลาและไร้ความคิดเอ๋ย ผู้มีตา แต่มองไม่เห็น ผู้มีหู แต่ฟังไม่ได้ยิน จงฟังข้อความนี้


พระเจ้าตรัสว่า และบัดนี้ เพราะเจ้าทั้งหลายได้กระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น และเมื่อเราพูดกับเจ้าอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เจ้าทั้งหลายหาได้ฟังไม่ และเมื่อเราได้เรียกพวกเจ้า แต่เจ้ามิได้ตอบ


ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ฟังเรา หรือเงี่ยหูฟัง แต่ได้กระทำให้คอของตนแข็ง เขาได้กระทำชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษทั้งหลายของเขาเสียอีก


อียิปต์ ยูดาห์ เอโดม และคนอัมโมน โมอับและทุกคนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร บรรดาคนที่โกนผมจอนหู เพราะบรรดาประชาชาติเหล่านี้มิได้รับพิธีเข้าสุหนัต และบรรดาประชาอิสราเอลก็มิได้รับพิธีเข้าสุหนัตทางใจ>>


แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ยอมฟังเจ้า เพราะเขาไม่ยอมฟังเรา เพราะว่าพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งสิ้น เป็นคนหัวแข็งและจิตใจดื้อดึง


และถ้าเขาเห็นดาบมาเหนือแผ่นดินจึงเป่า เขาสัตว์และตักเตือนประชาชน


แต่ถ้าเจ้าได้ตักเตือนคนอธรรมให้หันกลับ จากทางของเขาแล้ว แต่เขาไม่หันกลับจากทางของเขา เขาจะตายเพราะความบาปชั่วของเขา แต่เจ้าจะช่วยชีวิตของเจ้าเองให้รอด


แล้วอามาซิยาห์ปุโรหิตแห่งเบธเอลส่ง คนไปยังเยโรโบอัมกษัตริย์แห่งอิสราเอล ทูลว่า <<อาโมสได้คิดกบฏต่อพระองค์ ในท่ามกลางพงศ์พันธุ์อิสราเอล บรรดาถ้อยคำของเขาก็หนักแผ่นดิน


ครั้นยอห์นเห็นพวกฟาริสี และพวกสะดูสีพากันมาเป็นอันมาก เพื่อจะรับบัพติศมา ท่านจึงกล่าวแก่เขาว่า <<เจ้าชาติงูร้าย ใครได้เตือนเจ้าให้หนีจากพระอาชญาซึ่งจะมาถึงนั้น


บาเรียนคนหนึ่งทูลพระองค์ว่า <<อาจารย์เจ้าข้า ซึ่งท่านว่าอย่างนั้น ท่านก็ติเตียนพวกเราด้วย>>


ฝ่ายพวกธรรมาจารย์และพวกมหาปุโรหิตรู้อยู่ว่า พระองค์ได้ตรัสคำอุปมานั้นกระทบพวกเขาเอง จึงอยากจะจับพระองค์ในเวลานั้น แต่เขากลัวประชาชน


โลกจะเกลียดชังพวกท่านไม่ได้ แต่โลกเกลียดชังเรา เพราะเราเป็นพยานว่าการงานของโลกนั้นชั่วร้าย


เมื่อพวกฟาริสีที่อยู่ใกล้พระองค์ได้ยินอย่างนั้น จึงกล่าวแก่พระองค์ว่า <<เราตาบอดด้วยหรือ>>


<<โอ คนชาติหัวแข็งใจดื้อหูตึง ท่านทั้งหลายขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ บรรพบุรุษของท่านทำอย่างไร ท่านก็ทำอย่างนั้นด้วย


สเทเฟนก็คุกเข่าลงร้องเสียงดังว่า <<ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอโปรดอย่าทรงถือโทษเขาเพราะบาปนี้>> เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้วก็ล่วงหลับไป


เพราะว่าส่วนลึกในใจของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าชื่นชมในธรรมบัญญัติของพระเจ้า


แต่จนกระทั่งวันนี้พระเจ้ามิได้ประทานจิตใจที่เข้าใจ ตาที่มองเห็นได้ และหูที่ยินได้ให้แก่ท่าน


พระองค์นั้นแหละเราประกาศอยู่ โดยเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนให้มีสติปัญญาทุกอย่าง เพื่อจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่แล้วในพระคริสต์


เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนที่มีหลักไม่ได้ แต่เขาจะรวบรวมครูไว้ให้สอนในสิ่งที่เขาชอบฟัง เพื่อบรรเทาความอยาก


เพราะโนอาห์มีความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อพระเจ้าทรงเตือนให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่ปรากฏ ท่านจึงยำเกรงและต่อเรือใหญ่ เพื่อช่วยครอบครัวของตนให้รอดพ้นจากความตาย และด้วยเหตุนี้เองท่านจึงได้ติเตียนชาวโลก และได้เป็นทายาทแห่งความชอบธรรม ซึ่งบังเกิดมาจากความเชื่อ


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan