Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 5:12 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

12 เขาทั้งหลายพูดมุสาในเรื่องพระเจ้า และได้กล่าวว่า <พระองค์มิได้ทรงกระทำประการใด ไม่มีการร้ายอันใดจะเกิดขึ้นแก่เรา เราก็จะไม่เห็นดาบหรือการกันดารอาหาร

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

12 เขาทั้งหลายพูดมุสาในเรื่องพระยาห์เวห์ และได้กล่าวว่า “พระองค์จะไม่ทรงกระทำอะไร ไม่มีการร้ายใดจะเกิดขึ้นกับเรา เราจะไม่เห็นดาบหรือการกันดารอาหาร”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

12 เขาทั้งหลายพู​ดม​ุสาในเรื่องพระเยโฮวาห์ และได้​กล่าวว่า “​พระองค์​มิได้​ทรงกระทำประการใด ไม่มี​การร้ายอันใดจะเกิดขึ้นแก่​เรา เราก็จะไม่​เห​็นดาบหรือการกันดารอาหาร

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

12 พวกเขาโกหกเกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์จะไม่ทรงทำอะไรหรอก! จะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับเรา เราจะไม่มีวันเห็นการฆ่าฟันหรือการกันดารอาหาร

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

12 พวกเขา​พูด​โกหก​เกี่ยว​กับ​พระยาห์เวห์ พวกเขา​พูด​ว่า “พระองค์​จะ​ไม่​ทำอะไร​พวกเรา​หรอก เรื่อง​ร้ายๆ​จะ​ไม่เกิดขึ้น​กับเรา​หรอก และ​เรา​ก็​จะ​ไม่เจอ​กับ​สงคราม​และ​ความอดอยาก”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

12 เขา​ทั้งปวง​ได้​มุสา​แก่​พระ​ยะ​โฮ​วา, แล​เขา​ได้​ว่า​ไม่​ใช่​พระองค์, แล​ความ​ร้าย​จะ​มา​เหนือ​พวกเรา​มิได้, แล​กะ​บี่​แล​ข้าว​แพง​จะ​ไม่​มา,

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 5:12
25 Iomraidhean Croise  

แต่เขาทั้งหลายเยาะเย้ยทูตของพระเจ้าอยู่เสมอ และดูหมิ่นพระวจนะของพระองค์ และด่าผู้เผยพระวจนะ ของพระองค์ จนพระพิโรธของพระเจ้าพลุ่งขึ้นต่อประชากรของ พระองค์จนแก้ไม่ไหว


โดยคิดในใจของเขาว่า <<ข้าจะไม่หวั่นไหว ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ของข้าจะไม่พบความยากลำบากเลย>>


คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า <<ไม่มีพระเจ้า>> เขาทั้งหลายก็เลวทรามลง กระทำกิจการที่น่าเกลียดน่าชัง ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี


เกรงว่าข้าพระองค์จะอิ่ม และปฏิเสธพระองค์ แล้วพูดว่า <<พระเจ้าเป็นผู้ใดเล่า>> หรือเกรงว่าข้าพระองค์จะยากจนและขโมย และกระทำให้พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์เป็นมลทิน


ในบรรดาพระเทียมเท็จแห่งประชาชาติทั้งหลายมีพระองค์ใดเล่าที่ทำให้เกิดฝนได้ หรือท้องฟ้าประทานห่าฝนได้หรือ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ พระองค์มิใช่พระเจ้าองค์นั้นดอกหรือ พวกข้าพระองค์คอยหวังในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น


เขาทั้งหลายมิได้กล่าวว่า <พระเจ้าประทับที่ไหน ผู้ได้พาเราขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์ ผู้ได้นำเราอยู่ในป่าถิ่นทุรกันดาร ในแดนทะเลทรายมีหลุม ในแดนที่กันดารน้ำและมีความมืดทึบ ในแผ่นดินที่ไม่มีผู้ใดผ่านไปได้ และไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ที่นั่น>


เราจะนำเยโคนิยาห์ราชบุตรของเยโฮยาคิม กษัตริย์แห่งยูดาห์ และบรรดาผู้ที่ถูกกวาดจากยูดาห์ ผู้ซึ่งไปยังบาบิโลน พระเจ้าตรัสดังนี้แหละว่า เพราะเราจะหักแอกของกษัตริย์แห่งบาบิโลน>>


แล้วข้าพเจ้าจึงทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงล่อลวงชนชาตินี้ และกรุงเยรูซาเล็มแน่นอนทีเดียว ว่า <เจ้าทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข> แต่ที่จริงดาบได้มาถึงชีวิตของเขาทั้งหลาย>>


เมื่อเยเรมีย์จบการพูดต่อประชาชนทั้งปวง ถึงพระวจนะเหล่านี้ทั้งสิ้นของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเขาทั้งหลาย ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาได้ทรงใช้ท่านให้ไป พูดกับเขาทั้งหลายนั้นแล้ว


คือผู้เผยพระวจนะได้เผยพระวจนะเท็จ และบรรดาปุโรหิตก็ปกครองตามการชี้นิ้วของเขา และประชากรของเราชอบที่มีการอย่างนี้ แต่เจ้าทั้งหลายจะกระทำอะไรเมื่อกาลสุดปลายมาถึง


เขาทั้งหลายได้รักษาแผลแห่งประชากรของเราแต่เล็กน้อย กล่าวว่า <สวัสดิภาพ สวัสดิภาพ> เมื่อไม่มีสวัสดิภาพเลย


เขาทั้งหลายเห็นนิมิตเท็จและทำนายมุสา เขากล่าวว่า <พระเจ้าตรัสว่า> ในเมื่อพระเจ้ามิได้ทรงใช้เขาไป ถึงกระนั้นเขาก็ยังหวังที่จะให้สำเร็จตามถ้อยคำของเขา


หากคนใดจะเที่ยวไปพูดคำไร้สาระและคำมุสา ว่า <<เราจะเทศนาให้ท่านฟังเรื่องเหล้าองุ่นและเมรัย>> เขาคงจะเป็นนักเทศน์ของชนชาตินี้ได้ละ


ผู้เป็นประมุขของเมืองนี้ตัดสินความด้วยเห็นแก่สินบน ปุโรหิตของเธอสั่งสอนด้วยเห็นแก่สินจ้าง ผู้เผยพระวจนะของเธอทำนายด้วยเห็นแก่เงิน ถึงกระนั้นเขาทั้งหลายยังอิงพระเจ้าและกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางเรามิใช่หรือ ไม่มีความชั่วอย่างไรเกิดขึ้นแก่เราได้>>


และเมื่อคนนั้นได้ยินถ้อยคำของพันธสัญญาที่สาบานนี้ จะนึกอวยพรตัวเองในใจว่า <แม้ข้าจะเดินด้วยความดื้อดึงตามใจของข้า ข้าก็จะเป็นสุข> ความคิดเช่นนี้ก็นำการกวาดทำลายไม่ว่าผลที่ลุ่ม และที่แล้งไปด้วยกัน


ผู้ที่เชื่อในพระบุตรของพระเจ้าก็มีพยานอยู่ในตัว ผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็ได้กระทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา เพราะเขามิได้เชื่อคำพยาน ที่พระเจ้าได้ทรงเป็นพยานอ้างถึงพระบุตรของพระองค์


และคอยดู ถ้าไปตามทางถึงแผ่นดินของมันเอง คือทางไปเมืองเบธเชเมช พระองค์ก็เป็นผู้ทรงให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงนี้แก่เรา ถ้าไม่เช่นนั้น เราจะได้ทราบว่าไม่ใช่พระหัตถ์ของพระองค์ที่กระทำ ต่อเราเป็นเคราะห์กรรมที่บังเอิญเกิดขึ้นแก่เราเอง>>


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan