Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 44:10 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

10 แม้กระทั่งวันนี้แล้วเขาทั้งหลายก็ยังมิได้ถ่อมตัวลง หรือเกรงกลัวหรือดำเนินตามพระธรรมหรือตามกฎหมายของเรา ซึ่งเราให้มีไว้หน้าเจ้าทั้งหลายและหน้าบรรพบุรุษของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

10 จนถึงทุกวันนี้พวกเขาก็ไม่ได้ถ่อมตัวลง หรือเกรงกลัว หรือดำเนินตามธรรมบัญญัติ หรือตามกฎเกณฑ์ของเรา ซึ่งเราให้มีไว้แก่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

10 แม้​กระทั่งวันนี้​แล​้วเขาทั้งหลายก็ยั​งม​ิ​ได้​ถ่อมตัวลง หรือเกรงกลัว หรือดำเนินตามราชบัญญั​ติ​หรือตามกฎเกณฑ์ของเรา ซึ่งเราให้​มี​ไว้​หน​้าเจ้าทั้งหลายและหน้าบรรพบุรุษของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

10 จวบจนทุกวันนี้พวกเจ้าไม่ได้ถ่อมกายถ่อมใจ หรือยำเกรง หรือปฏิบัติตามบทบัญญัติและคำบัญชาซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้ากับบรรพบุรุษของเจ้า

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

10 จนถึง​วันนี้​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่​ถ่อมตัว พวกเขา​ไม่​เคารพ​ยำเกรง​เรา และ​พวกเขา​ก็​ไม่ได้​ทำ​ตาม​กฎ​และ​ระเบียบ​ที่​เรา​มอบ​ไว้​ให้​กับเจ้า​และ​บรรพบุรุษ​ของเจ้า”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

10 เขา​ทั้ง​หลาย​ไม่​ได้​มี​ความ​เสียใจ​จนถึง​ทุกวันนี้, แล​เขา​ไม่​ได้​กลัว, แล​ไม่​ได้​ดำเนิน​ใน​กฎหมาย​ของ​เรา, แล​ใน​ข้อ​ปรนนิบัติ​ของ​เรา, ที่​เรา​ได้​ตั้ง​ไว้​ตรงหน้า​พวก​เจ้า, แล​ตรงหน้า​บิดา (ใหญ่) ของ​พวก​เจ้า​นั้น.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 44:10
38 Iomraidhean Croise  

คนที่เกรงกลัวอยู่เสมอก็ได้รับพร แต่บุคคลที่ทำใจตนให้กระด้างจะตกในความลำบากยากเย็น


ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีผู้ใดบ้างที่จะไม่ยำเกรงพระองค์ และไม่ถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ผู้เดียวทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ ประชาชาติทั้งปวงจะมานมัสการพระองค์ เพราะว่าการพิพากษาของพระองค์เริ่มขึ้นแล้ว>>


เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร


เมื่อเขากระทำการน่าเกลียดน่าชังเขาละอายหรือ เปล่าเลย เขาไม่ละอายเสียเลยทีเดียว เขาไม่รู้จักว่าอย่างไรจึงจะขายหน้า เพราะฉะนั้นเขาจะล้มลงท่ามกลางพวกที่ล้มแล้ว เมื่อเราลงโทษเขาทั้งหลายเขาจะล้มคว่ำ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ


ถูกแล้ว เขาถูกหักออก ก็เพราะเขาไม่เชื่อ แต่ที่ท่านอยู่ได้ก็เพราะความเชื่อเท่านั้น อย่าเย่อหยิ่งไปเลยแต่จงเกรงกลัว


แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า <<เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน


ส่วนนายร้อยและทหารที่เฝ้าพระศพพระเยซูอยู่ด้วยกัน เมื่อได้เห็นแผ่นดินไหวและการทั้งปวงซึ่งบังเกิดขึ้นนั้น ก็พากันครั่นคร้ามยิ่งนัก จึงพูดกันว่า <<แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า>>


แต่ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมซึ่งมีปีกรักษาโรคภัยได้ จะขึ้นมาสำหรับคนเหล่านั้นที่ยำเกรงนามของเรา เจ้าจะกระโดดโลดเต้นออกไปเหมือนลูกวัวออกไปจากคอก


และพระเจ้าตรัสสั่งเขาว่า <<จงไปตลอดนครคือตลอดเยรูซาเล็ม และทำเครื่องหมายไว้ที่หน้าผากของ ประชาชนที่ถอนหายใจและคร่ำครวญ เพราะความลามกทั้งสิ้นที่กระทำกันในเมือง>>


ถึงกระนั้นพระราชาหรือข้าราชการ ของพระองค์ผู้ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ หาได้เกรงกลัวหรือฉีกเสื้อผ้าของตนไม่


ข้าแต่พระราชาแห่งบรรดาประชาชาติ ผู้ใดจะไม่ยำเกรงพระองค์ เพราะพระองค์สมควรแก่การอย่างนี้ เพราะในบรรดาปราชญ์ของบรรดาประชาชาติ และในบรรดาราชอาณาจักรทั้งสิ้นของเขา ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์


สิ่งเหล่านี้มือของเราได้กระทำทั้งสิ้น สิ่งเหล่านั้นจึงเป็นขึ้นมา พระเจ้าตรัสดังนี้ แต่นี่ต่างหากที่เราจะมอง คือเขาผู้ที่ถ่อมและสำนึกผิดในใจ และตัวสั่นเพราะคำของเรา


องค์ผู้สูงเด่น คือผู้อยู่ในนิรันดร์กาล ผู้ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ ตรัสดังนี้ว่า <<เราอยู่ในที่ที่สูงและบริสุทธิ์ และอยู่กับผู้ที่มีจิตใจสำนึกผิดและถ่อม เพื่อจะรื้อฟื้นจิตใจของผู้ใจถ่อม และรื้อฟื้นใจของผู้สำนึกผิด


ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ได้ลบมลทินบาปชั่ว และคนหลีกความชั่วร้ายได้โดยความยำเกรงพระเจ้า


คนมีปัญญาก็ระวังตัวและหันเสียจากความชั่วร้าย แต่คนโง่ขาดความยับยั้งและสะเพร่า


ความยำเกรงพระเจ้าเป็นความเกลียดชังความชั่วร้าย เราเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง


เครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงรับได้คือจิตใจที่ชอกช้ำ จิตใจที่สำนึกผิดและชอกช้ำนั้น ข้าแต่พระเจ้า พระองค์มิได้ทรงดูถูก


พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ผู้ที่จิตใจฟกช้ำ และทรงช่วยผู้ที่จิตใจสำนึกผิด


เพราะเจ้ากลับใจแล้วและได้ถ่อมตัวลงต่อพระพักตร์พระเจ้า เมื่อเจ้าได้ยินถ้อยคำที่ปรักปรำสถานที่นี้ และชาวเมืองนี้ เจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อเราและเจ้าได้ฉีกเสื้อผ้าของเจ้า และร้องไห้ต่อหน้าเรา พระเจ้าตรัสว่าเราได้ฟังเจ้าด้วย


และคำอธิษฐานของพระองค์ และเรื่องที่พระเจ้าทรงรับคำวิงวอนของพระองค์ บาปทั้งสิ้นของพระองค์ และความไม่ซื่อของพระองค์ทั้งสิ้น และสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงสร้างปูชนียสถานสูง และตั้งบรรดาอาเชราห์และรูปเคารพ ก่อนที่พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลงนั้น ดูเถิด เขาบันทึกไว้ในหนังสือประวัติที่ผู้ทำนายแต่ง


และเมื่อพระองค์ทรงทุกข์ยาก พระองค์ทรงวิงวอนขอพระกรุณา ต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ และถ่อมพระทัยลงอย่างมากต่อพระเจ้า ของบรรพบุรุษของพระองค์


แต่เฮเซคียาห์ทรง อ่อนน้อมถ่อมพระทัยที่กำเริบนั้นลง ทั้งพระองค์และชาวเยรูซาเล็ม พระพิโรธของพระเจ้าจึงมิได้มาเหนือเขาทั้งหลาย ในรัชกาลเฮเซคียาห์


เพราะจิตใจของเจ้ากลับใหม่แล้ว เจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อพระเจ้าเมื่อเจ้าได้ยินว่า เรากล่าวโทษที่นี้และชาวเมืองนี้อย่างไร คือที่เขาจะต้องกลายเป็นที่ร้างเปล่าและที่ถูกสาป และเจ้าได้ฉีกเสื้อและร้องไห้ต่อเรา เราก็ได้ยินเจ้าแล้วด้วย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ


<<เจ้าได้เห็นอาหับถ่อมตัวลงต่อหน้าเราแล้วหรือ เพราะเขาได้ถ่อมตัวลงต่อเรา เราจะไม่นำเหตุร้ายมาในสมัยของเขา แต่มาในสมัยบุตรของเขา เราจะนำเหตุร้ายมาเหนือราชวงศ์ของเขา>>


โมเสสและอาโรนจึงเข้าไปเฝ้าฟาโรห์ทูลว่า <<พระเจ้าของคนฮีบรูตรัสดังนี้ว่า <เจ้าจะขัดขืนไม่ยอมอ่อนน้อมต่อเรานานสักเท่าใด จงปล่อยประชากรของเราให้ไปนมัสการเรา


แต่ฝ่ายฝ่าพระบาทและข้าราชการนั้น ข้าพระบาททราบอยู่แล้วว่า ยังไม่ยำเกรงพระเจ้า>>


เจ้ายังถือทิฐิต่อสู้ประชากรของเรา ไม่ยอมปล่อยเขาไป


เขาทั้งหลายมิได้รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า และปฏิเสธที่จะเดินตามกฎหมายของพระองค์


เมื่อเขากระทำการน่าเกลียดน่าชังเขาละอายหรือ เปล่าเลย เขาไม่ละอายเสียเลยทีเดียว เขาไม่รู้จักว่าอย่างไรจึงจะขายหน้า เพราะฉะนั้นเขาจะล้มลงท่ามกลางพวกที่ล้มแล้ว เมื่อเราลงโทษเขาทั้งหลาย เขาจะคว่ำ>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ


เจ้าจงพูดกับเขาทั้งหลายว่า <<พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ถ้าเจ้าทั้งหลายไม่ฟังเรา ที่จะดำเนินตามพระธรรมที่เราได้วางไว้ต่อหน้าเจ้า


และเขาทั้งหลายก็ได้เข้าไปและถือกรรมสิทธิ์แผ่นดินนั้น แต่เขาทั้งหลายมิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ หรือดำเนินตามพระธรรมของพระองค์ สิ่งซึ่งพระองค์ทรงบัญชาเขาให้กระทำนั้น เขาทั้งหลายมิได้กระทำเสียเลย เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงกระทำให้เหตุร้ายทั้งสิ้นนี้ มาถึงเขาทั้งหลาย


เพราะว่าท่านได้เผาเครื่องหอม และเพราะว่าท่านได้กระทำบาปต่อพระเจ้า และไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า หรือดำเนินตามพระธรรมของพระองค์ตามกฎหมายของพระองค์ และตามพระโอวาทของพระองค์ โทษนี้จึงได้ตกแก่ท่าน ดังทุกวันนี้>>


ใครมอบยาโคบให้แก่ผู้ริบ และอิสราเอลให้แก่ผู้ปล้น ไม่ใช่พระเจ้าหรือ ผู้ซึ่งเราได้ทำบาปต่อ ซึ่งเขาไม่ยอมดำเนินในทางของพระองค์ และซึ่งเขามิได้เชื่อฟังพระธรรมของพระองค์


ข้าแต่พระเจ้า พระเนตรของพระองค์ทรงหาความสัตย์จริงมิใช่หรือ พระองค์ทรงเฆี่ยนตีเขาทั้งหลาย แต่เขาก็ไม่รู้สึกสำนึก พระองค์ทรงล้างผลาญเขา แต่เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่ยอมดีขึ้น เขาได้กระทำให้หน้าของเขากระด้างยิ่งกว่าหิน เขาปฏิเสธไม่ยอมกลับใจ


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan