Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 39:5 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

5 แต่กองทัพของคนเคลเดียได้ติดตามเขาทั้งหลาย ไปทันเศเดคียาห์ที่ราบเมืองเยรีโค และเมื่อเขาทั้งหลายจับท่านได้แล้ว เขาได้นำท่านไปยังเนบูคัดเนสซาร์ พระราชาแห่งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท และพระองค์ก็พิพากษาโทษท่าน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

5 แต่กองทัพของคนเคลเดียได้ติดตามพวกเขาไปทันเศเดคียาห์ ณ ที่ราบเมืองเยรีโค และเมื่อเขาทั้งหลายจับพระองค์ได้แล้ว เขานำพระองค์ไปยังเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท และเนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงพิพากษาโทษพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

5 แต่​กองทัพของคนเคลเดียได้​ติ​ดตามเขาทั้งหลาย ไปทันเศเดคียาห์​ที่​ราบเมืองเยรี​โค และเมื่อเขาทั้งหลายจั​บท​่านได้​แล้ว เขาได้นำท่านไปยังเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​แห่​งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท และพระองค์​ก็​พิพากษาโทษท่าน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

5 แต่กองทัพบาบิโลนไล่ตามมาและจับกุมเศเดคียาห์ไว้ได้ในที่ราบเยรีโค แล้วคุมพระองค์มาให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนซึ่งประทับอยู่ที่ริบลาห์ในเขตฮามัท และเนบูคัดเนสซาร์ได้ตัดสินลงโทษเขาที่นั่น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

5 ทหาร​บาบิโลน​ก็​ไล่ตาม​พวกเขา​ไป และ​ไป​ทัน​กษัตริย์​เศเดคียาห์ ที่​ทะเลทราย​อารบา​ใกล้ๆ​เมือง​เยริโค แล้ว​พวกเขา​ก็​จับ​กษัตริย์​เศเดคียาห์ และ​พา​พระองค์​ไป​หา​เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์​ของ​บาบิโลน ที่​ริบลาห์​ใน​แผ่นดิน​ฮามัท แล้ว​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์ ก็​ได้​ตัดสิน​ลงโทษ​กษัตริย์​เศเดคียาห์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

5 แต่​กองทัพ​เคเซ็ด​ไล่​ตาม​พวก​ซิ​ดคี​ยา, ทัน​ซิ​ดคี​ยา​เข้าที่​แผ่น​ดิน​ราม​เสมอ ณ เมือง​ยะ​ริ​โฮ, แล​เมื่อ​เขา​จับ​ซิ​ดคี​ยา​ได้​แล้ว, เขา​ก็​พา​ท่าน​ไป​ถึง​นะ​บูคัศเนซัร​เจ้าเมือง​บาบู​โลน​ถึง​ตำบล​ริบ​ลา​ที่​ประเทศ​อา​มัธ. แล​นะ​บูคัศเนซัร​ก็ได้​ตัดสิน​ความ​ซิ​ดคี​ยา ณ ที่นั่น.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 39:5
26 Iomraidhean Croise  

เมื่อโทอิกษัตริย์เมืองฮามัททราบว่าดาวิดรบชนะกองทัพทั้งสิ้นของฮาดัดเอเซอร์


และพระราชาแห่งอัสซีเรีย ได้นำประชาชนมาจากบาบิโลน คูธาห์ อัฟวา ฮามัท เสฟารวาอิมและบรรจุเขาไว้ในหัวเมือง สะมาเรียแทนประชาชนอิสราเอล เขาทั้งหลายก็เข้าถือกรรมสิทธิ์สะมาเรีย และอาศัยอยู่ในหัวเมืองของประเทศนั้น


และฟาโรห์เนโคก็จับพระองค์ขังไว้ ที่ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท เพื่อมิให้พระองค์ครอบครองในเยรูซาเล็ม และกำหนดบรรณาการจากแผ่นดินนั้นเป็นเงินหนึ่งร้อยตะลันต์ และทองคำหนึ่งตะลันต์


แล้วเขาจึงจับพระราชา นำขึ้นมายังพระราชาแห่งบาบิโลน ที่ริบลาห์ ผู้ทรงให้คำพิพากษา


เพราะฉะนั้น พระเจ้าทรงให้ผู้บังคับกองทหารของ พระราชาแห่งอัสซีเรียมาต่อสู้เขาทั้งหลาย เอาเบ็ดเกี่ยวมนัสเสห์และจำจองด้วยตรวนทองสัมฤทธิ์ และนำพระองค์มายังบาบิโลน


ผู้ครองเมืองของเจ้าทั้งหมดหนีกันไปแล้ว เขาถูกจับได้โดยไม่มีคันธนู ชายฉกรรจ์ของเจ้าทุกคนถูกจับ แม้ว่าเขาได้หนีไปไกลแล้ว


พระเจ้าตรัสว่า ภายหลังเราจะมอบเศเดคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ และบรรดาข้าราชการของเขาและประชาชนเมืองนี้ ซึ่งรอดตายจากโรคระบาด ดาบ และการกันดารอาหาร ไว้ในมือของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และมอบไว้ในมือของศัตรูของเขาทั้งหลาย ในมือของคนเหล่านั้นที่แสวงหาชีวิตของเขา ท่านจะฟันเขาเสียด้วยคมดาบ ท่านจะไม่สงสารเขาทั้งหลาย หรือไว้ชีวิตเขา หรือมีความเมตตาต่อเขา>


<<แต่พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เหมือนอย่างมะเดื่อที่เลวซึ่งเลวมากจนรับประทานไม่ได้นั้น เราจะกระทำต่อเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ทั้งเจ้านายของเขา และชาวเยรูซาเล็มที่เหลืออยู่ผู้ซึ่งยังค้างอยู่ในแผ่นดินนี้ และผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในอียิปต์


แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัวแก่เจ้านาย แห่งพระราชาของบาบิโลนแล้ว กรุงนี้จะต้องถูกมอบไว้ในมือของชนเคลเดีย และเขาทั้งหลายจะเอาไฟเผาเสีย และฝ่าพระบาทจะหนีไม่รอดไปจากมือของเขาทั้งหลาย>>


เขาจะพาบรรดาสนมและมเหสี และบุตรของฝ่าพระบาทไปให้คนเคลเดีย และฝ่าพระบาทเองก็จะไม่ทรงรอดไปจากมือ ของเขาทั้งหลาย แต่ฝ่าพระบาทจะถูกกษัตริย์แห่งบาบิโลนจับได้ และเขาจะเผากรุงนี้เสียด้วยไฟ>>


กระแสลมที่แรงเกินแก่การนี้ได้มาถึงตามคำของเรา ผู้ที่กล่าวคำตัดสินเขานี้คือ เราเอง>>


พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะมอบฟาโรห์โฮฟรา กษัตริย์แห่งอียิปต์ไว้ในมือศัตรูของเขา และในมือของคนเหล่านั้นที่แสวงหาชีวิตของเขา ดังที่เราได้มอบกษัตริย์แห่งยูดาห์ไว้ในมือของ เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ผู้ซึ่งเป็นศัตรูของเขาและแสวงหาชีวิตของเขา>>


เกี่ยวด้วยเรื่องเมืองดามัสกัส <<เมืองฮามัท และเมืองอารปัดได้ขายหน้า เพราะเขาทั้งหลายได้ยินข่าวร้าย เขาก็กลัวลาน เขาก็ทุรนทุรายเหมือนทะเล ซึ่งสงบลงไม่ได้


ยูดาห์ได้ถูกกวาดไปเป็นเชลยได้รับความทุกข์ใจ ต้องทำงานอย่างทาส เธอต้องพำนักอยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย เธอไม่พบที่หยุดพักสงบเลย บรรดาผู้ข่มเหงได้ไล่ทันเธอ เมื่อเวลาเธอทุกข์ใจ


เจ้าชีวิตของพวกข้าพเจ้าคือกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้นั้น ก็ตกหลุมพรางของเขาทั้งหลายแล้ว คือพวกเรากล่าวขวัญถึงพระองค์ท่านว่า <<เราจะดำรงชีวิตของเรา ท่ามกลางประชาชาติได้ ก็ด้วยอาศัยร่มเงาของพระองค์ท่าน>>


เขาจะมาจากทิศเหนือต่อสู้เจ้า มีรถรบ เกวียน และชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก เขาจะตั้งตนต่อสู้เจ้าทุกด้าน ด้วยโล่ใหญ่และโล่เล็ก และหมวกเหล็ก และเราจะมอบการพิพากษาให้เขา และเขาทั้งหลายจะพิพากษาเจ้าตามหลักการ พิพากษาของเขาทั้งหลาย


เขาเป็นที่น่าครั่นคร้ามและสยดสยอง ความยุติธรรมและความโอ่อ่าของเขาออกมาจากพวกเขาเอง


คนเหล่านั้นจึงขึ้นไปสอดแนมแผ่นดิน ตั้งแต่ถิ่นทุรกันดารศิน จนถึงเรโหบ ที่ทางเข้าเมืองฮามัท


และแผ่นดินของชาวเกบาลและเลบานอนทั้งหมด ไปทางที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จากบาอัลกาดที่อยู่เชิงภูเขาเฮอร์โมน ถึงทางเข้าเมืองฮามัท


มีคนถืออาวุธไว้พร้อมที่จะเข้าสงครามประมาณสี่หมื่นคน ได้ข้ามไปต่อพระพักตร์พระเจ้าเพื่อทำศึกไปถึงที่ราบเขต เมืองเยรีโค


ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาใน วันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค


คือเจ้านายทั้งห้าของพวกฟีลิสเตียคนคานาอันทั้งหมด ชาวไซดอนและคนฮีไวต์ผู้อาศัยอยู่บนภูเขาเลบานอน ตั้งแต่ภูเขาบาอัลเฮอร์โมน จนถึงทางเข้าเมืองฮามัท


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan