Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 32:3 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

3 เพราะเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้จำขังท่านไว้ ตรัสว่า <<ทำไมท่านจึงเผยพระวจนะและกล่าวว่า <พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะให้เมืองนี้ไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะยึดเมืองนี้

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

3 เพราะเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้จำคุกท่านไว้ ตรัสว่า “ทำไมท่านจึงเผยพระวจนะโดยกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า นี่แน่ะ เราจะมอบเมืองนี้ไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะยึดเมืองนี้

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

3 เพราะเศเดคียาห์​กษัตริย์​แห่​งยูดาห์​ได้​คุ​มขังท่านไว้ ตรั​สว​่า “ทำไมท่านจึงพยากรณ์และกล่าวว่า ‘พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า ดู​เถิด เราจะให้เมืองนี้​ไว้​ในมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน และเขาจะยึดเมืองนี้

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

3 กษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ให้คุมขังเยเรมีย์ไว้ที่นั่น พระองค์ตรัสว่า “เหตุใดเจ้าจึงพยากรณ์เช่นนั้น? เจ้าพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะมอบกรุงนี้ให้กษัตริย์บาบิโลนยึดครอง

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

3 กษัตริย์​เศเดคียาห์​แห่ง​ยูดาห์​เป็น​ผู้สั่ง​ให้​จับ​เยเรมียาห์​ขัง​ไว้​ใน​คุก​ที่นั่น​เอง พระองค์​ถาม​เยเรมียาห์​ว่า “ทำไม​เจ้า​ถึง​ได้​ทำนาย​อย่างนี้ เจ้า​พูด​ว่า พระยาห์เวห์​พูด​ว่า ‘เรา​จะ​ยก​เมืองนี้​ให้​ตก​ไป​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​กษัตริย์​บาบิโลน พระองค์​จะ​ได้​ยึดครอง​มัน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

3 ด้วยว่า​ซิ​ดคี​ยาก​ษัตริย์ยะฮูดา​ได้​กักขัง​ยิ​ระ​มะ​ยา​ไว้​แล้ว, ตรัส​ถาม​ว่า, เหตุผล​ประการ​ใด​ท่าน​ได้​ทำนาย​ไว้​ว่า, พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ว่า, นี่​แน่ะ, เรา​จะ​ยก​กรุง​นี้​ไว้​ใน​มือ​แห่ง​กษัตริย์​บาบู​โลน,

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 32:3
23 Iomraidhean Croise  

ในคราวทุกข์ยากนั้น พระองค์ยิ่งไม่ซื่อต่อพระเจ้า คือกษัตริย์อาหัสองค์เดียวกันนี้แหละ


กษัตริย์แห่งอียิปต์ตรัสกับเขาว่า <<เจ้าโมเสสกับอาโรน เจ้าจะให้ประชาชนละทิ้งการงานของเขาเสียทำไม เจ้าจงกลับไปรับภาระตามหน้าที่ของเจ้า>>


เราได้โบยตีลูกหลานของเจ้าเสียเปล่า เขาทั้งหลายก็ไม่ดีขึ้น ดาบของเจ้าเองได้กลืนผู้เผยพระวจนะของเจ้า เหมือนอย่างสิงห์ที่ทำลาย


แล้วเยเรมีย์บอกเขาทั้งสองว่า


<<แต่ถ้าประชาชาติใด หรือราชอาณาจักรใด จะไม่ปรนนิบัติเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนคนนี้ และไม่ยอมวางคอไว้ใต้แอกของกษัตริย์บาบิโลน เราจะลงโทษประชาชาตินั้นด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหาร และด้วยโรคระบาด พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ จนกว่าเราจะล้างผลาญเสียด้วยมือของเขา


ส่วนเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และเจ้านายทั้งหลายของเขานั้น เราจะมอบไว้ในมือศัตรูของเขา และในมือของบรรดาผู้ที่แสวงหาชีวิตของเขา ในมือของกองทัพแห่งกษัตริย์บาบิโลน ซึ่งได้ถอยไปจากเจ้าแล้วนั้น


และเกี่ยวกับเรื่องเยโฮยาคิมกษัตริย์ยูดาห์นั้น เจ้าจงกล่าวดังนี้ว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ท่านได้เผาหนังสือม้วนนี้เสียและกล่าวว่า <<ทำไมเจ้าจึงได้เขียนไว้ในนั้นว่ากษัตริย์บาบิโลน จะมาทำลายแผ่นดินนี้เป็นแน่ และจะตัดมนุษย์และสัตว์ออกเสียจากแผ่นดินนั้น>>


ฝ่ายเยเรมีย์นั้นยังเข้านอกออกในท่ามกลางประชาชนอยู่ เพราะท่านยังมิได้ถูกจำขัง


แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัวแก่เจ้านาย แห่งพระราชาของบาบิโลนแล้ว กรุงนี้จะต้องถูกมอบไว้ในมือของชนเคลเดีย และเขาทั้งหลายจะเอาไฟเผาเสีย และฝ่าพระบาทจะหนีไม่รอดไปจากมือของเขาทั้งหลาย>>


พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า กรุงนี้จะต้องมอบไว้ในมือของกองทัพของกษัตริย์ แห่งบาบิโลนและท่านจะยึดไว้>>


และบรรดาเจ้านายจึงทูลพระราชาว่า <<ขอประหารชายคนนี้เสีย เพราะเขากระทำให้มือของทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองนี้อ่อนลง ทั้งมือของประชาชนทั้งหมดด้วย โดยพูดถ้อยคำเช่นนี้แก่เขาทั้งหลาย เพราะว่าชายคนนี้มิได้แสวงหาความอยู่เย็นเป็นสุข ของชนชาตินี้ แต่หาความทุกข์ยากลำบาก>>


เอเบดเมเลคก็ออกไปจากพระราชวัง และทูลพระราชาว่า


ข้าแต่พระเจ้า พระเนตรของพระองค์ทรงหาความสัตย์จริงมิใช่หรือ พระองค์ทรงเฆี่ยนตีเขาทั้งหลาย แต่เขาก็ไม่รู้สึกสำนึก พระองค์ทรงล้างผลาญเขา แต่เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่ยอมดีขึ้น เขาได้กระทำให้หน้าของเขากระด้างยิ่งกว่าหิน เขาปฏิเสธไม่ยอมกลับใจ


<<ภาระแห่งการทรยศทั้งมวล ของข้าพเจ้าก็ถูกรวบเข้าเป็นแอก โดยพระหัตถ์ของพระองค์ทรงรวบมัดไว้ แอกนั้นรัดรึงรอบคอข้าพเจ้า พระองค์ได้ทรงกระทำให้กำลังข้าพเจ้าถอยไป องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบข้าพเจ้าไว้ ในมือของเขาทั้งหลาย ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถต่อต้านได้


อย่ามาเผยพระวจนะที่เบธเอลอีกเลย เพราะว่านี้เป็นสถานนมัสการของกษัตริย์ และเป็นพระวิหารของราชอาณาจักร>>


และทูลพระองค์ว่า <<จงบอกพวกเราเถิด ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธิแก่ท่าน>>


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan