Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 30:3 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

3 พระเจ้าตรัสว่า เพราะดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะให้ประชากรของเรา คืออิสราเอลและยูดาห์กลับคืนสู่สภาพเดิม พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ และเราจะนำเขามายังแผ่นดินซึ่งเราได้ ให้แก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และเขาทั้งหลายจะได้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้น>>

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

3 พระยาห์เวห์ตรัสว่า เพราะนี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะให้ประชากรของเรา คืออิสราเอลและยูดาห์กลับคืนสู่สภาพเดิม พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ และเราจะนำเขามายังแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และพวกเขาจะได้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้น”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

3 พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า เพราะดู​เถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะให้ประชาชนของเรา คื​ออ​ิสราเอลและยูดาห์​ที่​เป็นเชลยกลับคืนสู่สภาพเดิม พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ และเราจะนำเขามายังแผ่นดินซึ่งเราได้​ให้​แก่​บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และเขาทั้งหลายจะได้ถึงกรรมสิทธิ์​ที่​ดิ​นนั้น”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

3 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘เพราะใกล้จะถึงเวลาแล้วที่เราจะนำอิสราเอลและยูดาห์ ประชากรของเรากลับมาจากการเป็นเชลย และนำพวกเขากลับสู่ดินแดนที่เรายกให้บรรพบุรุษของพวกเขาครอบครอง’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

3 พระยาห์เวห์​พูด​ว่า “วันนั้น​กำลัง​จะ​มาถึง คือ​วัน​ที่​เรา​จะ​พลิก​สถานการณ์​ให้กับ​คน​ของเรา​คือ​คน​อิสราเอล​และ​ยูดาห์” พระยาห์เวห์​พูดว่า “เรา​จะ​นำ​พวกเขา​กลับมา​ยัง​แผ่นดินนี้​ที่​เรา​ได้​ให้​กับ​บรรพบุรุษ​ของเขา เพื่อ​พวกเขา​จะได้​ครอบ​ครอง​มัน”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

3 เพราะ​นี่​แน่ะ, พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ว่า, เวลา​วัน​เดือน​คงจะ​มา, ที่​เรา​จะ​พา​พวก​ชะ​เลย​แห่ง​ไพร่พล​ของ​เรา, คือ​พวก​ยิศ​รา​เอล​แล​พวก​ยะฮูดา, ให้​กลับ​มา​อีก, พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส. แล​เรา​จะ​กระทำ​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​กลับ​มา​ถึง​ประเทศ​ที่​เรา​ได้​ยก​ปู่ย่าตายาย​ของ​เขา​นั้น, แล​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เป็น​เจ้าของ​ใน​ที่​นั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 30:3
45 Iomraidhean Croise  

เมื่อมาถึงเดือนที่เจ็ด ที่พงศ์พันธุ์อิสราเอลอยู่ตามหัวเมือง ประชาชนได้มาพร้อมหน้ากันที่เยรูซาเล็ม


แต่ปุโรหิตและคนเลวีและหัวหน้าตระกูลเป็นอันมาก คือคนแก่ผู้ได้เห็นพระวิหารหลังก่อน เมื่อเขาเห็นรากฐานของพระวิหารหลังนี้ได้วางแล้ว ได้ร้องไห้ด้วยเสียงดัง คนเป็นอันมากได้โห่ร้องด้วยความชื่นบาน


ในปีที่สองซึ่งเขามา ถึงพระนิเวศแห่งพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม ในเดือนที่สอง เศรุบบาเบล บุตรเชอัลทิเอลและเยชูอา บุตรโยซาดัก ได้ทำการตั้งต้นพร้อมพี่น้องของเขาที่เหลืออยู่ คือ บรรดาปุโรหิตและชนเลวีและคนทั้งปวง ซึ่งมาจากการเป็นเชลยยังเยรูซาเล็ม เขาได้เลือกตั้งคนเลวี ตั้งแต่อายุยี่สิบปีขึ้นไป เพื่อให้ดูแลการงานของพระนิเวศแห่งพระเจ้า


ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับสู่สภาพดี อย่างทางน้ำไหลที่ในเนเกบ


ขอการช่วยกู้เพื่ออิสราเอลมาจากศิโยนเสียทีเถิด เมื่อพระเจ้าทรงให้ประชากรของพระองค์กลับสู่สภาพดี ยาโคบจะเปรมปรีดิ์ อิสราเอลจะยินดี


แต่จะพูดว่า <พระเจ้าผู้ทรงนำประชาชนอิสราเอล ออกมาจากแดนเหนือและออกมาจากบรรดาประเทศ ซึ่งพระองค์ได้ทรงขับไล่เขาให้ไปอยู่นั้น ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด> เพราะเราจะนำเขาทั้งหลายกลับมาสู่แผ่นดินของเขาเอง ซึ่งเราได้ยกให้บรรพบุรุษของเขาแล้วนั้น


<<พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะเพาะอังกูรชอบธรรมให้ดาวิด และท่านจะทรงครอบครองเป็นกษัตริย์และ กระทำกิจอย่างเฉลียวฉลาด และจะทรงประทานความยุติธรรมและ ความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น


แต่ประชาชาติใดซึ่งเอาคอของตนวางไว้ใต้แอก ของกษัตริย์แห่งบาบิโลนและปรนนิบัติท่าน เราจะละเขาไว้บนแผ่นดินของเขา เพื่อให้ทำไร่ไถนาและให้อาศัยอยู่ที่นั่น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ>>


พระเจ้าตรัสว่า เครื่องใช้เหล่านี้จะถูกขนไปยังบาบิโลนและจะ ค้างอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่เราเอาใจใส่มัน แล้วเราจึงจะนำมันกลับมา และให้กลับสู่สถานที่นี้>>


<<เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เมื่อเจ็ดสิบปีแห่ง บาบิโลนครบแล้ว เราจะเยี่ยมเยียนเจ้าและจะให้คำสัญญาของเรา สำเร็จเพื่อเจ้าและจะนำเจ้ากลับมาสู่สถานที่นี้


พระเจ้าตรัสว่า เราจะให้เจ้าพบเรา และเราจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดีและรวบรวมเจ้ามาจาก บรรดาประชาชาติและจากทุกที่ที่เราขับไล่เจ้าให้ไปอยู่นั้น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ และเราจะนำเจ้ากลับมายังที่ซึ่งเรา เนรเทศเจ้าให้จากไปนั้น


ในสมัยนั้นเชื้อสายของยูดาห์จะเดินมา กับเชื้อสายของอิสราเอล เขาทั้งสองจะรวมกันมาจากแผ่นดินฝ่ายเหนือมายัง แผ่นดินซึ่งเรามอบให้แก่บรรพบุรุษของเจ้าให้เป็นมรดก


<<พระเจ้าตรัสว่า ยาโคบผู้รับใช้ของเราเอ๋ย อย่ากลัวเลย อิสราเอลเอ๋ย อย่าครั่นคร้าม เพราะนี่แน่ะ เราจะช่วยเจ้าจากที่ไกลให้รอด ทั้งลูกหลานของเจ้าจากแผ่นดินที่เขาไปเป็นเชลย ยาโคบจะกลับมา และมีความสงบและความสบาย และจะไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัว


<<พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะให้เต็นท์แห่งยาโคบกลับสู่สภาพเดิม และมีความเอ็นดูในเรื่องที่อาศัยของเขา เขาจะสร้างเมืองนั้นขึ้นใหม่บนเนินของเมือง และพระราชวังจะตั้งอยู่ในที่ที่เคยอยู่


ต่อไปนี้เป็นพระวจนะซึ่งพระเจ้าตรัส เกี่ยวกับอิสราเอลและยูดาห์ว่า


พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ระงับเสียงร้องไห้คร่ำครวญไว้เสียเถิด และระงับน้ำตาจากตาของเจ้าเสีย เพราะว่าการงานของเจ้าจะได้รับรางวัลพระเจ้า ตรัสดังนี้แหละ และเขาทั้งหลายจะกลับมาจากแผ่นดินของศัตรู


พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า <<เมื่อเราให้เขากลับสู่สภาพเดิม เขาจะใช้ถ้อยคำต่อไปนี้ในแผ่นดินของยูดาห์ และในหัวเมืองทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง คือ <โอ ที่อยู่แห่งความชอบธรรมเอ๋ยภูเขาบริสุทธิ์เอ๋ย ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรเจ้า>


<<พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะหว่านพืชคนและพืชสัตว์ในประชา อิสราเอลและประชายูดาห์


<<พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง ซึ่งเราจะทำพันธสัญญา ใหม่กับประชาอิสราเอล และประชายูดาห์


พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง ที่เมืองนี้จะต้องสร้างขึ้นใหม่เพื่อพระเจ้าตั้งแต่หอคอย ฮานันเอลไปถึงประตูมุม


ดูเถิด เราจะรวบรวมเขามาจากประเทศทั้งปวง ซึ่งเราได้ขับไล่เขาให้ไปอยู่ ด้วยความกริ้ว ด้วยความพิโรธ และความขึ้งโกรธของเรานั้น เราจะนำเขาทั้งหลายกลับมายังที่นี้ และจะกระทำให้เขาอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย


ที่นานั้นจะซื้อกันด้วยเงิน ใบโฉนดก็จะต้องลงนามและประทับตรา และลงนามพยาน ที่ในแผ่นดินของเบนยามิน ในที่ต่างๆ แถบกรุงเยรูซาเล็ม และในหัวเมืองยูดาห์ ในหัวเมืองแถบแดนเมืองเทือกเขา ในหัวเมืองแถบเนินเชเฟลาห์และในหัวเมืองแถบเนเกบ เพราะเราจะให้เขาทั้งหลายกลับสู่สภาพเดิม>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ


เราจึงจะทอดทิ้งเชื้อสายของยาโคบ และดาวิดผู้รับใช้ของเรา และจะไม่เลือกผู้หนึ่งจากเชื้อสาย ของเขาให้ครอบครองเหนือพงศ์พันธุ์ ของอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ เพราะเราจะให้เขากลับสู่สภาพเดิม และจะมีความกรุณาเหนือเขา>>


เยเรมีย์ได้เขียนบรรดาโทษทั้งสิ้นซึ่งจะมาถึง บาบิโลนนั้นไว้ในหนังสือ ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำที่เขียนไว้เกี่ยวด้วยเรื่องบาบิโลน


และเจ้าจะทราบว่าเราคือพระเจ้า ในเมื่อเรานำเจ้าเข้าในแผ่นดินอิสราเอล อันเป็นประเทศซึ่งเราปฏิญาณไว้ว่าจะให้ แก่บรรพบุรุษของเจ้า


เราจะนำเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และรวบรวมเขามาจากประเทศต่างๆ และจะนำเขามาไว้ในแผ่นดินของเขาเอง และเราจะเลี้ยงเขาบนภูเขาแห่งอิสราเอล ใกล้ห้วยทั้งหลายและในท้องถิ่นทุกแห่งที่มี คนอาศัยในประเทศนั้น


เพราะว่าเราจะเอาเจ้าออกมาจากท่ามกลาง ประชาชาติและรวบรวมเจ้ามาจากทุกประเทศ และนำเจ้าเข้ามาในแผ่นดินของเจ้าเอง


และเจ้าจงแบ่งให้เท่าๆกัน เราปฏิญาณที่จะมอบให้แก่บรรพบุรุษของเจ้า และแผ่นดินนี้จะตกแก่เจ้าเป็นมรดกของเจ้า


<<เพราะ ดูเถิด ในวันเหล่านั้นและในเวลานั้น เมื่อเราให้ยูดาห์และเยรูซาเล็มกลับสู่สภาพเดิม


ชายทะเลนั้น จะเป็นกรรมสิทธิ์ ของพงศ์พันธุ์ยูดาห์ที่เหลืออยู่นั้น เขาจะหากินที่นั่น ครั้นถึงเวลาเย็น เขาจะนอนลง ที่ในเหย้าเรือนทั้งหลายของอัชเคโลน เพราะว่าพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเขา จะเอาพระทัยใส่เขา และให้เขากลับสู่สภาพเดิม


ในคราวนั้น เราจะนำเจ้ากลับเข้ามา คือในคราวที่เรารวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน เออ เราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญ ในท่ามกลางบรรดาชนชาติทั้งหลายของโลก คือเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ


พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกว่า <<คงจะมีเวลาหนึ่งเมื่อท่านทั้งหลายจะใคร่เห็นวันของบุตรมนุษย์สักวันหนึ่ง แต่จะไม่เห็น


ด้วยว่าเวลาจะมาถึงเจ้า เมื่อศัตรูของเจ้าจะก่อเชิงเทินต่อสู้เจ้า และล้อมขังเจ้าไว้ทุกด้าน


<<สิ่งเหล่านี้ที่ท่านทั้งหลายเห็น วันหนึ่งศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็ไม่มี>>


แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านทั้งหลายจะทรงให้ท่านคืนสู่สภาพเดิม และทรงพระกรุณาต่อท่าน และจะรวบรวมพวกท่านทั้งหลายอีก จากชนชาติทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทรงให้ท่านทั้งหลายกระจายไปอยู่นั้น


และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านเข้า มาในแผ่นดิน ซึ่งบรรพบุรุษของท่านยึดครองเพื่อท่านจะได้ยึดครอง และพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายจำเริญ มั่งคั่งและทวีมากขึ้นยิ่งกว่าบรรพบุรุษของท่าน


ด้วยว่าพระเจ้าตรัสติเขาว่า <<องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันหนึ่งข้างหน้าเราจะทำพันธสัญญาใหม่กับชนชาติอิสราเอล และชาติยูดาห์


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan