Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 14:2 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

2 <<ยูดาห์ไว้ทุกข์ และประตูเมืองทั้งปวงของเธอก็อ่อนกำลังลง ประชาชนของเธอก็แต่งดำหน้าก้มอยู่บนแผ่นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็ขึ้นไป

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

2 “ยูดาห์ไว้ทุกข์ และประตูเมืองทั้งหลายของเธอก็อ่อนกำลังลง ประชาชนของเธอก็คร่ำครวญอยู่บนแผ่นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็ดังขึ้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

2 “​ยู​ดาห์​ไว้ทุกข์ และประตูเมืองทั้งปวงของเธอก็อ่อนกำลังลง ประชาชนของเธอก็​แต่​งดำหน้าก้มอยู่บนแผ่นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็​ขึ้นไป

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

2 “ยูดาห์คร่ำครวญ เมืองต่างๆ ซึมเซา พวกเขาร่ำไห้ให้กับดินแดน และมีเสียงร้องระงมขึ้นจากเยรูซาเล็ม

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

2 “ยูดาห์​ร้องไห้​เศร้าโศก ประตู​เมือง​ต่างๆ​ของเธอ​ก็​ทรุดโทรม ความมืด​ปกคลุม​แผ่นดิน และ​เสียง​ร้องไห้​ขมขื่น​ของ​เยรูซาเล็ม​ก็​ดังขึ้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

2 ยะ​ฮูดา​กำลัง​โศกเศร้า​อยู่, แล​ประตู​ทั้ง​ของ​เมือง​อ่อนกำลัง​ลง, ประตู​ทั้งปวง​ก็​มี​สี​ดำ​ไป​จนถึง​พื้นดิน, แล​ความ​ร้องไห้​ของ​ยะ​รู​ซา​เลม​ก็​ขึ้น​ไป.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 14:2
30 Iomraidhean Croise  

เหตุนี้เขาจึงกระทำให้เสียงร้องของคนยากจน มาถึงพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเสียงร้องของผู้รับความทุกข์ใจ


ซึ่งสัตว์ใช้ของข้าพเจ้ามีท้องมากมาย ไม่มีใครพังเข้ามา ไม่มีออกไป และซึ่งไม่มีเสียงร้องทุกข์ในถนนหนทางของข้าพเจ้า


พระเจ้าทรงสดับเสียงคร่ำครวญของเขา จึงทรงระลึกถึงพันธสัญญาที่พระองค์ ได้ทรงกระทำไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ


จิตใจของข้าพเจ้าร้องออกมาเพื่อโมอับ ผู้หลบภัยของโมอับนั้นหนีไปยังโศอาร์ ไปยังเอกลัทเชลีชิยาห์ เพราะตามทางขึ้นไปเมืองลูฮีท เขาขึ้นไปคร่ำครวญ ตามถนนสู่เมืองโฮโรนาอิม เขาเปล่งเสียงร้องถึงการทำลาย


มีเสียงร้องที่กลางถนนด้วยเรื่องเหล้าองุ่น ความชื่นบานทั้งสิ้นก็เยือกเย็นลงแล้ว ความยินดีของแผ่นดินก็หายสูญไป


โลกก็ไว้ทุกข์และเหี่ยวแห้งไป พิภพก็อ่อนระทวยและเหี่ยวแห้ง คนสูงศักดิ์ของโลกก็อ่อนระทวยไป


เหล้าองุ่นก็ไว้ทุกข์ เถาองุ่นก็อ่อนระทวย จิตใจที่รื่นเริงทั้งปวงก็ถอนหายใจ


ประตูของเธอจะร้องทุกข์และไว้ทุกข์ เธอจะถูกเปลือยแล้วนั่งอยู่บนดิน


แผ่นดินไว้ทุกข์และอ่อนระทวย เลบานอนอับอายและเหี่ยวแห้งไป ชาโรนเหมือนทะเลทราย บาชานและคารเมลก็สลัดใบ


เพราะว่าสวนองุ่นของพระเจ้าจอมโยธา คือเชื้อวงศ์อิสราเอล และคนยูดาห์ เป็นหมู่ไม้ที่พระองค์ทรงชื่นพระทัย และพระองค์ทรงมุ่งหวังความยุติธรรม แต่ ดูเถิด มีแต่การนองเลือด หวังความชอบธรรม แต่ ดูเถิด เสียงร้องให้ช่วย


เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำเหตุร้ายมาเหนือเขา ซึ่งเขาหนีไม่พ้น ถึงเขาจะร้องทุกข์ต่อเรา เราจะไม่ฟังเขาทั้งหลาย


เขาทั้งหลายได้กระทำส่วนของเราให้ร้างเปล่า เมื่อร้างเปล่าส่วนนั้นก็ไว้ทุกข์ต่อเรา แผ่นดินทั้งสิ้นก็ถูกทิ้งให้ร้างเปล่า เพราะไม่มีผู้ใดเอาใจใส่เรื่องนั้น


แผ่นดินนี้จะไว้ทุกข์นานเท่าใด และผักหญ้าตามท้องนาทุกแห่งจะเหี่ยวแห้งไปนานเท่าใด เพราะความอธรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น สัตว์และนกก็ถูกกวาดเอาไปสิ้น เพราะเขาว่า <<พระองค์จะไม่ทอดพระเนตรบั้นสุดปลายของเราทั้งหลาย>>


ขอให้ได้ยินเสียงร้องมาจากเรือนของเขาทั้งหลาย เมื่อพระองค์ทรงพากองทหารมาปล้นเขาอย่างฉับพลัน เพราะเขาทั้งหลายได้ขุดหลุมไว้ดักข้าพระองค์ และวางบ่วงดักเท้าของข้าพระองค์


เพราะเรื่องนี้โลกจะไว้ทุกข์ และฟ้าสวรรค์เบื้องบนจะดำมืด เพราะเราได้ลั่นวาจาแล้ว เราได้หมายใจไว้แล้ว เราจะไม่เปลี่ยนใจหรือหันกลับ>>


บรรดาประชาชาติได้ยินถึงความอายของเจ้า และโลกก็เต็มด้วยเสียงคร่ำครวญของเจ้า เพราะว่านักรบสะดุดกัน เขาทั้งหลายได้ล้มลงด้วยกัน>>


เพราะแผลแห่งบุตรีประชากรของข้าพเจ้า หัวใจข้าพเจ้าจึงเป็นแผล ข้าพเจ้าเศร้าหมอง และความสยดสยองก็ยึดข้าพเจ้าไว้มั่น


พระเจ้าได้ทรงตั้งพระทัยไว้แล้วที่จะทำลาย กำแพงของธิดาแห่งศิโยนเสีย พระองค์ได้ทรงขึงเส้นวัดไว้แล้ว พระองค์มิได้ทรงหดพระหัตถ์เลิกการทำลาย เหตุฉะนี้พระองค์ได้ทรงกระทำให้ เนินดินและกำแพงนั้นคร่ำครวญ ให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน


ประตูเมืองศิโยนทั้งสิ้นทรุดลงในดินแล้ว พระองค์ได้ทรงทำลาย และทรงหักดาลประตูทั้งปวงเสียสิ้น กษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายแห่งศิโยนก็ตกอยู่ท่ามกลางประชาชาติ ที่ที่ไม่มีธรรมบัญญัติ เออ บรรดาผู้เผยพระวจนะแห่งเมืองศิโยน หาได้รับนิมิตจากพระเจ้าอีกไม่


ผิวหนังของพวกข้าพระองค์ก็ร้อนปานเตาอบ เพราะความเดือดร้อนของทุพภิกขภัย


เพราะฉะนั้น แผ่นดินจึงเป็นทุกข์ บรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นก็อ่อนระอาใจ ทั้งสัตว์ป่าทุ่ง และนกในอากาศด้วย และปลาในทะเลก็ถูกนำเอาไปเสียหมด


นาก็ร้าง พื้นดินก็เศร้าโศก เพราะข้าวถูกทำลายเสีย เหล้าองุ่นใหม่ก็ไม่มี น้ำมันก็ขาดมือไป


ชาวนาทั้งหลายเอ๋ยจงงงงวยไปเถิด ผู้แต่งเถาองุ่นเอ๋ยจงคร่ำครวญ เนื่องด้วยข้าวสาลีและข้าวบารลี เพราะผลของนาก็ถูกทำลายไปหมด


จงเตรียมตัวทำพิธีอดอาหาร จงเรียกประชุมตามพิธี จงรวบรวมบรรดาผู้ใหญ่ และชาวแผ่นดินทั้งสิ้น ไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และร้องทูลต่อพระเจ้า


เมื่อชนชาติทั้งหลายเห็นมันก็กระสับกระส่าย ใบหน้าทุกคนก็ซีดเซียว


และเราก็เรียกความแห้งแล้งมาสู่แผ่นดินและเนินเขา มาสู่ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมันมาสู่สิ่งต่างๆ ซึ่งดินอำนวยผล สู่มนุษย์และสัตว์ และมาสู่ผลงานซึ่งมือกระทำไว้>>


พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า <<เมื่อเราร้องเรียก เขาไม่ฟังฉันใด เมื่อเขาร้องทูล เราก็ไม่ฟังฉันนั้น


คนที่ไม่ตายก็เป็นฝี และเสียงร้องของชาวเมืองนั้นก็ขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์


<<พรุ่งนี้เวลาประมาณเท่านี้ เราจะส่งชายผู้หนึ่งซึ่งมาจากดินแดนเบนยามิน เจ้าจงเจิมเขาให้เป็นเจ้าเหนืออิสราเอลประชากรของเรา เขาจะช่วยประชากรของเราให้พ้นจากมือคนฟีลิสเตีย เพราะเราได้มองดูความทุกข์ใจแห่งประชากรของเราแล้ว ด้วยเสียงร้องทุกข์ของเขามาถึงเรา>>


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan