Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 12:4 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

4 แผ่นดินนี้จะไว้ทุกข์นานเท่าใด และผักหญ้าตามท้องนาทุกแห่งจะเหี่ยวแห้งไปนานเท่าใด เพราะความอธรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น สัตว์และนกก็ถูกกวาดเอาไปสิ้น เพราะเขาว่า <<พระองค์จะไม่ทอดพระเนตรบั้นสุดปลายของเราทั้งหลาย>>

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

4 แผ่นดินนี้จะไว้ทุกข์นานเท่าใด และผักหญ้าตามท้องนาทุกแห่งจะเหี่ยวแห้งไปนานเท่าใด? เพราะความอธรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น สัตว์และนกก็ถูกกวาดไปสิ้น เพราะเขาว่า “พระองค์จะไม่ทอดพระเนตรบั้นปลายของเราทั้งหลาย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

4 แผ่​นดินนี้จะไว้​ทุกข์​นานเท่าใด และผักหญ้าตามท้องนาทุกแห่งจะเหี่ยวแห้งไปนานเท่าใด เพราะความชั่วของผู้​ที่​อาศัยอยู่ในนั้น สัตว์​และนกก็​ถู​กผลาญไปเสียสิ้น เพราะเขาว่า “​พระองค์​จะไม่ทอดพระเนตรบั้นสุดปลายของเราทั้งหลาย”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

4 ดินแดนนี้จะต้องแตกระแหงไปนานเท่าใด? และทุ่งหญ้าทุกแห่งจะเหี่ยวแห้งไปนานเท่าใด? เนื่องจากผู้ที่อาศัยในดินแดนนี้ชั่วร้าย บรรดาสัตว์และนกทั้งหลายจึงพินาศไป ยิ่งกว่านั้นเหล่าประชากรพากันพูดว่า “พระองค์ไม่เห็นหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

4 แผ่นดิน​จะ​แห้งแล้ง​ไป​อีกนาน​แค่ไหน และ​หญ้า​ใน​ท้องทุ่ง​ทุกที่​จะ​เหี่ยวแห้ง​ไปถึง​เมื่อไหร่ เพราะ​ความชั่วช้า​ของ​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ที่นั่น พวกสัตว์​และ​นก​ถึง​ถูก​กวาด​ไปเรียบ สิ่งนี้​ก็จะ​เกิดขึ้น​ด้วย เพราะ​พวกเขา​พูด​ว่า “พระองค์​ไม่เห็น​หรอกว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับเรา”

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

4 ประเทศ​นี้​จะ​เศร้าโศก​นาน​ไป​ถึง​ไหน, แล​พืชผัก​ทั้ง​หลาย​ทุก​นา​ได้​เหี่ยวแห้ง​ไป, เพราะ​ความ​ชั่ว​ของ​เขา​ทั้งปวง, ที่​ได้​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​นั้น. สัตว์บก​ทั้ง​หลาย​ได้​ศูนย์​หาย​แล้ว, แล​ฝูง​นก​ด้วย, เพราะ​เขา​ทั้งปวง​ได้​กล่าว​ว่า, พระองค์​จะ​ไม่​ได้​เห็น​ที่​สิ้นสุด​ของ​พวกเรา.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 12:4
22 Iomraidhean Croise  

แผ่นดินที่มีผลดกให้เป็นที่ร้างเปล่าและเค็ม เพราะเหตุความโหดร้ายของชาวเมือง


เจ้าได้กระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว เราก็นิ่งเงียบ เจ้าคิดว่าเราเป็นเหมือนเจ้า แต่บัดนี้เราขนาบเจ้า และกล่าวโทษเจ้า


โลกก็ไว้ทุกข์และเหี่ยวแห้งไป พิภพก็อ่อนระทวยและเหี่ยวแห้ง คนสูงศักดิ์ของโลกก็อ่อนระทวยไป


เพราะฉะนั้น คำสาปก็กลืนโลก และผู้ที่อาศัยในนั้นก็มีกรรมชั่ว เพราะฉะนั้น ผู้อาศัยของโลกจึงถูกเผาผลาญ มีคนเหลือน้อย


เขาทั้งหลายได้กระทำส่วนของเราให้ร้างเปล่า เมื่อร้างเปล่าส่วนนั้นก็ไว้ทุกข์ต่อเรา แผ่นดินทั้งสิ้นก็ถูกทิ้งให้ร้างเปล่า เพราะไม่มีผู้ใดเอาใจใส่เรื่องนั้น


<<ยูดาห์ไว้ทุกข์ และประตูเมืองทั้งปวงของเธอก็อ่อนกำลังลง ประชาชนของเธอก็แต่งดำหน้าก้มอยู่บนแผ่นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็ขึ้นไป


เพราะว่า แผ่นดินนั้นเต็มไปด้วยการล่วงประเวณี ด้วยเหตุคำสาปแช่งแผ่นดินนั้นก็ไว้ทุกข์ และลานหญ้าในถิ่นทุรกันดารก็แห้งไป วิถีของเขาทั้งหลายก็ชั่วช้า และอำนาจของเขาทั้งหลายก็ไม่เป็นธรรม


ข้าพเจ้ามองดู และนี่แน่ะ ไม่มีมนุษย์เลย นกทั้งปวงแห่งท้องอากาศได้หนีไปแล้ว


เพราะเรื่องนี้โลกจะไว้ทุกข์ และฟ้าสวรรค์เบื้องบนจะดำมืด เพราะเราได้ลั่นวาจาแล้ว เราได้หมายใจไว้แล้ว เราจะไม่เปลี่ยนใจหรือหันกลับ>>


ผู้เผยพระวจนะก็จะเป็นแต่ลมๆ พระวจนะไม่มีในคนเหล่านั้น ขอให้เป็นอย่างนั้นแก่เขาเถิด> >>


คือผู้เผยพระวจนะได้เผยพระวจนะเท็จ และบรรดาปุโรหิตก็ปกครองตามการชี้นิ้วของเขา และประชากรของเราชอบที่มีการอย่างนี้ แต่เจ้าทั้งหลายจะกระทำอะไรเมื่อกาลสุดปลายมาถึง


ฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด ความกริ้วและความโกรธของเราจะเทลงมาบนสถานที่นี้ บนมนุษย์และสัตว์ บนต้นไม้ในท้องทุ่ง และบนพืชผลของแผ่นดิน จะเผาผลาญเสียและจะดับไม่ได้>>


<<จงร้องไห้และครวญครางเหตุภูเขานั้น และคร่ำครวญเหตุลานหญ้าในถิ่นทุรกันดาร เพราะว่ามันถูกทิ้งร้าง ไม่มีผู้ใดผ่านไปมา ไม่ได้ยินเสียงสัตว์เลี้ยงร้อง ทั้งนกในอากาศและสัตว์ ได้หนีไปเสียแล้ว


พระเจ้าตรัสว่า ไม่ควรที่เราจะลงโทษเขาเพราะสิ่งเหล่านี้หรือ ไม่ควรที่เราจะแก้แค้นประชาชาติที่เป็นอย่างนี้หรือ


เพราะฉะนั้น แผ่นดินจึงเป็นทุกข์ บรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นก็อ่อนระอาใจ ทั้งสัตว์ป่าทุ่ง และนกในอากาศด้วย และปลาในทะเลก็ถูกนำเอาไปเสียหมด


สัตว์เดียรัจฉานร้องครวญครางแล้วหนอ ฝูงวัวก็สนเท่ห์ เพราะว่าไม่มีลานหญ้าให้มัน แม้ว่าฝูงแพะแกะก็อ่อนระอาไป


ท่านกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงเปล่งพระสิงหนาทจากศิโยน และทรงเปล่งพระสุรเสียงของพระองค์จาก เยรูซาเล็ม ลานหญ้าของผู้เลี้ยงแกะโศกเศร้า และยอดภูเขาคารเมลก็เหี่ยวไป>>


แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง


แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้ากล่าวว่า <ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา อีกนานเท่าใด พระองค์จะไม่ทรงเมตตากรุงเยรูซาเล็มและหัวเมืองแห่งยูดาห์ ซึ่งพระองค์ก็ทรงกริ้วมาเจ็ดสิบปีแล้วพระเจ้าข้า>


เรารู้อยู่ว่าบรรดาสรรพสิ่งที่ทรงสร้างนั้นกำลังคร่ำครวญ และผจญความทุกข์ยากด้วยกันมาจนทุกวันนี้


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan