Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




เยเรมีย์ 12:16 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

16 และจะเกิดกรณีขึ้นว่า ถ้าเขาทั้งหลายจะอุตส่าห์ศึกษาทางแห่งประชากรของเรา คือปฏิญาณในนามของเราว่า <<ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่>> อย่างที่เขาได้สอนประชากรของเราให้ปฏิญาณโดยพระบาอัล แล้วเขาจะได้รับการสร้างขึ้นไว้ท่ามกลางประชากรของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

16 และถ้าเขาทั้งหลายจะอุตส่าห์ศึกษาทางแห่งประชากรของเรา คือปฏิญาณในนามของเราว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ อย่างที่เขาได้สอนประชากรของเราให้ปฏิญาณโดยพระบาอัลแล้ว เขาจะได้รับการสร้างขึ้นไว้ท่ามกลางประชากรของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

16 และจะเกิดกรณีขึ้​นว​่า ถ้าเขาทั้งหลายจะอุตส่าห์ศึกษาทางแห่งประชาชนของเรา คือปฏิญาณในนามของเราว่า ‘​ตราบใดที่​พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​แน่​’ อย่างที่เขาได้สอนประชาชนของเราให้ปฏิญาณโดยพระบาอัล แล​้วเขาจะได้รับการสร้างขึ้นไว้ท่ามกลางประชาชนของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

16 และหากพวกเขาเรียนรู้วิถีทางของประชากรของเราและปฏิญาณโดยอ้างนามของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ เหมือนที่พวกเขาเคยสอนประชากรของเราให้ปฏิญาณโดยอ้างพระบาอัล เมื่อนั้นเขาจะได้รับการสถาปนาไว้ท่ามกลางประชากรของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

16 ใน​อดีต​พวกเขา​เคย​สอน​คน​ของเรา​ให้​สาบาน​กับ​พระบาอัล แต่​ตอนนี้​ถ้า​พวกเขา​เรียนรู้​วิถีทาง​ของ​คน​ของเรา​จริงๆ​โดย​สาบาน​ใน​นาม​ของเรา ด้วย​การพูด​ว่า ‘พระยาห์เวห์​มีชีวิต​อยู่​แน่​ฉันใด …’ ถ้า​ทำ​อย่างนี้ พวกเขา​ก็​จะ​เจริญ​ขึ้น​ท่ามกลาง​คน​ของเรา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

16 แล​จะ​เกิด​มี​เหตุ​มา, ถ้า​เขา​ทั้งปวง​จะ​หมั่น​เรียน​ใน​ทาง​ทั้ง​หลาย​แห่ง​ไพร่พล​ของ​เรา, เพื่อ​จะ​สบถ​สาบาน​โดย​ชื่อ​ของ​เรา​ว่า​พระ​ยะ​โฮ​วา​ทรง​ชีวิต​อยู่, เหมือน​เขา​ทั้งปวง​ได้​สั่งสอน​ไพร่พล​ของ​เรา​ให้​สบถ​ด้วย​ชื่อ​ของ​บา​ละ, ขณะ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​กู้​ขึ้น​ใน​ที่​ท่ามกลาง​ไพร่พล​ของ​เรา.

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




เยเรมีย์ 12:16
28 Iomraidhean Croise  

โอ แม่งามเลิศในท่ามกลางหญิงทั้งหลาย ถ้าเธอไม่รู้ จงเดินไปตามรอยตีนฝูงแพะแกะ แล้วจงเลี้ยงฝูงแพะแกะของเธอไว้ ที่ข้างเต็นท์ของเมษบาลเถิด


และชนชาติทั้งหลายเป็นอันมากจะมากล่าวว่า <<มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระเจ้า ยังพระนิเวศแห่งพระเจ้าของยาโคบ เพื่อพระองค์จะทรงสอนวิถีของพระองค์แก่เรา และเพื่อเราจะเดินในมรรคาของพระองค์>> เพราะว่าพระธรรมจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระเจ้าจะออกมาจากเยรูซาเล็ม


<<เราคือพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม เราได้ยุดเจ้าและรักษาเจ้าไว้ เราได้ให้เจ้าเป็นตัวพันธสัญญาของมนุษยชาติ เป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ


เราได้ปฏิญาณโดยตัวเราเอง ด้วยความชอบธรรม ถ้อยคำได้ออกไป จากปากของเรา ซึ่งจะไม่กลับ ว่า <ทุกเข่าจะกราบลง ทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา>


พระองค์ตรัสว่า ซึ่งเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อจะยกบรรดาเผ่าของยาโคบขึ้น เพื่อจะให้อิสราเอลที่เหลืออยู่กลับสู่สภาพดีนั้น ดูเป็นการเล็กน้อยเกินไป เราจะมอบให้เจ้าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราจะถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก>>


ดังนั้น ผู้ใดที่ขอพรให้ตนเองในแผ่นดิน จะขอพรให้ตนเองในพระนามพระเจ้าแห่งสัจจะ และผู้ใดที่สาบานในแผ่นดิน จะสาบานในนามพระเจ้าแห่งสัจจะ เพราะความลำบากเก่าแก่นั้นก็ลืมเสียแล้ว และซ่อนเสียจากตาของเรา


ข้าแต่พระเจ้า พระกำลังและที่ กำบังเข้มแข็งของข้าพระองค์ เป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ในวันยากลำบาก บรรดาประชาชาติจะมาเฝ้าพระองค์ จากที่สุดปลายโลก และทูลว่า <<บรรพบุรุษของเราไม่ได้รับมรดกอันใด นอกจากสิ่งมุสา คือสิ่งไร้ค่าซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรในตัว


และถ้าประชาชาตินั้น ซึ่งเราได้ลั่นวาจาไว้เกี่ยวข้องด้วย หันเสียจากความชั่วของตน เราก็จักกลับใจจากโทษ ซึ่งเราได้ตั้งใจจะกระทำแก่ชาตินั้นเสีย


ในครั้งนั้นจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็น พระที่นั่งของพระเจ้า และบรรดาประชาชาติจะรวบรวมกันเข้ามาหายัง พระพักตร์ของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม และเขาจะไม่ติดตามใจอันชั่วของเขาอย่าง ดื้อกระด้างอีกต่อไป


และถ้าเจ้าสาบานอย่างสัจจริงอย่างยุติธรรม และอย่างเที่ยงตรงว่า <ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่> แล้วบรรดาประชาชาติจะให้พรกันในพระนามพระองค์ และเขาทั้งหลายจะอวดพระองค์>>


แม้เขาทั้งหลายกล่าวว่า <<ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่>> เขาก็ยังสาบานอย่างเท็จ


<<เราจะให้อภัยเจ้าได้อย่างไร ลูกหลานของเจ้าได้ละทิ้งเราแล้ว และได้อ้างผู้ที่ไม่ใช่พระเจ้าในการทำสัตย์สาบาน เมื่อเราเลี้ยงเขาให้อิ่ม เขาก็ทำการล่วงประเวณี แล้วก็ยกขบวนกันไปที่เรือนของหญิงแพศยา


พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<จงยืนที่ถนนและมองให้ดี และถามหาทางโบราณนั้น ว่าทางดีอยู่ที่ไหน แล้วจงเดินในทางนั้น และให้จิตใจของท่านได้ความสงบ แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า <เราจะไม่เดินในนั้น>


กำจัดคนเหล่านั้นที่กราบลงบนดาดฟ้าหลังคาตึก เพื่อไหว้บริวารแห่งฟ้าสวรรค์ คนเหล่านั้นที่กราบลงสาบานต่อพระเจ้า แม้กระนั้นก็ยังสาบานโดยพระมิลโคม


แต่ถ้อยคำของเราและกฎเกณฑ์ของเรา ซึ่งเราได้บัญชาแก่ผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรา ก็ได้ติดตามบรรพบุรุษของเจ้าทันมิใช่หรือ>> จนเขากลับใจแล้วกล่าวว่า <<พระเจ้าจอมโยธาทรงดำริว่าจะทรงกระทำแก่เราประการใด ในเรื่องทางและการกระทำของเราพระองค์ทรงกระทำแก่เราอย่างนั้น>>


และประชาชาติเป็นอันมากจะสมทบกันเข้าเป็นฝ่ายพระเจ้าในวันนั้น และจะเป็นประชากรของเรา และเราจะอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย และเจ้าจะทราบว่าพระเจ้าจอมโยธาได้ใช้เรามายังเจ้า


แต่ถ้าทรงหักกิ่งบางกิ่งออกเสียแล้ว และได้ทรงนำท่านผู้เป็นกิ่งมะกอกเทศป่า มาต่อกิ่งไว้แทนกิ่งเหล่านั้น เพื่อให้เข้าเป็นส่วนได้รับน้ำเลี้ยงจากรากต้นมะกอก


เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า <<เรามีชีวิตอยู่แน่นอนฉันใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญพระเจ้า>>


เพราะว่าเราทั้งหลายร่วมกันทำงานเพื่อพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า และเป็นตึกของพระองค์


เพื่อว่าท่านจะมิได้ปะปนกับประชาชาติเหล่านี้ ซึ่งเหลืออยู่ท่ามกลางท่านหรือออกชื่อพระของเขา หรือสาบานในนามพระของเขา หรือปรนนิบัติพระนั้นหรือกราบลงนมัสการพระนั้น


คืนนี้เจ้าจงค้างที่นี่ก่อน พรุ่งนี้เช้า ถ้าเขาจะทำหน้าที่ญาติสนิทเพื่อเจ้าก็ดีแล้ว ให้เขาทำเถอะ ถ้าเขาไม่เต็มใจที่จะทำหน้าที่ญาติสนิทที่ถัดมาเพื่อเจ้า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ฉันจะทำหน้าที่ญาติสนิทที่ถัดมาเพื่อเจ้าแน่ฉันนั้น จงนอนลงเถิดจนกว่าจะรุ่งเช้า>>


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan