Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




2ทิโมธี 4:8 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

8 ต่อแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็จมาของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

8 ตั้งแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาที่ชอบธรรมจะประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และไม่ใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะประทานแก่ทุกคนที่รักการเสด็จมาของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

8 ตั้งแต่นี้ไป มงกุฎแห่งความชอบธรรมก็เตรียมไว้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ซึ่งองค์​พระผู้เป็นเจ้า ผู้​พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิ​ใช่​แก่​ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่​จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่รักการเสด็จมาของพระองค์

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

8 บัดนี้มงกุฎแห่งความชอบธรรมรอข้าพเจ้าอยู่ องค์พระผู้เป็นเจ้าตุลาการผู้เที่ยงธรรมจะประทานมงกุฎนี้เป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และไม่ใช่แก่ข้าพเจ้าคนเดียว แต่จะประทานแก่คนทั้งปวงที่เฝ้าคอยการเสด็จมาของพระองค์ด้วย

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

8 ตอนนี้​รางวัล​แห่ง​ชัยชนะ​นั้น​กำลัง​รอ​ผม​อยู่ คือ​การ​ที่​พระเจ้า​ยอมรับ​ผม องค์​เจ้า​ชีวิต​ผู้​พิพากษา​ที่​ซื่อสัตย์​จะ​มอบ​รางวัล​นี้​ให้​กับ​ผม​ใน​วันนั้น และ​ไม่ได้​ให้​กับ​ผม​คนเดียว แต่​ยังให้​กับ​ทุกคน​ที่​ตั้งหน้า​ตั้งตา​รอคอย​พระองค์​กลับมา

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

8 ตั้งแต่​นี้​ไป​มี​มงกุฎ​แห่ง​ความชอบ​ธรรม​เก็บ​ไว้​สำหรับ​ข้าพ​เจ้า, ซึ่ง​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​พิพากษา​อัน​ชอบ​ธรรม จะ​ทรง​ประทาน​แก่​ข้าพ​เจ้า​ใน​กาล​วัน​นั้น และ​ไม่ใช่​แก่​ข้าพ​เจ้า​คน​เดียว, แต่​จะ​ทรง​ประทาน​แก่​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​มี​ใจ​รัก​ยินดี​ใน​การ​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​ปรากฏ​นั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




2ทิโมธี 4:8
39 Iomraidhean Croise  

ขอพระองค์อย่าคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม ทำกับคนชอบธรรมอย่างเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้พิพากษาสากลโลกจะไม่กระทำสิ่งที่ยุติธรรมหรือ>>


ความดีของพระองค์อุดมสักเท่าใด ที่พระองค์ทรงสะสมไว้เพื่อบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์ และทรงกระทำไว้เพื่อผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ ต่อหน้าบรรดาบุตรของมนุษย์


พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาที่ชอบธรรม และเป็นผู้ประทานคำพิพากษาทุกวัน


เธอจะเอามงคลงามสวมศีรษะเจ้า จะให้มงกุฎงามแก่เจ้า>>


พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า <<เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังชายที่ไว้ชีวิตบุตรของเขาผู้ปรนนิบัติเขา


<<แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว


เมื่อถึงวันนั้นจะมีคนเป็นอันมากร้องแก่เราว่า <พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์กล่าวพระวจนะในพระนามของพระองค์ และได้ขับผีออกในพระนามของพระองค์ และได้กระทำการมหัศจรรย์เป็นอันมากในพระนามของพระองค์ มิใช่หรือ>


เราบอกท่านทั้งหลายว่า โทษของเมืองโสโดมในวันนั้นจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น


แต่เพราะท่านใจแข็งกระด้างไม่ยอมกลับใจ ท่านจึงส่ำสมโทษให้แก่ตัวเอง ในวันที่พระเจ้าทรงลงพระอาชญา ซึ่งพระองค์จะทรงสำแดงการพิพากษาลงโทษที่เที่ยงธรรมให้ประจักษ์


และไม่ใช่เท่านั้น แต่เราทั้งหลายเองด้วย ผู้ได้รับพระวิญญาณเป็นผลแรก ตัวเราเองก็ยังคร่ำครวญคอยการที่พระเจ้าทรงให้เป็นบุตร คือที่จะทรงให้กายของเราทั้งหลายรอดตาย


ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์


การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร


ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบ เขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย


เพราะว่าในร่างกายนี้เรายังครวญคร่ำอยู่ มีความอาลัยที่จะสวมที่อาศัยของเราที่มาจากสวรรค์


ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าก็จะได้เป็นขึ้นมาจากความตายด้วย


โดยเหตุซึ่งมีความหวังอันสะสมไว้สำหรับท่านในสวรรค์ ซึ่งเมื่อก่อนท่านเคยได้ยินมาแล้วในคำแห่งความจริง คือข่าวประเสริฐ


และรอคอยพระบุตรของพระเจ้าจากสวรรค์ ซึ่งพระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นมาจากความตาย คือพระเยซูผู้ทรงช่วยให้เราพ้นจากพระอาชญาที่จะมีมาภายหน้านั้น


แต่พี่น้องทั้งหลาย ท่านไม่ได้อยู่ในความมืดแล้ว วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างขโมยมา


ขณะนั้นคนนอกกฎหมายนั้นก็จะปรากฏตัวขึ้น และพระเยซูเจ้าจะทรงประหารมันด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์ และจะทรงผลาญให้สูญไปด้วยการปรากฏและการเสด็จมาของพระองค์


อย่างนี้จึงจะเป็นการวางรากฐานอันดีไว้สำหรับตนเองในภายหน้า เพื่อว่าเขาจะได้รับเอาชีวิต ซึ่งเป็นชีวิตอันแท้จริง


และบัดนี้ได้ทรงสำแดงให้ประจักษ์ โดยการที่พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเราเสด็จมา ผู้ได้ทรงกำจัดความตายให้สูญสิ้น และได้ทรงกระทำให้ชีวิตและสภาพอมตะกระจ่างแจ้งโดยข่าวประเสริฐ


เพราะเหตุนั้นเองข้าพเจ้าจึงได้ทนทุกข์ลำบากเช่นนี้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้เชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้กับพระองค์ จนถึงวันพิพากษาได้


และเขาได้รับใช้ข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงใด ท่านก็รู้ดีอยู่แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดประทานพระเมตตาแก่เขา ในวันพิพากษาด้วยเถิด


นักกีฬาจะมิได้สวมพวงมาลัยถ้าเขาไม่แข่งขันตามกติกา


ข้าพเจ้ากำชับท่านต่อพระพักตร์พระเจ้า และพระเยซูคริสต์ผู้จะทรงพิพากษาคนเป็นและคนตาย โดยอ้างถึงการที่พระองค์จะเสด็จมาปรากฏและแผ่นดินของพระเจ้าว่า


คอยความสุขซึ่งจะได้รับตามความหวัง ได้แก่การปรากฏของพระสิริของพระเจ้าใหญ่ยิ่งคือพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของเรา


เมื่อมีการตีสอนนั้นดูไม่เป็นที่ชื่นใจเลย เป็นเรื่องเศร้าใจ แต่ต่อมาภายหลังก็จะก่อให้เกิดความสุขสำราญแก่บรรดาคนที่ต้องทนอยู่นั้น คือความชอบธรรมนั้นเอง


พระคริสต์ก็ฉันนั้น คือพระองค์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาครั้งเดียว เพื่อจะได้ทรงแบกบาปของคนเป็นอันมากไว้ พระองค์จะทรงปรากฏเป็นครั้งที่สอง มิใช่เพื่อกำจัดบาป แต่เพื่อช่วยบรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ด้วยใจจดจ่อให้ได้รับความรอด


คนที่อดทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อปรากฏว่าผู้นั้นทนได้แล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิต ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แก่คนทั้งหลายที่รักพระองค์


และเพื่อให้ได้รับมรดก ซึ่งไม่รู้เปื่อยเน่า ปราศจากมลทิน และไม่ร่วงโรยซึ่งได้เตรียมไว้ในสวรรค์เพื่อท่านทั้งหลาย


และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย


ดูเถิด พระองค์จะเสด็จมาพร้อมกับหมู่เมฆ และนัยน์ตาทุกดวง และคนเหล่านั้นที่ได้แทงพระองค์จะเห็นพระองค์ และมนุษย์ทุกชาติทั่วโลกจะร่ำไห้เพราะพระองค์ จะเป็นไปอย่างนั้น อาเมน


แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นสวรรค์เปิดออก และ ดูเถิด มีม้าขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า <สัตย์ซื่อและสัตย์จริง> พระองค์พิพากษาและทรงกระทำสงครามด้วยความเป็นธรรม


อย่ากลัวความทุกข์ทรมานซึ่งเจ้าจะได้รับนั้น นี่แน่ะ มารจะขังพวกเจ้าบางคนไว้ในคุกเพื่อจะลองใจเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะได้รับความทุกข์ทรมานถึงสิบวัน แต่เจ้าจงมีใจมั่นคงอยู่ตราบเท่าวันตาย และเราจะมอบมงกุฎแห่งชีวิตให้แก่เจ้า


พระองค์ผู้ทรงเป็นพยาน ในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ตรัสว่า <<เราจะมาในเร็วๆนี้แน่นอน>> อาเมน พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด


ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่นั้นก็ทรุดตัวลงถวายบังคมพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น และนมัสการพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และถอดมงกุฎออกวางตรงหน้าพระที่นั่งร้องว่า


และล้อมรอบพระที่นั่งนั้นมีที่นั่งอีกยี่สิบสี่ที่นั่ง และมีผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่บนที่นั่งเหล่านั้น ทุกคนนุ่งห่มขาวและสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะ


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan