Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -




2ทิโมธี 1:18 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971

18 และเขาได้รับใช้ข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงใด ท่านก็รู้ดีอยู่แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดประทานพระเมตตาแก่เขา ในวันพิพากษาด้วยเถิด

Faic an caibideil Dèan lethbhreac


Tuilleadh tionndaidhean

ฉบับมาตรฐาน

18 เขาปรนนิบัติข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงไรท่านก็รู้ดีอยู่แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เขาได้รับพระเมตตาจากพระองค์ ในวันพิพากษาด้วยเถิด

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

18 และเขาได้​ปรนนิบัติ​ข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงใด ท่านก็​รู้ดี​อยู่​แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดประทานพระเมตตาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่เขาในวันนั้นด้วยเถิด

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

18 ขอพระเจ้าทรงให้เขาได้รับพระเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนั้นด้วยเถิด! ท่านก็ทราบดีว่าเมื่ออยู่ที่เมืองเอเฟซัสเขาได้ช่วยเหลือข้าพเจ้าในหลายๆ ด้าน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

18 ขอ​องค์​เจ้า​ชีวิต​โปรด​ให้​ความ​เมตตา​กับ​เขา​ใน​วันนั้น​ด้วยเถิด และ​คุณ​ก็​รู้ดี​ว่า​ตอนที่​ผม​อยู่​ที่​เมือง​เอเฟซัส​นั้น เขา​ได้​ช่วย​ผม​มาก​ขนาดไหน

Faic an caibideil Dèan lethbhreac

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

18 และ​เขา​ได้​ปรนนิบัติ​ข้าพ​เจ้า​ที่​เมือง​เอเฟ​โซ​มาก​เท่าใด ท่าน​ก็​รู้​อยู่​ดีๆ แล้ว. ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​โปรด​ประทาน​พระ​กรุณา​ของ​พระ​องค์​แก่​เขา ใน​กาล​วัน​ซึ่ง​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​นั้น

Faic an caibideil Dèan lethbhreac




2ทิโมธี 1:18
26 Iomraidhean Croise  

และท่านร้องทูลพระเจ้าว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ทรงนำเหตุร้ายมา จนกระทั่งหญิงม่ายนี้ที่ข้าพระองค์อาศัยอยู่ด้วยทีเดียวหรือ โดยที่ทรงประหารบุตรของนางเสีย>>


ดังนั้นจึงทรงสำแดงพระกรุณาซึ่งทรงสัญญาแก่บรรพบุรุษของเรา และทรงระลึกถึงพันธสัญญาบริสุทธิ์ของพระองค์


โดยพระทัยเมตตากรุณาแห่งพระเจ้าของเรา แสงอรุณจากเบื้องสูงจึงมาเยี่ยมเยียนเรา


และโยอันนาภรรยาของคูซา ต้นเรือนของเฮโรด และสูสันนาและผู้หญิงอื่นๆ หลายคนที่เคยปรนนิบัติพระองค์และสาวกด้วยปัจจัยของเขา


ครั้นมายังเมืองเอเฟซัส เปาโลได้ละปริสสิลลากับอาควิลลาไว้ที่นั่น แต่ท่านเองได้เข้าไปพูดกับพวกยิวในธรรมศาลา


แต่ได้ลาเขาไปกล่าวว่า <<ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาหาท่านทั้งหลายอีก>> แล้วเปาโลได้ลงเรือแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส


ขณะที่อปอลโลยังอยู่ในเมืองโครินธ์ เปาโลได้ไปตามที่ดอน แล้วมายังเมืองเอเฟซัส ท่านพบสาวกบางคนที่นั่น


พระองค์จะทรงให้ท่านมั่นคงอยู่จนถึงที่สุด เพื่อให้ท่านปราศจากที่ติในวันของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา


แต่ข้าพเจ้าจะอยู่ที่เมืองเอเฟซัสจนถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์


การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร


ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเขียนถึงท่าน ในเรื่องการสงเคราะห์ธรรมิกชน


แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา เพราะเหตุความรักอันใหญ่หลวง ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น


เพราะอะไรเล่าจะเป็นความหวังหรือความชื่นชมยินดี หรือสิ่งภูมิใจ จำเพาะพระพักตร์พระเยซูคริสตเจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา ก็มิใช่ท่านทั้งหลายดอกหรือ


เมื่อข้าพเจ้าได้ไปยังแคว้นมาซิโดเนีย ข้าพเจ้าได้ขอร้องให้ท่านคอยอยู่ในเมืองเอเฟซัส เพื่อท่านจะได้กำชับบางคนไม่ให้เขาสอนแปลกออกไป


เพราะเหตุนั้นเองข้าพเจ้าจึงได้ทนทุกข์ลำบากเช่นนี้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้เชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้กับพระองค์ จนถึงวันพิพากษาได้


ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเมตตาแก่ครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วยเถิด เพราะเขาได้กระทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจบ่อยๆ เขาไม่มีความรังเกียจโซ่ตรวนของข้าพเจ้าเลย


แต่เมื่อเขามาถึงกรุงโรม เขาได้อุตส่าห์สืบหาข้าพเจ้าจนพบ


ข้าพเจ้าได้ส่งทีคิกัส ไปยังเมืองเอเฟซัสแล้ว


ต่อแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็จมาของพระองค์


เพราะว่าพระเจ้าไม่ทรงอธรรม ที่จะทรงลืมการงานซึ่งท่านได้กระทำ เพราะความรักที่ท่านมีต่อพระนามของพระองค์ คือการรับใช้ธรรมิกชนนั้น ดังที่ท่านยังรับใช้อยู่


บรรดาผู้เผยพระวจนะผู้ได้พยากรณ์ถึงพระคุณซึ่งจะบังเกิดแก่ท่านทั้งหลาย ก็ได้สืบค้นและสอบถามเกี่ยวกับเรื่องความรอดนี้


<<จงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส ว่า <พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์เบื้องขวา และดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสดังนี้ว่า


Lean sinn:

Sanasan


Sanasan