เยเรมีย์ 42:2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19402 แลพูดแก่ยิระมะยาผู้ทำนายว่า, ข้าพเจ้าทั้งหลายจะขออ้อนวอนขอท่านได้โปรดให้ความอ้อนวอนของพวกข้าพเจ้ามาเป็นที่รับตรงหน้าท่าน, แลได้วิงวอนขอแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, เพื่อบรรดาเหลือเศษคนเหล่านี้, ด้วยพวกข้าพเจ้าเป็นคนที่เหลือน้อยตัวคนออกมาจากที่เป็นพวกมากมาย, เหมือนตาของท่านได้เห็นพวกข้าพเจ้า (ขออ้อนวอน) Faic an caibideilTuilleadh tionndaidheanฉบับมาตรฐาน2 และพูดกับเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะว่า “โปรดฟังคำร้องของพวกเรา และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อพวกเราที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะเราเหลืออยู่น้อยคนจากเดิมที่มีคนมากมาย ตามที่ท่านเห็นอยู่กับตาแล้ว Faic an caibideilพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV2 และพูดกับเยเรมีย์ผู้พยากรณ์ว่า “ขอให้คำอ้อนวอนของข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นที่ยอมรับต่อหน้าท่าน และขอท่านอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเพื่อเราทั้งหลาย เพื่อคนที่เหลืออยู่นี้ทั้งสิ้น (เพราะเรามีเหลือน้อยจากคนมาก ตามที่ท่านเห็นอยู่กับตาแล้ว) Faic an caibideilพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย2 และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว Faic an caibideilพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย2 แล้วพวกเขาก็พูดกับเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ขอได้โปรดรับฟังคำอ้อนวอนของพวกเราด้วย ช่วยอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เผื่อพวกเราและชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่นี้ด้วยเถอะ เพราะพวกเราเหลือกันแค่ไม่กี่คนอย่างที่ท่านเห็นนี้ จากที่เคยมีกันอยู่มากมาย Faic an caibideilพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)2 และพูดดังนี้ว่า “พวกเราอ้อนวอนขอความเมตตาจากท่าน ขอท่านโปรดอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้พวกเราเถิด เพื่อผู้คนทั้งหมดที่มีชีวิตเหลืออยู่นี้ เนื่องจากพวกเรามีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน อย่างที่ท่านก็เห็น Faic an caibideil |
ชะรอยพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, คงได้ยินข้อความของแม่ทัพรับซาเค, ซึ่งกษัตริย์ประเทศอะซูระนายของเขาได้ใช้ให้มาดูหมิ่นดูถูกพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่, และจะได้ทรงคัดง้างถ้อยคำทั้งหลายซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของท่านทรงได้ยินนั้น; เหตุฉะนั้นขอให้ท่านได้อธิษฐานทูลขึ้นไปขอเผื่อชาติยิศราเอลที่ยังเหลืออยู่นั้น!’ ”
เหตุฉะนี้ข้าแต่ท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า, ผู้เป็นกษัตริย์, ข้าพเจ้าจะขอท่านได้โปรดให้คำอ้อนวอนของข้าพเจ้าที่เห็นชอบตรงพระพักตรท่าน, เพื่อท่านจะได้โปรดไม่ให้ข้าพเจ้ากลับไปอยู่ในเรือนของโยนาธานอาลักษณ์นั้นอีก, กลัวเกลือกว่า, ข้าพเจ้าจะต้องตายในที่นั้น.
ขณะนั้นโยฮานานบุตรของฆาเรียจึงพูดแก่ฆะดัลยาในเมืองมิศฟาเป็นความลับว่า, ขอท่านได้โปรดยอมให้ข้าพเจ้าไป, แลข้าพเจ้าจะฆ่ายิศมาเอลบุตรของนะธันยา, แลจะไม่มีใครรู้ถึงเลย, เหตุผลประการใดเขาจะมาฆ่าตัวท่านแลบรรดาพวกยูดายซึ่งได้ประชุมกันอาศัยแก่ท่านจะต้องกระจัดกระจายไป, แลพวกยะฮูดาอันเหลือเศษอยู่จะได้ความฉิบหายอีกเล่า.
เพราะพวกเจ้าได้แกล้งฉ้อในใจพวกเจ้า, เมื่อเจ้าได้ใช้ข้าพเจ้าให้ไปหาพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเจ้าว่า, ขอให้วิงวอนพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเราเพื่อเราทั้งหลาย, แลบรรดาซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเราจะตรัส, จงบอกพวกเราอย่างนั้น, แลพวกเราจะประพฤติตามทุกสิ่งทุกอย่าง.
กรุงที่แต่ก่อนคับคั่งด้วยพลเมือง, บัดนี้มาอ้างว้างอยู่ได้อย่างไรหนอ? กรุงที่แต่ก่อนรุ่งเรืองในท่ามกลางเมืองทั้งปวงนั้น, ครั้นมาบัดนี้กลายเป็นดุจดังหญิงม่ายอย่างไรกันหนอ? กรุงที่เคยเป็นดังเจ้าหญิงในท่ามกลางอาณานิคมทั้งหลายนั้น, มีอย่างไรจึงกลับมาเป็นเมืองต้องส่งส่วยเช่นนี้หนอ?