5 “เยียะหยังบ่เอาน้ำมันหอมนี้ไปขาย แล้วเอาสตางค์มาปั๋นหื้อกับคนตุ๊กคนจ๋น ถ้าขายจะได้สตางค์เหรียญเถิงสามร้อย”
“บ่ากองคนฮับใจ๊คนนั้นออกไปแล้ว ไปปะเปื้อนตี้เป๋นคนฮับใจ๊ตวยกั๋น ตี้เป๋นหนี้เขาอยู่นึ่งร้อยเดนาริอัน เขาก็เข้าไปบีบคอเปื้อนคนฮับใจ๊คนนั้นแล้วสั่งว่า ‘ส้ายสตางค์ตี้เป๋นหนี้มาบ่าเดี่ยวนี้เลย’
เมื่อตกลงกั๋นแล้วว่าจะหื้อก้าแฮงนึ่งเดนาริอันต่อวัน แล้วก็ส่งคนงานเข้าไปเยียะก๋านในสวนองุ่น
ต้านตังหลายจงขายของตี้มีอยู่ แล้วแจกหื้อคนตุ๊ก หื้อแป๋งถงสตางค์ตี้บ่มีวันปุด คือมีทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ตี้บ่ฮู้จักหมด ตี้ขโมยก็บ่เข้ามาใก้ แมงก็บ่มาขบกิ๋น
เมื่อพระเยซูได้ยินจาอั้นก็บอกเขาว่า “ต้านยังบ่ได้เยียะแหมอย่างนึ่งคือหื้อไปขายของกู้อย่างตี้ต้านมีอยู่ แล้วเอาสตางค์ไปแจกคนตุ๊กคนจ๋น ต้านจึงจะมีสมบัติในสวรรค์ แล้วตวยเฮามาเป๋นสาวกของเฮาเต๊อะ”
“เป๋นจาใดต้านผ่อหันขี้ฝุ่นตี้อยู่ในต๋าปี้น้องของต้าน แต่ไม้ตึงดุ้นอยู่ในต๋าตั๋วเก่าผ่อบ่หัน
แต่ยูดาส อิสคาริโอท สาวกคนนึ่งของพระเยซู คนตี้จะหักหลังพระองค์ ก็อู้ว่า
ตี้ยูดาสอู้จาอี้บ่ใจ้ว่าเขาเป๋นห่วงคนตุ๊ก แต่ย้อนว่าเขาเป๋นคนขี้ลัก ซอบลักสตางค์ในถงสตางค์ส่วนรวมตี้เขาเป๋นคนผ่อ
บางคนก็กึ๊ดว่า ย้อนยูดาสเป๋นคนผ่อถงสตางค์ พระเยซูเลยบอกหื้อเขาไปซื้อของตี้จะใจ๊ในงาน กาว่าพระองค์บอกหื้อยูดาสแจกของหื้อคนตุ๊กพ่อง
ฟีลิปก็บอกว่า “ก้าจ้างสองร้อยวัน ยังบ่ปอซื้อของกิ๋นหื้อหมู่เขากิ๋นกั๋นคนละหน้อยเลย”