อิสยาห์ 7 - ฉบับมาตรฐานอิสยาห์ให้ความมั่นใจต่อกษัตริย์อาหัส ( 2 พกษ.16:5 ; 2 พศด.28:5-15 ) 1 ในรัชกาลของอาหัสพระราชโอรสของโยธาม พระราชโอรสของอุสซียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ เรซีนกษัตริย์แห่งซีเรีย และเปคาห์บุตรของเรมาลิยาห์ กษัตริย์แห่งอิสราเอลขึ้นมายังเยรูซาเล็ม เพื่อทำสงครามกับเมืองนั้น แต่ไม่อาจรบชนะเมืองนั้น 2 เมื่อเขาไปรายงานต่อราชวงศ์ของดาวิดว่า “ซีเรียมาตั้งค่ายอยู่ในเขตเอฟราอิมแล้ว” พระทัยของพระองค์และใจของประชาชนของพระองค์ก็สั่นเหมือนต้นไม้ในป่าสั่นขณะต้องแรงลม 3 และพระยาห์เวห์ตรัสกับอิสยาห์ว่า “จงออกไปพบอาหัส ทั้งตัวเจ้าและเชอารยาชูบบุตรชายของเจ้า ณ ปลายท่อส่งน้ำของสระบนตรงถนนลานซักฟอก 4 และจงกล่าวกับเขาว่า ‘จงระวัง จงสงบ และอย่ากลัว อย่าให้ใจของเจ้าขลาดกลัว เนื่องจากเศษดุ้นฟืนจวนมอดสองชิ้นนี้ เพราะความกริ้วรุนแรงของเรซีน ซีเรียและบุตรของเรมาลิยาห์ 5 เพราะว่าซีเรียและเอฟราอิมรวมทั้งบุตรของเรมาลิยาห์ได้วางแผนชั่วร้ายต่อเจ้า กล่าวว่า 6 “ให้เราทั้งหลายขึ้นไปต่อสู้กับยูดาห์ และทำให้มันหวาดกลัว แล้วให้เราทะลวงเมืองของเขาเพื่อพวกเราเอง และตั้งบุตรของทาเบเอลให้เป็นกษัตริย์ในเมืองนั้น” ’ ” 7 พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า “มันจะไม่เป็นเช่นนั้น และมันจะไม่เกิดขึ้น 8 เพราะเศียรของซีเรียคือดามัสกัส และเศียรของดามัสกัสคือเรซีน (เอฟราอิมจะแตกเป็นชิ้นๆ จนไม่เป็นชนชาติภายใน 65 ปี) 9 และเศียรของเอฟราอิมคือสะมาเรีย และเศียรของสะมาเรียคือบุตรของเรมาลิยาห์ ถ้าเจ้าไม่เชื่อมั่น เจ้าก็ไม่อาจตั้งมั่น” อิสยาห์ให้หมายสำคัญแก่อาหัสเกี่ยวกับอิมมานูเอล 10 พระยาห์เวห์ตรัสกับอาหัสอีกว่า 11 “จงขอหมายสำคัญจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ไม่ว่าจะให้ลึกถึงแดนคนตายหรือสูงเทียมฟ้าก็ได้” 12 แต่อาหัสตอบว่า “เราจะไม่ทูลขอ และเราจะไม่ลองพระยาห์เวห์ดู” 13 และอิสยาห์กล่าวว่า “ข้าแต่ราชวงศ์ของดาวิด ขอทรงฟัง การทำให้มนุษย์อ่อนใจนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกฝ่าพระบาทหรือ? และพวกฝ่าพระบาทยังให้พระเจ้าของข้าพระบาทอ่อนพระทัยด้วยหรือ? 14 เพราะฉะนั้น องค์เจ้านายจะประทานหมายสำคัญด้วยพระองค์เอง นี่แน่ะ หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และคนจะเรียกนามของเขาว่า อิมมานูเอล 15 เขาจะรับประทานนมข้นและน้ำผึ้ง ในเวลาที่เขารู้จักปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี 16 เพราะก่อนที่เด็กนั้นจะรู้จักปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี แผ่นดินของกษัตริย์ทั้งสององค์ซึ่งฝ่าพระบาทหวาดกลัวนั้นจะร้างเปล่าไป 17 พระยาห์เวห์จะทรงนำวันเวลานั้นมาเหนือฝ่าพระบาท เหนือชนชาติของฝ่าพระบาทและเหนือเชื้อสายพระราชบิดาของฝ่าพระบาท เป็นวันเวลาอย่างที่ไม่เคยปรากฏตั้งแต่สมัยเอฟราอิมแยกจากยูดาห์ คือวันเวลาของพระราชาของอัสซีเรีย 18 “ในวันเวลานั้น พระยาห์เวห์จะทรงผิวพระโอษฐ์เรียกเหลือบซึ่งอยู่ทางต้นน้ำของแม่น้ำแห่งอียิปต์ และเรียกผึ้งซึ่งอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรีย 19 แล้วพวกมันจะมากันหมด และเกาะอยู่ตามห้วยชัน ในซอกหิน และบนต้นหนามขี้แรดทั้งหมดและบนลานหญ้าทั้งสิ้น 20 “ในวันนั้น องค์เจ้านายจะทรงใช้มีดโกนซึ่งเช่ามาจากดินแดนอีกฟากของแม่น้ำยูเฟรติส คือพระราชาของอัสซีเรีย ในการโกนศีรษะ ขนในที่ลับ และจะทึ้งหนวดเคราออกไปด้วย 21 “ในวันนั้นชายคนหนึ่งจะเลี้ยงแม่โคสาวไว้ตัวหนึ่งและแกะสองตัว 22 และเพราะมันให้นมมากมาย เขาจะรับประทานนมข้น เพราะว่าทุกคนที่เหลืออยู่ในแผ่นดินจะรับประทานนมข้นและน้ำผึ้ง 23 “ในวันนั้น ทุกแห่งที่เคยมีเถาองุ่นหนึ่งพันเถา ซึ่งมีค่าเป็นเงิน 1,000 เชเขล จะกลายเป็นต้นหนามย่อยและหนามใหญ่ 24 ผู้คนจะไปที่นั่นพร้อมกับคันธนูและลูกธนู เพราะว่าทั้งแผ่นดินจะมีแต่หนามย่อยและหนามใหญ่ 25 ส่วนเนินเขาทุกแห่งที่เคยถูกขุดด้วยจอบ เจ้าจะไม่ไปที่นั่นเพราะกลัวหนามย่อยและหนามใหญ่ แต่เนินเขาเหล่านั้นจะกลายเป็นที่ซึ่งเขาปล่อยฝูงโคเดินเล่น และที่ซึ่งให้ฝูงแกะเหยียบย่ำ” |