เอ็กโซโด 15 - ฉบับมาตรฐานบทเพลงของโมเสส ( อพย.14:13-14 ; สดด.78:12-14 ) 1 ขณะนั้นโมเสสกับชนชาติอิสราเอลร้องเพลงบทนี้ถวายพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพระองค์จะร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงได้ชัยชนะอย่างใหญ่หลวง พระองค์ทรงกวาดม้าและพลม้าลงในทะเล 2 พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพระองค์ พระองค์นี่แหละเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าแห่งบิดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ 3 พระยาห์เวห์ทรงเป็นนักรบ ยาห์เวห์คือพระนามของพระองค์ 4 “พระองค์ทรงเหวี่ยงรถรบและกองกำลังของฟาโรห์ลงทะเล นายทหารชั้นยอดของฟาโรห์ก็จมในทะเลแดง 5 น้ำท่วมพวกเขามิด พวกเขาจมลงเหมือนก้อนหินในทะเลลึก 6 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงอานุภาพยิ่ง ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงบดขยี้ศัตรู 7 ด้วยเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงคว่ำปฏิปักษ์ของพระองค์เสีย พระองค์ทรงส่งพระพิโรธของพระองค์เผาผลาญพวกเขาเสียอย่างเผาตอข้าว 8 โดยลมที่ระบายจากช่องพระนาสิกน้ำก็รวมตัวเป็นกองสูงขึ้น น้ำท่วมก็ตั้งสูงขึ้นดังกำแพง ที่ลึกในใจกลางท้องทะเลก็แข็งตัว 9 ข้าศึกกล่าวว่า ‘ข้าจะติดตาม ข้าจะไล่ให้ทัน ข้าจะแบ่งของริบกัน ข้าจะพอใจที่ได้ทำกับพวกเขาสมดังใจ ข้าจะชักดาบออก มือข้าจะทำลายพวกเขาเสีย’ 10 พระองค์ทรงบันดาลให้ลมพัดมา น้ำทะเลก็ท่วมพวกเขามิด พวกเขาจมลงเหมือนตะกั่วในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวนั้น 11 “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ในบรรดาพระต่างๆ องค์ไหนจะเป็นเหมือนพระองค์เล่า? องค์ไหนจะเหมือนพระองค์ผู้ทรงงามสง่าในความบริสุทธิ์ และน่าเกรงขามด้วยพระสิริและทรงทำการอัศจรรย์? 12 พระองค์เหยียดพระหัตถ์ขวาออก แผ่นดินก็กลืนพวกเขาเสีย 13 “ด้วยความรักมั่นคง พระองค์ทรงนำชนชาติซึ่งทรงไถ่ไว้ ด้วยพระเดชานุภาพ พระองค์ทรงพาพวกเขามาถึงที่สถิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ 14 ชนชาติทั้งหลายได้ยินแล้ว ก็พากันสะทกสะท้าน คนฟีลิสเตียรู้สึกปวดร้าว 15 ครั้งนั้นพวกเจ้านายแห่งเอโดมก็พากันหวาดผวา และพวกผู้นำแห่งโมอับก็ตัวสั่น คนคานาอันทั้งปวงก็ระส่ำระสายไป 16 ความรู้สึกสยดสยองและความตกใจกลัวอุบัติขึ้นในใจของพวกเขา เนื่องด้วยฤทธานุภาพแห่งพระกรของพระองค์ พวกเขาหยุดนิ่งอยู่เหมือนก้อนหิน ข้าแต่พระยาห์เวห์ จนประชากรของพระองค์ผ่านพ้นไป จนชนชาติซึ่งพระองค์ทรงซื้อไว้แล้วผ่านไป 17 พระองค์ทรงนำพวกเขาเข้ามา และให้เขาตั้งหลักแหล่งบนภูเขาของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ เป็นสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้เพื่อเป็นที่ประทับของพระองค์ ข้าแต่องค์เจ้านาย สถานนมัสการซึ่งพระหัตถ์ของพระองค์ทรงสถาปนาไว้ 18 พระยาห์เวห์จะทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์นิรันดร์” 19 เพราะเมื่อกองม้าของฟาโรห์กับรถรบและพลม้าของท่านลงไปในทะเล พระยาห์เวห์ก็ทรงให้น้ำทะเลไหลกลับมาท่วมเสีย แต่ชนชาติอิสราเอลเดินไปบนดินแห้งกลางทะเลนั้น บทเพลงของมิเรียม ( กดว.26:59 ) 20 มิเรียมผู้เผยพระวจนะหญิง พี่สาวของอาโรนก็ถือรำมะนา และหญิงทั้งหมดก็ถือรำมะนาเดินตามพร้อมกับเต้นรำไปด้วย 21 มิเรียมจึงร้องตอบพวกเขาว่า “จงร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์เถิดเพราะพระองค์ทรงได้ชัยชนะอย่างใหญ่หลวง พระองค์ทรงกวาดม้าและพลม้าลงในทะเล” น้ำขมกลายเป็นน้ำจืด 22 ต่อมาโมเสสนำพวกอิสราเอลออกจากทะเลแดงไปยังถิ่นทุรกันดารชูร์ พวกเขาเดินไปในถิ่นทุรกันดารสามวันโดยไม่พบน้ำเลย 23 เมื่อมาถึงตำบลมาราห์ พวกเขาก็ดื่มน้ำที่ตำบลมาราห์นั้นไม่ได้ เพราะน้ำขม เพราะฉะนั้นจึงตั้งชื่อว่ามาราห์ 24 ประชาชนก็พากันบ่นต่อว่าโมเสสว่า “เราจะเอาอะไรดื่ม?” 25 โมเสสก็ร้องทูลพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์จึงทรงชี้ให้ท่านเห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง เมื่อท่านโยนมันลงน้ำ น้ำก็จืด ณ ที่นั้น พระองค์ประทานกฎเกณฑ์และกฎหมายไว้ อีกทั้งทรงลองใจพวกเขา 26 พระองค์ตรัสว่า “ถ้าเจ้าใส่ใจฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระองค์ อีกทั้งเงี่ยหูฟังพระบัญญัติของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์ทุกประการแล้ว โรคต่างๆ ซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่คนอียิปต์นั้น เราจะไม่ให้เกิดขึ้นกับเจ้าเลย เพราะเราคือยาห์เวห์แพทย์ของเจ้า” 27 พวกเขามาถึงเอลิม ที่มีบ่อน้ำพุสิบสองบ่อ มีต้นอินทผลัมเจ็ดสิบต้น พวกเขาจึงตั้งค่ายใกล้บ่อน้ำนั้น |