เศฟันยาห์ 3 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971บาปของเยรูซาเล็มและการไถ่ 1 วิบัติแก่เมืองนี้ที่เป็นเมืองกบฏ และเป็นมลทิน เป็นเมืองที่บีบบังคับเขา 2 เธอไม่ยอมฟังเสียงใดๆ และไม่ยอมรับการตีสอนใดๆ เธอไม่วางใจในพระเจ้า และเธอไม่เข้ามาใกล้พระเจ้าของเธอ 3 เจ้านายที่อยู่ในเมืองนี้ ก็เหมือนสิงห์ที่คำราม ผู้พิพากษาของเธอก็เหมือนหมาป่ายามเย็น ซึ่งไม่ยอมทิ้งอะไรไว้จนรุ่งเช้า 4 ผู้เผยพระวจนะของเธอเป็นคนพาล เป็นคนทรยศ บรรดาปุโรหิตของเธอก็กระทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นสาธารณ์ เขาฝ่าฝืนต่อธรรมบัญญัติ 5 พระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ในเมืองนั้นชอบธรรม พระองค์มิได้ทรงกระทำผิดเลย ทุกเช้าพระองค์สำแดงความยุติธรรมของพระองค์ ทุกรุ่งอรุณมิได้ทรงขาดเลย แต่คนอยุติธรรมไม่รู้จักอาย 6 <<เราได้กำจัดประชาชาติทั้งหลายเสีย สันปราการของเขาพังทะลาย เรากระทำให้ถนนในเมืองนั้นร้างเปล่า ไม่มีผู้ใดเดินในนั้น หัวเมืองของเขาถูกทิ้งร้าง ไม่มีคน ไม่มีชาวเมืองเหลือ 7 เรากล่าวว่า <แท้จริง เมืองนั้นคงจะยำเกรงเรา เธอจะยอมรับการตีสอน เธอคงจะไม่ทิ้งสายตาไปเสียจาก บรรดาสิ่งต่างๆที่เรากำชับเธอ> แต่เขาทั้งหลายยิ่งกลับร้อนใจ ที่จะให้การกระทำของเขาเสื่อมทราม>> 8 พระเจ้าจึงตรัสว่า <<เพราะฉะนั้นจงคอยเรา คอยวันที่เราลุกขึ้นเป็นพยาน เพราะการตกลงใจของเราก็คือจะรวมประชาชาติ ให้ราชอาณาจักรชุมนุมกัน เพื่อเทความกริ้วของเราบนเขาทั้งหลาย คือความร้อนแรงแห่งความโกรธของเรา เพราะว่าพิภพทั้งสิ้นถูกเผาผลาญ ในไฟแห่งความหวงแหนของเรา 9 เออ ในคราวนั้น เราจะเปลี่ยนริมฝีปากของชนชาติทั้งหลาย ให้เป็นริมฝีปากบริสุทธิ์ เพื่อว่าทุกคนจะร้องทูลออกพระนามพระเจ้า และปรนนิบัติพระองค์เป็นใจเดียวกัน 10 บุคคลที่ทูลขอต่อเรา คือคนของเราที่ถูกกระจัดพลัดพรากไป จะนำเอาเครื่องบูชาของเรามา จากฟากข้างโน้นของแม่น้ำแห่งเอธิโอเปีย 11 <<ในวันนั้น เจ้าจะไม่ถูกกระทำให้อับอาย ด้วยการกระทำซึ่งเจ้าได้กบฏต่อเรา เพราะในเวลานั้นเราจะคัดผู้โอ้อวดเห่อเหิมนั้น ออกเสียจากท่ามกลางเจ้า เจ้าจึงจะไม่เย่อหยิ่งจองหอง ในภูเขาบริสุทธิ์ของเราอีกต่อไป 12 เพราะเราจะเหลือแต่คนที่ถ่อมใจและเจียมตัว ไว้ในท่ามกลางเจ้า เขาจะแสวงหาที่ลี้ภัยในพระนามแห่งพระเจ้า 13 บรรดาคนที่เหลืออยู่ในอิสราเอล เขาจะไม่กระทำความผิด และไม่กล่าวคำมุสา และในปากของเขานั้น จะหาลิ้นที่ล่อลวงก็ไม่มี เพราะเขาทั้งหลายจะเที่ยวหากินและนอนลง และไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัวเกรง>> 14 <<โอ บุตรีแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องเพลงเสียงดัง โอ อิสราเอลเอ๋ย จงโห่ร้องเถิด จงเปรมปรีดิ์และลิงโลดด้วยเต็มใจของเจ้า เถิดนะ บุตรีแห่งเยรูซาเล็ม 15 พระเจ้าทรงล้มเลิกการพิพากษาลงโทษเจ้าแล้ว พระองค์ทรงขับไล่ศัตรูของเจ้าออกไปแล้ว กษัตริย์แห่งอิสราเอลคือพระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า เจ้าจะไม่กลัวภัยพิบัติอีกต่อไป 16 ในวันนั้น เขาจะพูดกับเยรูซาเล็มว่า <โอ ศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลย อย่าให้มือของเจ้าอ่อนเพลียไป 17 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง 18 ดั่งในวันที่มีการเลี้ยง> เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้ 19 ดูเถิด ในคราวนั้นเราจะทำโทษผู้ที่ บีบบังคับเจ้าทุกคน เราจะช่วยคนขาพิการและรวบรวมคนที่ กระจัดกระจายไป และเราจะเปลี่ยนความอับอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญ และให้เป็นเสียงลือไปในโลก 20 ในคราวนั้น เราจะนำเจ้ากลับเข้ามา คือในคราวที่เรารวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน เออ เราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญ ในท่ามกลางบรรดาชนชาติทั้งหลายของโลก คือเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ |