เศคาริยา 1 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971เรียกให้กลับมาสู่พระเจ้า 1 ในเดือนที่แปด ปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระวจนะของพระเจ้ามายังเศคาริยาห์ บุตรเบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรอิดโด ผู้เผยพระวจนะว่า 2 <<พระเจ้าทรงกริ้วต่อบรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง 3 เพราะฉะนั้น จงกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า จงกลับมาหาเรา พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ เราจะกลับมาหาเจ้า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ 4 อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษของเจ้า ซึ่งบรรดาผู้เผยพระวจนะคนก่อนๆร้องบอกเขาว่า <พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า จงหันกลับเสียจากทางชั่วของเจ้า และจากการกระทำที่ชั่วของเจ้าเถิด> พระเจ้าตรัสว่า แต่เขาไม่ได้ยินและมิได้ฟังเรา 5 บรรพบุรุษของเจ้า เขาอยู่ที่ไหน พวกผู้เผยพระวจนะเล่า เขามีชีวิตอยู่เป็นนิตย์หรือ 6 แต่ถ้อยคำของเราและกฎเกณฑ์ของเรา ซึ่งเราได้บัญชาแก่ผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรา ก็ได้ติดตามบรรพบุรุษของเจ้าทันมิใช่หรือ>> จนเขากลับใจแล้วกล่าวว่า <<พระเจ้าจอมโยธาทรงดำริว่าจะทรงกระทำแก่เราประการใด ในเรื่องทางและการกระทำของเราพระองค์ทรงกระทำแก่เราอย่างนั้น>> นิมิตของผู้เผยพระวจนะเรื่องม้า 7 เมื่อวันที่ยี่สิบสี่เดือนที่สิบเอ็ด ซึ่งเป็นเดือนเชบัท ในปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระวจนะของพระเจ้ามายังเศคาริยาห์ ผู้เผยพระวจนะบุตรเบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรอิดโด และเศคาริยาห์กล่าวว่า 8 <<ณ กลางคืนวันหนึ่ง ข้าพเจ้าได้มองดู และดูเถิด มีชายคนหนึ่งขี่ม้าสีแดงยืนอยู่ท่ามกลางต้นน้ำมันเขียว ที่ลานหุบเขา ณ เบื้องหลังท่านผู้นั้นมีม้าสีแดง สีแสด และสีขาว 9 แล้วข้าพเจ้าจึงถามว่า <นายเจ้าข้า เหล่านี้คืออะไร> ทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าบอกข้าพเจ้าว่า <เราจะสำแดงให้เจ้าทราบว่า เหล่านี้คืออะไร> 10 เหตุฉะนั้นชายที่ยืนอยู่ท่ามกลางต้นน้ำมันเขียวจึงบอกว่า <เหล่านี้คือผู้ที่พระเจ้าทรงใช้ให้ไปเที่ยวตรวจตราโลก> 11 และเขาเหล่านั้นได้ตอบทูตสวรรค์ของพระเจ้าผู้ยืนอยู่ท่ามกลางต้นน้ำมันเขียวว่า <เราได้ตรวจตราโลกแล้ว ดูเถิด ทั้งโลกก็นิ่งสงบอยู่> 12 แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้ากล่าวว่า <ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา อีกนานเท่าใด พระองค์จะไม่ทรงเมตตากรุงเยรูซาเล็มและหัวเมืองแห่งยูดาห์ ซึ่งพระองค์ก็ทรงกริ้วมาเจ็ดสิบปีแล้วพระเจ้าข้า> 13 และพระเจ้าทรงตอบทูตสวรรค์ผู้ที่สนทนากับข้าพเจ้า เป็นพระวาทะที่ประเสริฐและเล้าโลมใจ 14 ทูตสวรรค์ผู้ที่สนทนาอยู่กับข้าพเจ้าจึงกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า <จงร้องว่า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า เรามีความหวงแหนกรุงเยรูซาเล็ม คือกรุงศิโยนเป็นที่ยิ่ง 15 เราโกรธประชาชาติมากที่อยู่อย่างสบายๆ เพราะเมื่อเราโกรธแต่น้อย เขาก็ก่อภัยพิบัติเกินขนาด 16 พระเจ้าจึงตรัสว่า เพราะฉะนั้น เรากลับมายังกรุงเยรูซาเล็มด้วยความกรุณา พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จะต้องสร้างนิเวศของเราขึ้นไว้ในนั้นและขึงเชือกวัดไว้เหนือกรุงเยรูซาเล็ม 17 จงร้องอีกว่า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า เมืองของเราจะไพบูลย์ท่วมท้นไปด้วยความมั่งคั่งอีก และพระเจ้าจะปลอบศิโยนและเลือกสรรกรุงเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง> >> นิมิตของผู้เผยพระวจนะเรื่องสิงค์และช่างเหล็ก 18 ข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้นแลเห็น ดูเถิด มีสิงค์สี่สิงค์ 19 ข้าพเจ้าจึงถามทูตสวรรค์ที่สนทนาอยู่กับข้าพเจ้าว่า <<เหล่านี้คืออะไร>> ท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่า <<เหล่านี้คือสิงค์ที่ขวิดยูดาห์ อิสราเอลและเยรูซาเล็ม ให้กระจัดกระจายไป>> 20 แล้วพระเจ้าจึงทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นช่างเหล็กสี่คน 21 และข้าพเจ้าจึงถามว่า <<คนเหล่านี้มาทำอะไรกัน>> พระองค์ทรงตอบว่า <<สิงค์เหล่านี้มาขวิดยูดาห์ให้กระจัดกระจายไป จนไม่มีผู้ใดยกศีรษะขึ้นได้อีก และช่างเหล่านี้มากระทำให้สิงค์หวาดกลัว เพื่อจะเหวี่ยงลงซึ่งสิงค์แห่งประชาชาติ ที่ยกสิงค์ของตนมาขวิดแผ่นดินยูดาห์กระทำให้กระจัดกระจายไป>> |