วิวรณ์ 11 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971พยานทั้งสอง 1 ท่านผู้หนึ่งจึงเอาไม้อ้อท่อนหนึ่งให้ข้าพเจ้ารูปร่างเหมือนไม้วัด แล้วสั่งข้าพเจ้าว่า <<จงลุกขึ้นไปวัดพระวิหารของพระเจ้า และแท่นบูชาและคำนวณคนทั้งหลายซึ่งนมัสการในนั้น 2 แต่ไม่ต้องวัดลานชั้นนอกพระวิหารนั้น เพราะว่าที่นั่นได้มอบให้แก่คนต่างชาติแล้ว และเขาจะเหยียบย่ำวิสุทธนคร ตลอดสี่สิบสองเดือน 3 และเราจะให้ฤทธิ์อำนาจแก่พยานทั้งสองของเรา เพื่อให้เผยพระวจนะตลอดพันสองร้อยหกสิบวัน และให้เขาแต่งตัวด้วยผ้ากระสอบ 4 พยานทั้งสองนั้นคือต้นมะกอกเทศสองต้น และคันประทีปสองคันที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าพระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งแผ่นดินโลก 5 ถ้าผู้ใดทำร้ายพยานทั้งสองนั้น ไฟก็จะพลุ่งออกจากปากเผาผลาญศัตรูผู้นั้น ถ้าผู้ใดทำร้ายพยานทั้งสอง ผู้นั้นก็จะต้องตาย 6 พยานทั้งสองมีฤทธิ์ปิดท้องฟ้าได้ เพื่อไม่ให้ฝนตกในระหว่างวันเหล่านั้นที่เขากำลังเผยพระวจนะ และมีฤทธิ์ทำให้น้ำกลายเป็นเลือดได้ และมีฤทธิ์บันดาลให้ภัยพิบัติต่างๆ กระหน่ำโลกกี่ครั้งก็ได้ตามความปรารถนา 7 และเมื่อเสร็จสิ้นการเป็นพยานแล้ว สัตว์ร้ายที่ขึ้นมาจากบาดาลก็จะสู้รบกับเขา จะชนะเขาและจะฆ่าเขาเสีย 8 และศพของเขาจะอยู่ที่ถนนในมหานครนั้น ซึ่งตามอุปมาเรียกว่าเมืองโสโดม และเมืองอียิปต์ อันเป็นเมืองซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาถูกตรึง 9 คนหลายชาติ หลายเผ่า หลายภาษา หลายประชาชาติ จะเพ่งดูศพเขาตลอดสามวันครึ่ง และจะไม่ยอมให้เอาศพนั้นใส่อุโมงค์เลย 10 คนทั้งหลายซึ่งอยู่ในแผ่นดินโลกจะยินดีเพราะเขาและจะสนุกสนานรื่นเริง จะให้ของขวัญแก่กัน เพราะว่าผู้เผยพระวจนะทั้งสองนี้ได้ทรมานคนเหล่านั้นที่อยู่ในโลก>> 11 เมื่อเวลาผ่านไปสามวันครึ่งแล้ว ลมปราณจากพระเจ้าก็เข้าสู่ศพของเขาอีก และเขาก็ลุกขึ้นยืน คนทั้งหลายที่ได้เห็นเขาก็มีความหวาดกลัวเป็นอันมาก 12 คนทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงดังมาจากสวรรค์ ตรัสแก่เขาว่า <<จงขึ้นมาที่นี่เถิด>> และพวกศัตรูก็เห็นเขาขึ้นไปในหมู่เมฆสู่สวรรค์ 13 และในเวลานั้นก็เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และเมืองนั้นก็ถล่มลงเสียหนึ่งในสิบส่วน มีคนตายเพราะแผ่นดินไหวเจ็ดพันคน และคนที่เหลืออยู่นั้นมีความหวาดกลัวยิ่ง และได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าแห่งสวรรค์ 14 วิบัติอย่างที่สองก็ผ่านไปแล้ว ดูเถิด วิบัติอย่างที่สามก็จะมาถึงในไม่ช้านี้แหละ แตรคันที่เจ็ด 15 และทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดก็เป่าแตรขึ้น และมีเสียงหลายๆเสียงกล่าวขึ้นดังๆในสวรรค์ว่า <<ราชอาณาจักรแห่งพิภพนี้ ได้กลับเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์ >> 16 และผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนซึ่งนั่งในที่นั่งของตน เบื้องหน้าพระเจ้าก็ทรุดตัวลงกราบนมัสการพระเจ้า 17 และทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ทรงดำรงอยู่บัดนี้และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน ข้าพระองค์ทั้งหลายรำลึกในพระคุณของพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงใช้ฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่งของพระองค์ ทรงเริ่มครอบครองแผ่นดินโลก 18 เหล่าประชาชาติมีความโกรธแค้น แต่พระนิเคราะห์ของพระองค์ก็มาถึงแล้ว ถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาคนทั้งหลายที่ตายไปแล้ว และถึงเวลาประทานบำเหน็จแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้เผยพระวจนะและธรรมิกชนทั้งปวง และแก่คนทั้งหลายที่ยำเกรงพระนามของพระองค์ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย และถึงเวลาแล้ว ที่พระองค์จะทรงทำลายคนที่ทำลายแผ่นดินโลก>> 19 แล้วพระวิหารของพระเจ้าในสวรรค์ก็เปิด ในพระวิหารนั้นเห็นมีหีบพันธสัญญาของพระองค์ แล้วก็มีสายฟ้าแลบ และเสียงต่างๆ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว ลูกเห็บก็ตกอย่างหนัก |