เพลงสดุดี 102 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971คำร่ำร้องในยามทุกข์ใจ คำอธิษฐานของผู้ถูกข่มใจ เมื่อเขาอ่อนระอาใจและระบายความนั้นต่อพระเจ้า 1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ขอเสียงร้องของข้าพระองค์มาถึงพระองค์ 2 ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์ ในวันทุกข์ใจของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็วเมื่อข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ 3 เพราะวันของข้าพระองค์สิ้นไปอย่างควัน และกระดูกของข้าพระองค์ไหม้อย่างเตาไฟ 4 จิตใจของข้าพระองค์ถูกนาบเหมือนหญ้าและเหี่ยวไป ข้าพระองค์ลืมรับประทานอาหารของข้าพระองค์ 5 เหตุด้วยเสียงร้องครางของข้าพระองค์ กระดูกของข้าพระองค์เกาะติดเนื้อของข้าพระองค์ 6 ข้าพระองค์เป็นเหมือนนกกระทุงที่ในถิ่นทุรกันดาร ดุจนกเค้าแมวในที่ร้างเปล่า 7 ข้าพระองค์นอนไม่หลับ ข้าพระองค์เหมือนนกโดดเดี่ยวบนหลังคาเรือน 8 ศัตรูของข้าพระองค์เยาะหยันข้าพระองค์วันยังค่ำ ผู้ที่คลั่งใส่ข้าพระองค์ใช้ชื่อข้าพระองค์แช่ง 9 เพราะข้าพระองค์กินขี้เถ้าต่างอาหาร และเจือน้ำตาเข้ากับเครื่องดื่ม 10 เหตุด้วยความพิโรธและความกริ้วของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงชูข้าพระองค์ขึ้นและโยนข้าพระองค์ทิ้งไปเสีย 11 วันเวลาของข้าพระองค์เหมือนเงาเวลาเย็น ข้าพระองค์เหี่ยวไปเหมือนหญ้า 12 ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์ประทับบนบัลลังก์เป็นนิตย์ พระนามของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์ 13 พระองค์ทรงลุกขึ้นสงสารศิโยน เพราะถึงเวลาที่จะทรงพระกรุณาเธอ เออ เวลากำหนดมาถึงแล้ว 14 เพราะผู้รับใช้ของพระองค์รักซากก้อนหินของเธอนัก และสงสารผงคลีของเธอ 15 บรรดาประชาชาติจะกลัวพระนามของพระเจ้า และบรรดาพระราชาของแผ่นดินโลก กลัวพระสิริของพระองค์ 16 เพราะพระเจ้าจะทรงสร้างศิโยน พระองค์จะทรงปรากฏด้วยพระสิริของพระองค์ 17 พระองค์จะสนพระทัยในคำอธิษฐาน ของคนสิ้นเนื้อประดาตัว และจะไม่ทรงดูหมิ่นคำอธิษฐานของเขา 18 ขอบันทึกเรื่องนี้ไว้ให้ชาติพันธุ์ที่จะมีมา เพื่อประชาชนที่ยังจะทรงสร้างมานั้นจะได้สรรเสริญพระเจ้า 19 บันทึกว่า พระองค์ทอดพระเนตรลงมาจาก ที่สูงอันบริสุทธิ์ของพระองค์ จากฟ้าสวรรค์ พระเจ้าทอดพระเนตรแผ่นดินโลก 20 เพื่อทรงฟังเสียงร้องครางของเชลย เพื่อทรงปล่อยคนที่ต้องถึงตายให้เป็นอิสระ 21 เพื่อมนุษย์จะประกาศพระนามของพระเจ้าในศิโยน และกล่าวสรรเสริญพระองค์ในเยรูซาเล็ม 22 ขณะเมื่อชนชาติทั้งหลายรวบรวมกัน ทั้งบรรดาราชอาณาจักรเพื่อนมัสการพระเจ้า 23 พระองค์ทรงหักกำลังของข้าพเจ้ากลางทาง พระองค์ทรงกระทำให้วันเวลาของข้าพเจ้าสั้นเข้า 24 ข้าพเจ้าว่า <<ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงนำข้าพระองค์ไปเสีย ในกึ่งกลางวันเวลาของข้าพระองค์ พระองค์ ผู้ปีเดือนดำรงอยู่ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์>> 25 เมื่อเดิมพระองค์ทรงวางรากฐานของแผ่นดินโลก และฟ้าสวรรค์เป็นพระหัตถกิจของพระองค์ 26 สิ่งเหล่านี้จะพินาศ แต่พระองค์จะทรงดำรงอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเก่าไปเหมือนเครื่องนุ่งห่ม พระองค์ทรงเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ เหมือนเสื้อผ้า แล้วมันก็สิ้นไป 27 แต่พระองค์ยังคงเดิม และปีเดือนของพระองค์ไม่สิ้นสุด 28 ลูกหลานของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะอยู่มั่นคง และพงศ์พันธุ์ของเขาจะได้รับการสถาปนาต่อเบื้อง พระพักตร์พระองค์ |