อาฤธโม 31 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971อิสราเอลแก้แค้นคนมีเดียน และการชำระทรัพย์ที่ปล้นได้ 1 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 <<จงแก้แค้นคนมีเดียนเพื่อคนอิสราเอล แล้วภายหลังเจ้าจะถูกรวบให้ไปอยู่กับประชาชนของเจ้า>> 3 และโมเสสกล่าวกับประชาชนว่า <<จงเตรียมคนบางคนในพวกเจ้าให้พร้อมด้วยอาวุธ เพื่อทำสงคราม แล้วยกไปสู้พวกมีเดียน เพื่อกระทำการแก้แค้นของพระเจ้าต่อคนมีเดียน 4 เจ้าจงส่งคนจากเผ่าอิสราเอลเผ่าละพันคนเข้าทำสงคราม>> 5 ดังนั้นเขาจึงจัดคนจากอิสราเอลที่นับพันๆนั้น เผ่าละพันคน เป็นคนหมื่นสองพันสรรพด้วยอาวุธ เพื่อเข้าสงคราม 6 และโมเสสส่งคนเผ่าละพันคนออกไปทำสงคราม ทั้งคนเหล่านั้นกับฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ปุโรหิต พร้อมกับเครื่องใช้ของสถานนมัสการ และมีแตรปลุกอยู่ในมือ 7 เขาทำสงครามต่อสู้คนมีเดียน ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาโมเสสและได้ฆ่าผู้ชายเสียทุกคน 8 เขาได้ประหารชีวิตบรรดากษัตริย์คนมีเดียนพร้อมกับคน อื่นที่เขาฆ่าเสีย มีเอวี เรเคม ศูร์ เฮอร์และเรบากษัตริย์ทั้งห้าแห่งคนมีเดียน และได้ประหารชีวิตบาลาอัมบุตรเบโอร์เสียด้วยดาบ 9 และคนอิสราเอลได้จับสตรีชาวมีเดียนมาเป็นเชลย พร้อมกับพวกเด็กเล็กทั้งหลาย และกวาดเอาฝูงวัว ฝูงแพะแกะและข้าวของ ทั้งปวงไปสิ้น เป็นทรัพย์ที่ปล้นได้ 10 และเอาไฟเผาเมืองที่อาศัยของเขา และเผาค่ายทั้งสิ้นของเขาเสียด้วย 11 แล้วเก็บบรรดาของที่ริบได้ และทรัพย์ที่ปล้นได้ทั้งคนและสัตว์ไปเสียสิ้น 12 แล้วเขานำเชลยและทรัพย์สินที่ปล้นได้ กับของที่ริบได้ทั้งหมดมายังโมเสส และเอเลอาซาร์ปุโรหิต และชุมนุมชนอิสราเอลที่ค่าย ณ ทุ่งโมอับริมแม่น้ำจอร์แดนที่เมืองเยรีโค 13 โมเสสและเอเลอาซาร์ปุโรหิต และบรรดาประมุขแห่งคนอิสราเอลออกไปต้อนรับเขานอกค่าย 14 และโมเสสโกรธพวกนายทหาร คือนายพันและนายร้อยผู้กลับจากการทำสงคราม 15 โมเสสพูดกับเขาทั้งหลายว่า <<ท่านทั้งหลายได้ไว้ชีวิตพวกผู้หญิงทั้งหมดหรือ 16 ดูเถิด โดยคำปรึกษาของบาลาอัม หญิงเหล่านี้ได้กระทำให้คนอิสราเอลหลงกระทำผิด ต่อพระเจ้าในเรื่องเปโอร์ และภัยพิบัติจึงได้เกิดขึ้นท่ามกลางชุมนุมชนของพระเจ้า 17 เพราะฉะนั้นจงประหารชีวิตเด็กผู้ชายเล็กเสียทุกคน และประหารชีวิตผู้หญิงซึ่งได้ร่วมกับผู้ชายเสียทุกคน 18 แต่จงไว้ชีวิตเด็กผู้หญิงที่ยังไม่ได้ร่วมกับผู้ชาย ไว้สำหรับท่านทั้งหลายเอง 19 จงอยู่ภายนอกค่ายเจ็ดวัน ท่านผู้ใดที่ได้ฆ่าคน และท่านผู้ใดที่ได้แตะต้องผู้ที่ถูกฆ่า จงชำระตัวและเชลยของตัว ในวันที่สามและวันที่เจ็ด 20 ท่านต้องชำระเครื่องแต่งกายทุกชิ้น เครื่องหนังสัตว์ทุกชิ้น และเครื่องขนแพะทั้งหมด และเครื่องที่ทำด้วยไม้ทุกชิ้น>> 21 และเอเลอาซาร์ปุโรหิตได้กล่าวแก่ทหารผู้ ออกไปทำสงครามว่า <<นี่เป็นกฎพระธรรมซึ่งพระเจ้าได้บัญชาโมเสส 22 เฉพาะทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ดีบุก และตะกั่ว 23 ทุกสิ่งที่ทนไฟได้ เจ้าทั้งหลายจงลวกเสียด้วยไฟ แล้วจะสะอาด อย่างไรก็ดีต้องเอาน้ำล้างมลทินชำระด้วย และสิ่งใดที่ทนไฟไม่ได้ท่านต้องให้ผ่านน้ำ 24 ท่านต้องซักเสื้อผ้าของท่านในวันที่เจ็ด และท่านจะสะอาด ภายหลังท่านจึงจะเข้ามาในค่ายได้>> การแบ่งทรัพย์ที่ปล้นได้ 25 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 26 <<เจ้าและเอเลอาซาร์ปุโรหิต กับหัวหน้าบรรดาตระกูลของชุมนุมชน จงนับสิ่งของที่ได้มา ทั้งคนและสัตว์ 27 และแบ่งสิ่งของเหล่านั้นออกเป็นสองส่วนให้ทหารผู้ออกไป ทำสงครามส่วนหนึ่งและให้ชุมนุมชนนี้อีกส่วนหนึ่ง 28 และจงชักส่วนหนึ่งจากทหารที่ออกไปทำสงครามเป็น ของถวายแด่พระเจ้า ห้าร้อยชักหนึ่ง ทั้งคนและวัว และลา และฝูงแพะแกะ 29 จงเอาจากกึ่งส่วนของเขา มอบให้แก่เอเลอาซาร์ปุโรหิตเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า 30 และจากส่วนของคนอิสราเอลนั้น เจ้าจงนำห้าสิบชักหนึ่งจากคน ฝูงวัว ฝูงลาและฝูงแพะแกะ และสัตว์ทั้งหมด มอบให้แก่คนเลวี ผู้ดูแลพลับพลาของพระเจ้า>> 31 และโมเสสกับเอเลอาซาร์ปุโรหิตได้กระทำตามที่ พระเจ้าทรงบัญชาแก่โมเสส 32 บรรดาทรัพย์ที่ปล้นได้อันเหลือจากสิ่งที่ทหารริบมาได้นั้น คือ แกะหกแสนเจ็ดหมื่นห้าพันตัว 33 วัวเจ็ดหมื่นสองพันตัว 34 ลาหกหมื่นหนึ่งพันตัว 35 และคน คือ ผู้หญิงที่ยังไม่เคยนอนร่วมกับชายรวมกัน ทั้งหมดมีสามหมื่นสองพันคน 36 และในส่วนได้ของคนที่ออกไปทำสงคราม มีแกะสามแสนสามหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยตัว 37 และส่วนแกะที่เป็นของพระเจ้ามีหกร้อยเจ็ดสิบห้าตัว 38 มีวัวสามหมื่นหกพันตัว วัวอันเป็นส่วนของพระเจ้าเจ็ดสิบสองตัว 39 มีลาสามหมื่นห้าร้อยตัวซึ่งเป็นส่วนของพระเจ้าหกสิบเอ็ดตัว 40 ส่วนคนนั้นมีหนึ่งหมื่นหกพันซึ่งเป็นส่วนของพระเจ้า สามสิบสองคน 41 โมเสสได้มอบส่วนที่ชักมาซึ่งเป็นของถวายแด่พระเจ้านั้น แก่เอเลอาซาร์ปุโรหิตตามที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้กับโมเสส 42 จากครึ่งส่วนของคนอิสราเอล ซึ่งโมเสสได้แบ่งมาจากส่วนที่ทหารไปทำสงครามได้มานั้น ( 43 ครึ่งส่วนของชุมนุมชน คือ แกะสามแสนสามหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยตัว 44 วัวสามหมื่นหกพันตัว 45 ลาสามหมื่นห้าร้อยตัว 46 และคนหนึ่งหมื่นหกพันคน) 47 จากครึ่งส่วนของคนอิสราเอลนั้น โมเสสได้เอาส่วนห้าสิบ ชักหนึ่งทั้งคนและสัตว์มอบให้แก่คนเลวี ผู้ดูแลพลับพลาของพระเจ้า ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ 48 แล้วนายทหารผู้บังคับกองพันทั้งปวง คือ นายพันนายร้อยได้เข้ามาใกล้โมเสส 49 และกล่าวแก่โมเสสว่า <<คนใช้ของท่านได้ตรวจนับทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ของข้าพเจ้าทั้งหลายแล้ว ไม่มีคนหายไปสักคนเดียว 50 และข้าพเจ้าทั้งหลายได้นำส่วนที่ถวายแด่พระเจ้า ซึ่งต่างคนต่างได้มา คือ สิ่งที่ทำด้วยทองคำ มีกำไลขาและสร้อยคอ แหวนตรา ตุ้มหู และกำไล เพื่อทำการลบมลทินบาปของพวกเราทั้งหลายต่อพระเจ้า>> 51 โมเสสและเอเลอาซาร์ปุโรหิตก็รับสิ่งของที่ ทำด้วยทองคำจากเขา 52 และทองคำทั้งสิ้นซึ่งเขาได้ถวายแด่พระเจ้า จากนายพันและนายร้อย มีน้ำหนักหนึ่งหมื่นหกพันเจ็ดร้อยห้าสิบเชเขล 53 (ทหารเหล่านั้นต่างคนต่างได้เก็บข้าวของของข้าศึกมา) 54 โมเสสและเอเลอาซาร์ปุโรหิตได้รับทองคำจากนายพัน นายร้อย นำมาในเต็นท์นัดพบเป็นอนุสรณ์แก่คนอิสราเอลต่อพระเจ้า |